xs
xsm
sm
md
lg

การ์ดแดงยิงนศ.รามดับ3 ตร.อุ้ม-มหาลัยปิดทั่วปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลังจากนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับทราบคนเสื้อแดงทำร้ายนักศึกษาหญิงที่บริเวณซ.รามคำแหง 53 นศ.จึงได้ตั้งเวทีปราศรัยพร้อมยื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตรวจสอบเรื่องนี้ ที่บริเวณหอนาฬิกา หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้เกิดเหตุชายสองคนได้บุกเข้ามาในกลุ่มและชกต่อยนักศึกษา ทำให้นศ.โกรธแค้นเข้าทำลายรถเมล์ ที่คนเสื้อแดงโดยสารมายังสนามราชมังคลากีฬาสถาน ส่วนบนท้องถนนนศ.ได้ ออกตรวจค้นรถที่ผ่านไปมาไม่ให้มีสัญลักษณ์เสื้อแดง
ขณะที่แกนนำ นปช.ทยอยขึ้นปราศรัยภายในสนามราชมังคลาฯ เรียกร้องให้คนเสื้อแดงเตรียมพร้อมออกมาเคลื่อนไหว พร้อมขอให้รัฐบาลจัดการกับผู้กระทำผิดกฎหมายที่บุกรุกสถานที่ราชการ ไม่เช่นนั้นคนเสื้อแดงจะออกมาเคลื่อนไหว
สถานการณ์เริ่มตึงเครียดเป็นทวีคูณ เพราะได้มีการยั่วยุและกระทบกระทั่งกันเป็นระยะ ทั้งบริเวณโดยรอบม.รามคำแหง และบริเวณโดยรอบสนามราชมังคลาฯ ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 30 พ.ย. จนถึงเช้าของวันที่ 1 ธ.ค. ขณะที่มีเสียงปืนและมีการปาระเบิดเพลิงดังเป็นระยะ บนถนนรามคำแหง
ต่อมา 20.20 น. นศ.รามคำแหงได้ย้ายเวทีจัดเวทีปราศรัย เข้าไป ณ ลานพ่อขุนรามคำแหง ภายในรั้วมหาวิทยาลัย มีการจัดการ์ดนักศึกษารักษาความปลอดภัยทั้งประตูหน้าและประตูหลังของมหาวิทยาลัย เพื่อป้องกันความปลอดภัย
แต่เมื่อเวลา 21.30 น. มีข่าวแจ้งว่า กลุ่ม นปช.ได้มารวมตัวกันอยู่ที่ประตูหลังราม และประตูที่เชื่อมต่อกับสนามราชมังคลาฯ ทำให้นักศึกษาจำนวนมากลุกฮือขึ้นไปบริเวณดังกล่าว จากนั้นไม่ถึง 10 นาที ก็ปรากฏมีนักศึกษากลับมาบอกว่าถูกตำรวจยิงที่ประตูหลังรามจากนั้นทางการ์ดจึงได้เปิดประตูใหญ่เพื่อให้รถพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล มีบรรดาเพื่อนๆ ของนักศึกษาที่โดนยิงวิ่งตามกันมา พร้อมระบุว่ามีนศ.ถูกยิงที่ท้อง อีกคนหนึ่งโดนยิงที่เท้า ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลรามคำแหง

