รอง ผบ.ตร.ตรวจสอบรถบัสที่ถูกเผาเหตุรุนแรงมหาวิทยาลัยรามฯ พบกระสุนปืนเกลื่อนรอบศาลองค์พระ ด้านอธิการบดีโต้ตร. เห็นกับตานศ.รามฯถูกซุ่มยิง ปชป.รุมประณามรัฐบาลมือเปื้อนเลือด ด้านมหาลัยฯ-รร.ทั่วประเทศปิดต่อเนื่อง
วานนี้ (2 ธ.ค.) ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วยพล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) พร้อมทีมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ทีมพนักงานสอบสวนรับผิดชอบคดีมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กลุ่มนักศึกษา ม.รามคำแหง ปะทะกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.
โดยจุดแรก เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรถบัสโดยสาร 2 ชั้น หมายเลขทะเบียน 30-0170 กำแพงเพชร ซึ่งถูกเผาแล้วพบโครงกระดูกอยู่ภายในรถ บริเวณประตู 1 ทางเข้าสนามกีฬาราชมังคลาฯ เจ้าหน้าที่พบโครงกระดูกตั้งแต่ช่วงบริเวณซี่โครงติดกับโคนต้นขวาในสภาพไหม้เกรียม วางอยู่ช่วงบันไดทางขึ้นรถ นอกจากนั้นยังพบเศษชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน เศษเสื้อผ้าสี และเศษหัวเข็มขัด สภาพถูกไฟไหม้เกรียม เจ้าหน้าที่จึงนำออกมาตรวจสอบก่อนส่งไปตรวจอย่างละเอียดยังกองพิสูจน์ หลักฐานกลาง จากนั้นเข้าตรวจสอบรถตู้ 2 คันที่ถูกเผา ขณะที่พื้นหญ้ารอบศาลองค์พระ หน้าประตูทางเข้าสนามกีฬา พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ขนาด .38 และขนาด.380 จำนวน 12 ปลอกตกอยู่เกลื่อนพื้น
พล.ต.อ.เอก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถบัสคันนี้กำลังเดินทางเข้ารับกลุ่ม นปช.ก่อนจะมีเหตุปะทะกันเกิดขึ้น ทำให้คนขับรถบัสทิ้งรถหลบหนีไป ก่อนที่รถจะถูกไฟไหม้
ด้าน พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวถึงประเด็นที่บอกว่ามีสไนเปอร์มาก่อเหตุยิงนักศึกษารามนั้น ตรวจสอบวิถีการยิงแล้วพบว่าเป็นการยิงในแนวระนาบ เป็นการเผชิญหน้ากันในระยะประมาณไม่เกิน 3 เมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจบริเวณประตู 8 ด้านหลัง ม.รามคำแหง ซึ่งเป็นจุดที่ นายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว ถูกยิงเสียชีวิต โดยมี นายฉัตรชัย ดำประสงค์ อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ซึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่ขาด้านขวา เดินทางมาร่วมชี้จุดเกิดเหตุด้วย และจุดสุดท้าย ภายในสนามกีฬาราชมังคลาฯ หน้าศูนย์ซ่อมและบำรุงรักษา กองซ่อมบำรุงรักษาฝ่ายกีฬาสถาน ซึ่งเป็นจุดที่นายวิโรจน์ถูกยิงเสียชีวิต
***ศอ.รส. ยันไม่ได้เพิกเฉยช่วยเด็กรามฯ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. แถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมว่า ยืนยันว่ามีกลุ่มบุคคลมาขวางกั้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไว้ ซึ่งได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ให้การช่วยเหลือและนำคนเจ็บ ตลอดจนนักศึกษาออกมาจากมหาวิทยาลัยและสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว
พร้อมทั้งได้มี เฟซบุ๊กแฟนเพจ Policespokesmen ของทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้โพสต์ภาพถ่าย 4 ภาพ โดยระบุว่า “ภาพยืนยัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ นักศึกษา ม.รามฯ เพื่อออกจากพื้นที่ใน ม.รามฯ”
“ข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือนักศึกษา ม.รามฯ แต่ปรากฏว่าขณะที่นำกำลังเข้าไปนั้น มีกลุ่มมวลชนได้ขัดขวาง จึงได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ได้ข้อสรุปว่า จะใช้เจ้าหน้าที่ทหารเพื่อเข้ามาช่วยเหลือนักศึกษาแทน”
***อธิการบดี โต้ตร.เมินความปลอดภัยนศ.รามฯ
ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผศ.ดร.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยถึงเหตุการณ์การปิดล้อมและทำร้ายนักศึกษา ม.ราม คืนวันที่ 30 พ.ย.ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 1 ธ.ค.ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีนักศึกษาเสียชีวิตทั้งสิ้น 3 ราย และบาดเจ็บกว่า 60 คนซึ่งขณะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นได้ตนโทรศัพท์ประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติตลอดเวลา แต่กลับถูกปฏิเสธการเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
ผศ.ดร.วุฒิศักดิ์ ยืนยันด้วยว่า มีคนร้ายในชุดดำใช้สไนเปอร์ยิงนักศึกษาต่อหน้าต่อตาที่วิ่งหนีเอาตัวรอด บริเวณหน้าตึกสำนักงานอธิการบดี
