สันติวิธี !!

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลผ่านไปแล้ว การลงมติยังคงเป็นพวกมากลากไป ไว้วางใจทั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ให้บริหารราชการต่อไปได้

แม้ฝ่ายค้านจะรวบรวมข้อมูล หลักฐานมามัดอย่างไร แต่นายกฯปูนิ่ม ก็เอียงสีข้างแฉลบไปได้ อ้างไม่รู้ ไม่เห็น ฝ่ายค้านจินตนาการไปเอง และก็จะใช้มติที่สภาให้ความไว้วางใจนี้ มาอ้างถึงความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไป

ที่สำคัญ หลังจากนี้อำนาจในการยุบสภา ก็กลับมาอยู่ในมือยิ่งลักษณ์เหมือนเดิม หากสถานการณ์คับขัน จวนตัว ก็สามารถงัดออกมาใช้ได้ทันที

ข้างประชาธิปัตย์ ที่เล่นเกมเดิน 2 ขา เหยียบ 2 แคม ก็ถือว่าหมดภารกิจไปแล้วส่วนหนึ่ง คือส่วนที่พร่ำบอกว่า "ยึดมั่นในระบบรัฐสภา"

เหลือเพียงการต่อสู้นอกสภา ที่ขณะนี้ สุเทพ เทือกสุบรรณ นำทัพอยู่ และไปไกลเกินกว่าที่ระบบ "พรรคการเมือง" จะฉุดรั้ง เพราะได้ประกาศต่อหน้ามวลมหาประชาชนไปแล้วว่า จุดหมายปลายทางอยู่ที่การล้างระบอบทักษิณ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทย ด้วยการตั้งสภาประชาชน

1 เดือนของการชุมนุมต่างฝ่ายต่างใช้ความอดทน อดกลั้น หลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งที่จะนำไปสู่ความรุนแรง แต่ก็เป็นที่คาดหมายกันได้ว่า เพื่อบรรลุถึงเป้าหมาย ความอดทนอดกลั้น ที่ว่านั้นก็จะถึงที่สุดเข้าสักวัน ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่ง

ฝ่ายรัฐบาลได้ส่งสัญญาณมาแล้ว ด้วยการให้ยิ่งลักษณ์ ออกมาขอเจรจากับฝ่ายต่อต้าน แต่ตีกรอบไว้เสร็จสรรพว่า ต้องไม่ใช่่บนพื้นฐานที่จะนำไปสู่การตั้งสภาประชาชน เพราะขัดรัฐธรรมนูญ

การขอเจรจาเช่นนี้ ตีความได้ว่า รัฐบาลกำลังจะเริ่มมาตรการ "จากเบาไปหาหนัก" คงไม่ต้องอธิบายว่า เมื่อไปถึงขั้นหนักสถานการณ์จะเป็นอย่างไร

ความจริงแล้ว การเจรจาแบบสันติวิธี ที่สองฝ่ายมีเป้าหมายอยู่คนละจุด ใช่ว่าจะเกิดไม่ได้ ถ้าทั้งสองฝ่ายละวาง "อัตตา" ตัดเรื่องตัวบุคคล ตัดเรื่องความเป็นพรรคการเมืองออกไป

ฝ่ายรัฐบาลต้องตัดวาระของ"ทักษิณ" และตระกูลชินวัตร ตลอดจนความเป็นเพื่อไทย เป็นเสื้อแดง ออกไปให้ได้ ขณะเดียวกันฝ่ายค้านก็ต้องตัดความเป็นความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสถาบันทางการเมืองที่เก่าแก่ ตัดความเป็นภาคนิยมและกลุ่มเครือข่ายที่เป็นแนวร่วมออกไปก่อน

แล้วเอา "ปัญหาของประเทศไทย" ที่เป็นปัญหาจริงๆ มาเป็นตัวตั้ง เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน รับฟังความเห็นต่าง อย่างจริงจัง จริงใจ การแก้ปัญหาอย่าง"สันติวิธี" จึงจะเป็นจริงได้ โดยที่ประชาชนไม่ต้องล้มตาย ประเทศชาติไม่ต้องบอบช้ำ อย่างที่เห็นภาพรางๆอยู่ในขณะนี้