*** อธ.รามฯ ประณาม ตร. ไม่จริงใจ
ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่ม (นปช.) กับนศ.รามฯว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะได้พยายามประสานงานกับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ส่งเข้ามาตำรวจมาดูแลสถานการณ์ แต่ตำรวจก็บอกว่าการจราจรติดขัด ไม่สามารถมาได้
ทั้งนี้ ตนเองดูแลลูกศิษย์ด้วยโทรศัพท์มือถือกับมือสองมือ และหัวใจที่มีให้กับผู้ชุมนุมในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ ไม่ว่าจะสีอะไรก็ตาม ตนก็ดูแลเพื่อที่จะไม่ให้เกิดความไม่ความปลอดภัย เจตนาของตนที่ให้ลูกศิษย์เข้าไปในมหาวิทยาลัยเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกันกับข้างนอก เมื่อเข้ามาแล้วปรากฎว่าขอความร่วมมือจากทางตำรวจที่จะให้มาช่วยดูแลกลุ่มบุคคลที่ยิงเข้ามาบริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัย ซึ่งขนะนี้บาดเจ็บไปแล้ว หลายรายและมีผู้เสียชีวิตด้วย
“เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในบ้านเมือง ถ้ารัฐบาลมีความมั่นใจว่าจะสามารถดูแลสถานการณ์ได้ ตรงนี้ท่านต้องมีความมั่นใจที่จะส่งกำลังตำรวจเข้ามาดูแลลูกศิษย์ของผม ไม่ใช่ปล่อยให้เราให้อยู่ในสภาพที่จะต้องดูแลกันเองในลักษณะเช่นนี้ จะทำให้สถานการณ์แย่ลง ถ้าท่านไม่สามารถที่จะส่งคนขึ้นมาดูแลลูกศิษย์ลูกหาผมได้ ขอเรียนตามตรง รัฐบาลกับผมก็อยู่คนละข้าง ถ้าเป็นรัฐบาลอยู่แล้วไม่สามารถที่จะรักษากฎเกณฑ์กติกาบ้านเมืองได้ ไม่สามารถที่จะดูแลคนมือเปล่าได้แบบนี้ ผมว่าใช้ไม่ได้ ผมเองไม่ได้เลือกข้าง ไม่ได้เลือกใคร แต่วันนี้ได้เห็นกับตาตัวเองว่าลูกศิษย์ลูกหาผมนั้นโดนยิง โดนทำร้ายขนาดนี้ ผมคิดว่าใช้ไม่ได้” ผศ.วุฒิศักดิ์ กล่าว

*** สรุปนศ.เสียชีวิต 3 ศพ เจ็บ 58 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร ได้สรุปจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุการณ์สลายกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา ข้อมูล ณ เวลา 18.00 น. ว่า มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 46 ราย อยู่ที่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช จำนวน 33 ราย รพ.กลาง 2 ราย รพ.ราชวิถี 5 ราย และ รพ.รามาธิบดี 6 ราย ส่วนเหตุปะทะระหว่างกลุ่ม นปช.และนักศึกษา ม.รามคำแหง บาดเจ็บ 58 ราย เสียชีวิต 3 ราย โดย 2 รายแรกเสียชีวิตที่โรงพยาบาลรามคำแหง คือ นายทวีศักดิ์ โพธิแก้ว อายุ 21 ปี ถูกยิงที่ชายโครงขวา และนายวิษณุ เภาพู่ อายุ 26 ปี ถูกยิงที่บริเวณหน้าอก ส่วนอีกรายคือ นายวิโรจน์ เข็มนาค อายุ 43 ปี ที่สถาบันนิติเวช สำหรับผู้บาดเจ็บอยู่ที่ รพ.รามคำแหง 6 ราย รพ.แพทย์ปัญญา 15 ราย รพ.เพชรเวช 4 ราย รพ.จุฬารัตน์ 9 1 ราย รพ.ราชวิถี 12 ราย รพ.วิภาราม 7 ราย รพ.รามาธิบดี 8 ราย รพ.คามิลเลียน 2 ราย รพ.นพรัตนราชธานี 1 ราย รพ.เปาโลโชคชัย 4 1 ราย และ รพ.พระมงกุฏเกล้า 1 ราย
ขณะที่ สธ.สรุปยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ณ เวลา 17.00 น. ว่า มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 118 ราย แบ่งเป็นบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณ ม.รามคำแหง 61 ราย เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุม 57 ราย

***สปสช.แจ้งผู้บาดเจ็บรักษาฟรีทุก รพ.
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้น จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางสปสช.ขอแจ้งให้ทราบว่า ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ หรือผู้ที่ประสบเหตุต้องนำส่งผู้ป่วย สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลและนำส่งผู้ป่วย ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ใกล้ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชน เพื่อได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาล
“ไม่ว่าจะมีสิทธิการรักษาพยาบาลแบบไหน ทุกคนสามารถเข้ารับการรักษาได้ในทุกโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้หากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนสปสช. โทร. 1330 ตลอดเวลา” เลขาธิการสปสช. กล่าว