***มหาลัย- รร.พร้อมใจปิดเรียนต่อเนื่อง
นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีโรงเรียนเอกชนในเขตกรุงเทพมหานครขอหยุดการเรียนการสอนจำนวน 5 แห่งได้แก่ โรงเรียนเซนต์คราเบรียล-โยนออฟอาร์ค - พันธะศึกษา หยุดถึง5 ธ.ค. โรงเรียนราชีนีบน หยุดถึง 3 ธันวาคม
นายโรจนะ กฤษเจริญ รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพี้นฐาน (สพฐ.) ปิดการเรียนการสอนต่อเนื่อง 1 วัน ในวันที่ 3 ธ.ค. เนื่องจากเกรงว่านักเรียนจะได้รับผลกระทบในการเดินทางจากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง จำนวน 19 โรงเรียน แบ่งเป็น โรงเรียนประถมศึกษา 8 โรง ได้แก่ โรงเรียนพญาไท-อนุบาลสามเสนวิทยาลัย-ราชวินิต ประถม-อนุบาลวัดปรินายก -วัดพลับพลาชัย -วัดโสมนัส -วัดชนะสงคราม และ โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (วัดโบถส์) ในพระบรมราชูปถัมภ์
ส่วนโรงเรียมมัธยมศึกษา 10 โรง ได้แก่ โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร -ราชวินิตมัธยม-เบญจมราชาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ -วัดสังเวช -วัดน้อยนพคุณ -วัดราชาธิวาส - มัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ -วัดบวรนิเวศ - สันติราชวิทยาลัย และขณะที่ โรงเรียนสตรีวิทยา หยุดวันที่ 3-4 ธ.ค.
ส่วนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้ประกาศแจ้งหยุดการเรียนการสอนผ่านทางเว็บไซต์ของถึงวันที่ 6 ธันวาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ประกาศหยุดการเรียนการสอนและปิดทำการเพิ่มอีก 2 วัน คือ ในวันที่ 3-4 ธ.ค. มีดังนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทุกศูนย์การศึกษา, มหาวิทยาลัยศิลปากร-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เฉพาะวิทยาเขตบางเขน, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ส่วนคลินิกทันตกรรม รพ.สัตว์เล็ก จุฬาฯ คลินิกทันตกรรมบริการพิเศษ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ปิดให้บริการ ในวันที่ 3 - 5 ธ.ค. ส่วนโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ จะเปิดให้บริการเฉพาะคลินิกฉุกเฉิน ,มหาวิทยาลัยศรีปทุม บางเขน และวิทยาคารพญาไท ปิดวันที่ 3-5 ธ.ค.มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ปิดวันที่ 3 ธ.ค.มหาวิทยาลัยมหิดลและทุกวิทยาเขต ปิด 3-4 ธ.ค. ยกเว้นโรงพยาบาลในสังกัด เปิดให้บริการตามปกติ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประกาศปิด 2 วัน 3-4 ธ.ค.
**ปชป.รุมอัด“ยิ่งลักษณ์”มือเปื้อนเลือด
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น ทำให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลายเป็นรัฐบาลมือเปื้อนเลือด และหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศแล้ว เพราะสถานการณ์นี้ เริ่มต้นจากการนัดหมายชุมนุมใหญ่ของ กลุ่มนปช. ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ในขณะที่กลุ่มนักศึกษา ม.รามคำแหง ก็มีการชุมนุมภายในมหาวิทยาลัย ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งปรากฏเป็นข้อเท็จจริงว่า การปิดกล้องของนปช. มีการใช้อาวุธ และมีการใช้กองกำลังชายชุดดำ ที่มีการฝึกฝนในการเข้าโจมตีมาเป็นอย่างดี
นายณัฐฎ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ที่บริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแห่ง ที่ ศอ.รส. แถลงว่า เหตุการณ์สงบแล้ว แต่ข้อเท็จจริงยังมีการก่อเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น ในช่วงเช้า มีการเผารถตู้สองคัน และก่อเหตุประปราย ซึ่งจะต้องเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดมาให้ได้ แม้จะมีการจับได้สองคนแล้ว แต่มีการอ้างว่าพกอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัว แต่กลับมีกระสุนถึงร้อยนัด ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องการป้องกันตัวอย่างแน่นอน ทางพรรคจะทำการรวมรวบภาพถ่ายต่างๆในที่เกิดเหตุ เช่น มีการใช้รถตำรวจขนผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่สนามกีฬา ราชมังคลาสถาน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป
วานนี้ (2 ธ.ค.) ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วยพล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) พร้อมทีมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ทีมพนักงานสอบสวนรับผิดชอบคดีมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กลุ่มนักศึกษา ม.รามคำแหง ปะทะกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.
โดยจุดแรก เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรถบัสโดยสาร 2 ชั้น หมายเลขทะเบียน 30-0170 กำแพงเพชร ซึ่งถูกเผาแล้วพบโครงกระดูกอยู่ภายในรถ บริเวณประตู 1 ทางเข้าสนามกีฬาราชมังคลาฯ เจ้าหน้าที่พบโครงกระดูกตั้งแต่ช่วงบริเวณซี่โครงติดกับโคนต้นขวาในสภาพไหม้เกรียม วางอยู่ช่วงบันไดทางขึ้นรถ นอกจากนั้นยังพบเศษชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน เศษเสื้อผ้าสี และเศษหัวเข็มขัด สภาพถูกไฟไหม้เกรียม เจ้าหน้าที่จึงนำออกมาตรวจสอบก่อนส่งไปตรวจอย่างละเอียดยังกองพิสูจน์ หลักฐานกลาง จากนั้นเข้าตรวจสอบรถตู้ 2 คันที่ถูกเผา ขณะที่พื้นหญ้ารอบศาลองค์พระ หน้าประตูทางเข้าสนามกีฬา พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ขนาด .38 และขนาด.380 จำนวน 12 ปลอกตกอยู่เกลื่อนพื้น
พล.ต.อ.เอก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถบัสคันนี้กำลังเดินทางเข้ารับกลุ่ม นปช.ก่อนจะมีเหตุปะทะกันเกิดขึ้น ทำให้คนขับรถบัสทิ้งรถหลบหนีไป ก่อนที่รถจะถูกไฟไหม้
ด้าน พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวถึงประเด็นที่บอกว่ามีสไนเปอร์มาก่อเหตุยิงนักศึกษารามนั้น ตรวจสอบวิถีการยิงแล้วพบว่าเป็นการยิงในแนวระนาบ เป็นการเผชิญหน้ากันในระยะประมาณไม่เกิน 3 เมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจบริเวณประตู 8 ด้านหลัง ม.รามคำแหง ซึ่งเป็นจุดที่ นายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว ถูกยิงเสียชีวิต โดยมี นายฉัตรชัย ดำประสงค์ อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ซึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่ขาด้านขวา เดินทางมาร่วมชี้จุดเกิดเหตุด้วย และจุดสุดท้าย ภายในสนามกีฬาราชมังคลาฯ หน้าศูนย์ซ่อมและบำรุงรักษา กองซ่อมบำรุงรักษาฝ่ายกีฬาสถาน ซึ่งเป็นจุดที่นายวิโรจน์ถูกยิงเสียชีวิต
***ศอ.รส. ยันไม่ได้เพิกเฉยช่วยเด็กรามฯ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. แถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมว่า ยืนยันว่ามีกลุ่มบุคคลมาขวางกั้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไว้ ซึ่งได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ให้การช่วยเหลือและนำคนเจ็บ ตลอดจนนักศึกษาออกมาจากมหาวิทยาลัยและสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว
พร้อมทั้งได้มี เฟซบุ๊กแฟนเพจ Policespokesmen ของทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้โพสต์ภาพถ่าย 4 ภาพ โดยระบุว่า “ภาพยืนยัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ นักศึกษา ม.รามฯ เพื่อออกจากพื้นที่ใน ม.รามฯ”
“ข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือนักศึกษา ม.รามฯ แต่ปรากฏว่าขณะที่นำกำลังเข้าไปนั้น มีกลุ่มมวลชนได้ขัดขวาง จึงได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ได้ข้อสรุปว่า จะใช้เจ้าหน้าที่ทหารเพื่อเข้ามาช่วยเหลือนักศึกษาแทน”
***อธิการบดี โต้ตร.เมินความปลอดภัยนศ.รามฯ
ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผศ.ดร.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยถึงเหตุการณ์การปิดล้อมและทำร้ายนักศึกษา ม.ราม คืนวันที่ 30 พ.ย.ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 1 ธ.ค.ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีนักศึกษาเสียชีวิตทั้งสิ้น 3 ราย และบาดเจ็บกว่า 60 คนซึ่งขณะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นได้ตนโทรศัพท์ประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติตลอดเวลา แต่กลับถูกปฏิเสธการเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
ผศ.ดร.วุฒิศักดิ์ ยืนยันด้วยว่า มีคนร้ายในชุดดำใช้สไนเปอร์ยิงนักศึกษาต่อหน้าต่อตาที่วิ่งหนีเอาตัวรอด บริเวณหน้าตึกสำนักงานอธิการบดี