**อดีตปลัด มท.ชี้ฝีมือแรมโบ้อีสาน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายพงศ์โพยม วาศภูติ และ นายอารีย์ วงศ์อารยะ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผุ้ร่วมชุมนุมที่เดินทางมาปิดล้อมกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวว่ารัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศแล้ว ที่ทุกองค์กรต่างต่อต้าน และรัฐบาลเองก็ไม่สามารถบริหารราชการบ้านเมืองได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อรัฐบาลไปต่อไม่ได้ ก็คืนอำนาจให้ประชาชนดีกว่าใช้ความรุนแรงปราบปราม หรือใช้มวลชนแดง จะซ้ำรอยเหตุการณ์ปี 53 และอย่าหลงผิดใช้ความรุนแรงเหมือนเหตุการณ์ที่ย่านรามคำแหง เมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นสายฮาร์ดคอร์ ที่นิยมความรุนแรงของกลุ่มเสื้อแดงที่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง พาเข้ามา" นายพงศ์โพยม กล่าว

*** มธ.สั่งปิดยาวถึง 10 ธ.ค.
ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.)กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่กลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.ร.) ถูกทำร้าย จนกระทั่งมีผู้เสียชีวิต ตนในฐานะอธิการบดีมธ. มีความห่วงใยในสวัสดิภาพขอบุคลากรและนักศึกษามธ. จึงได้ประกาศหยุดการเรียนการสอน ของมธ.ทั่วประเทศ ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ เพราะขณะนี้คิดว่าเหตุการณ์ลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้ ขณะเดียวกันในการประชุม ทปอ.วันที่ 2 ธ.ค.นี้ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตนจะหยิบยกกรณีข้อเสนอที่จะปิดการเรียนการสอนมหาวิทยาลัยทั่วประเทศวันที่ 5-10 ธ.ค.ในที่ประชุม
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่า มีมหาวิทยาลัยประกาศงดการเรียนการสอนในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ม.มหิดล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ม.ศิลปากร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ส่วนกลุ่มโรงเรียนนั้นพบว่า ร.ร.วัดมกุฏกษัตริยาราม ร.ร.วัดบวรนิเวศ ร.ร.วัดเบญจมบพิตร ร.ร.ราชวินิต ประถม ร.ร.ราชวินิต มัธยม ร.ร.สตรีวิทยา และ ร.ร.สันติราษฎร์วิทยาลัย ปิดเรียนวันที่ 2 ธ.ค.2556 เช่นกัน

** จุฬาฯ เสียใจครอบครัว นศ.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์ใจความว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรู้สึกกังวลใจที่เกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้ รวมทั้งขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ถูกกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยเฉพาะความรุนแรงที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยรามคำแหงซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาและเป็นหน่วยงานแห่งหนึ่งของรัฐ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ไม่ใช้ความรุนแรงและไม่ยั่วยุให้มีการใช้ความรุนแรงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยและความมั่นคงทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ชีวิต ร่างกาย และสวัสดิภาพของประชาชน

**เสื้อแดงเลิกชุมนุมชั่วคราว
ด้านแกนนำ นปช. ได้ประกาศยกเลิกการชุมนุมชั่วคราว ส่งผลให้นักศึกษารามฯ ต่างมาโห่ร้องใส่ด้วยความโกรธแค้นที่บริเวณประตูทางเข้าการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำวจหน่วยปราบจลาจลตรึงกำลังไว้ภายในรั้วเหล็กของการกีฬาแห่งประเทศไทยตลอดแนว โดยในฟากฝั่งของทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยรักษาการณ์แต่อย่างใด ส่วน นปช.ต่างทยอยเดินทางออกจากสนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยใช้ประตูฝั่งข้าง สน.หัวหมาก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปราบปรามจลาจลคอยดูแลเป็นอย่างดี

***ทหารรับ นศ.ติดค้างกลับบ้าน
ขณะที่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ประสานพ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บังคับกรมทหารราบที่ 11 นำทหารจากค่าย ร.11พัน 1 จำนวน 200 นาย มารักษาความปลอดภัยบริเวณภายในและโดยรอบมหาวิทยาลัยรามคำแหง และขณะเดียวกัน ก็ได้พา นศ.รามคำแหง ที่ติดอยู่ภายในตึกอธิการบดี ไปส่งยังสถานที่ปลอดภัย ซึ่งได้ประสานไว้เรียบร้อยแล้ว โดยขนนักศึกษาด้วยรถบัสของ ม.รามคำแหง 5 คัน
นายนราเมศวร์ และนางสุรีย์ ธีระรังสิกุล พ่อแม่ของนายทวีศักดิ์ นักศึกษา ม.รามคำแหง ที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ยังรู้สึกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ต้องการให้นำกรณีการเสียชีวิตของบุตรชายมาเป็นประเด็นทางการเมืองหรือหยิบยกเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายและขอให้บ้านเมืองสงบสุขโดยเร็ว ไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น