***มหาลัย- รร.พร้อมใจปิดเรียนต่อเนื่อง
นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีโรงเรียนเอกชนในเขตกรุงเทพมหานครขอหยุดการเรียนการสอนจำนวน 5 แห่งได้แก่ โรงเรียนเซนต์คราเบรียล-โยนออฟอาร์ค - พันธะศึกษา หยุดถึง5 ธ.ค. โรงเรียนราชีนีบน หยุดถึง 3 ธันวาคม
นายโรจนะ กฤษเจริญ รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพี้นฐาน (สพฐ.) ปิดการเรียนการสอนต่อเนื่อง 1 วัน ในวันที่ 3 ธ.ค. เนื่องจากเกรงว่านักเรียนจะได้รับผลกระทบในการเดินทางจากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง จำนวน 19 โรงเรียน แบ่งเป็น โรงเรียนประถมศึกษา 8 โรง ได้แก่ โรงเรียนพญาไท-อนุบาลสามเสนวิทยาลัย-ราชวินิต ประถม-อนุบาลวัดปรินายก -วัดพลับพลาชัย -วัดโสมนัส -วัดชนะสงคราม และ โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (วัดโบถส์) ในพระบรมราชูปถัมภ์
ส่วนโรงเรียมมัธยมศึกษา 10 โรง ได้แก่ โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร -ราชวินิตมัธยม-เบญจมราชาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ -วัดสังเวช -วัดน้อยนพคุณ -วัดราชาธิวาส - มัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ -วัดบวรนิเวศ - สันติราชวิทยาลัย และขณะที่ โรงเรียนสตรีวิทยา หยุดวันที่ 3-4 ธ.ค.
ส่วนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้ประกาศแจ้งหยุดการเรียนการสอนผ่านทางเว็บไซต์ของถึงวันที่ 6 ธันวาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ประกาศหยุดการเรียนการสอนและปิดทำการเพิ่มอีก 2 วัน คือ ในวันที่ 3-4 ธ.ค. มีดังนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทุกศูนย์การศึกษา, มหาวิทยาลัยศิลปากร-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เฉพาะวิทยาเขตบางเขน, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ส่วนคลินิกทันตกรรม รพ.สัตว์เล็ก จุฬาฯ คลินิกทันตกรรมบริการพิเศษ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ปิดให้บริการ ในวันที่ 3 - 5 ธ.ค. ส่วนโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ จะเปิดให้บริการเฉพาะคลินิกฉุกเฉิน ,มหาวิทยาลัยศรีปทุม บางเขน และวิทยาคารพญาไท ปิดวันที่ 3-5 ธ.ค.มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ปิดวันที่ 3 ธ.ค.มหาวิทยาลัยมหิดลและทุกวิทยาเขต ปิด 3-4 ธ.ค. ยกเว้นโรงพยาบาลในสังกัด เปิดให้บริการตามปกติ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประกาศปิด 2 วัน 3-4 ธ.ค.
**ปชป.รุมอัด“ยิ่งลักษณ์”มือเปื้อนเลือด
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น ทำให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลายเป็นรัฐบาลมือเปื้อนเลือด และหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศแล้ว เพราะสถานการณ์นี้ เริ่มต้นจากการนัดหมายชุมนุมใหญ่ของ กลุ่มนปช. ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ในขณะที่กลุ่มนักศึกษา ม.รามคำแหง ก็มีการชุมนุมภายในมหาวิทยาลัย ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งปรากฏเป็นข้อเท็จจริงว่า การปิดกล้องของนปช. มีการใช้อาวุธ และมีการใช้กองกำลังชายชุดดำ ที่มีการฝึกฝนในการเข้าโจมตีมาเป็นอย่างดี
นายณัฐฎ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ที่บริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแห่ง ที่ ศอ.รส. แถลงว่า เหตุการณ์สงบแล้ว แต่ข้อเท็จจริงยังมีการก่อเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น ในช่วงเช้า มีการเผารถตู้สองคัน และก่อเหตุประปราย ซึ่งจะต้องเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดมาให้ได้ แม้จะมีการจับได้สองคนแล้ว แต่มีการอ้างว่าพกอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัว แต่กลับมีกระสุนถึงร้อยนัด ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องการป้องกันตัวอย่างแน่นอน ทางพรรคจะทำการรวมรวบภาพถ่ายต่างๆในที่เกิดเหตุ เช่น มีการใช้รถตำรวจขนผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่สนามกีฬา ราชมังคลาสถาน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป