วานนี้ ( 28 พ.ย.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมจัดการเลือกตั้ง ส.ส. 8 เขตเลือกตั้ง แทนตำแหน่งที่ว่าง ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 7 เขตเลือกตั้งที่ 26 เขตเลือกตั้งที่ 29 จ.ชุมพร เขต 1 จ.ตรัง เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช เขต 3 จ.สงขลา เขต 6 และ จ.สุราษฎร์ธานี เขตเลือกตั้งที่ 2 ที่ขณะนี้ พ.ร.ฎ.กำหนดให้วันที่ 22 ธ.ค. เป็นวันเลือกตั้งมีผลใช้บังคับแล้ว และกกต.กำหนดเปิดรับสมัครในวันที่ 2-6 ธ.ค. เลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้งวันที่ 15 ธ.ค.นี้ โดยมีหน่วยงานสนับสนุน กกต.จังหวัดในพื้นที่ 8 เขตเลือกตั้งเข้าร่วม
ทั้งนี้ นายประพันธ์ได้เน้นย้ำว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ อยู่ในบรรยากาศทางการเมืองที่ไม่ปกติ จึงขอให้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ว่าจำเป็นต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ยึดระเบียบกฎหมายเป็นหลัก เฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องความเป็นกลาง โปร่งใส สุจริต เพื่อไม่ให้มีการนำมาร้องเรียนว่า การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ รวมถึงเมื่อความขัดแย้งทางการเมืองสูง ต้องพยายามให้ผู้สมัคร พรรคการเมืองส่งผู้แทนเข้ามาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งและการนับคะแนน เพื่อป้องกันการร้อง เรียน
นายประพันธ์ ยอมรับว่า ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้อาจทำให้การเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างมีปัญหาได้ ซึ่งจะพยายามกำชับ กกต.ในพื้นที่ให้ดูแลเข้มงวด เพราะก็อยากให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และอยากเตือนไปยังผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองว่า หากมีการขัดขวางการเลือกตั้งเกิดขึ้น เช่น มีการกีดกันไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิ หรือมีการนำรถมากีดขวางไม่ให้มีการลงคะแนน ก็จะมีโทษทางอาญา
อย่างไรก็ตาม กกต.อยากให้บรรยากาศบ้านเมืองดีขึ้น เพราะหากอยู่ในสภาพเช่นนี้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าไม่ได้ 2 ฝ่ายควรต้องยอมเสียสละ ถอยคนละก้าว ไม่ใช่รัฐบาลก็บอก ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก ฝ่ายต่อต้านก็บอกว่า ถึงลาออก ยุบสภา ก็ไม่หยุดชุมนุม อย่างนี้บ้านเมืองก็แย่ เพราะความเสียหายไม่ใช่แค่ 2 ฝ่าย แต่คือประเทศไทยและคนไทย ดังนั้นถ้ายอมเสียสละ บ้านเมืองก็จะอยู่รอด ซึ่งคนเสียสละอาจจะไม่ใช่คนแพ้ก็ได้
สำหรับกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุม บุกยึดอาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงาน กกต. และการบุกยึดศาลากลางจังหวัดต่าง ๆ หลายแห่งนั้น กกต.ก็ได้มีการหารือกัน โดยในส่วนของกกต.กลาง ยังเห็นว่าอาจจะมีผลกระทบบ้างในแง่ความไม่สะดวก แต่ไม่ถึงกับทำงานไม่ได้ โดยเจ้าหน้าที่ยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามปกติได้ แต่ก็ได้ให้นโยบายว่า ขอให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะกกต.ต้องจัดการเลือกตั้งทุกวัน จึงให้ทำงานอย่างระมัด ระวัง แต่ที่ต้องย้ายสถานที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ไปที่ รร.โนโวเทล เมืองทองธานี ก็เนื่องจากเป็นวันแรกหลังจากที่กลุ่มมวลชนเข้าไปยึดในศูนย์ราชการ ทำให้ไม่มั่นใจว่าจะสามารถเดินทางเข้าไปทำงานได้ ส่วนสำนักงาน กกต.ในต่างจังหวัด หากมีที่ตั้งอยู่ที่ศาลากลาง และถูกยึด ก็ได้แจ้งขอให้กกต.จว.พิจารณาเช่าหาสถานที่เพื่อปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนี้ยังได้มีการรายงานให้ทราบว่าการเลือกตั้ง 8 เขต จะใช้งบประมาณในการจัดการเลือกตั้งรวม 106 ล้าน ไม่ใช่ 80 ล้าน อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้ เนื่องจากแต่ละหน่วยงานสนับสนุนได้ของบประมาณในการสนับสนุนภารกิจเต็มกิจกรรม และเพิ่มสูงขึ้นในทุกกิจกรรม ทางเลขาธิการกกต.จึงรับที่จะนำยอดค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปเจรจากับรัฐบาล เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ แม้ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งซ่อมกกต.จะใช้งบเหลือจ่ายในการดำเนินการ โดยที่ไม่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลเลยกว่า 300 ล้านแล้วก็ตาม แต่ครั้งนี้ยอดค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงจำเป็นที่จะต้องตั้งขอรับการจัดสรรจากรัฐบาล
ทั้งนี้ นายประพันธ์ได้เน้นย้ำว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ อยู่ในบรรยากาศทางการเมืองที่ไม่ปกติ จึงขอให้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ว่าจำเป็นต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ยึดระเบียบกฎหมายเป็นหลัก เฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องความเป็นกลาง โปร่งใส สุจริต เพื่อไม่ให้มีการนำมาร้องเรียนว่า การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ รวมถึงเมื่อความขัดแย้งทางการเมืองสูง ต้องพยายามให้ผู้สมัคร พรรคการเมืองส่งผู้แทนเข้ามาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งและการนับคะแนน เพื่อป้องกันการร้อง เรียน
นายประพันธ์ ยอมรับว่า ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้อาจทำให้การเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างมีปัญหาได้ ซึ่งจะพยายามกำชับ กกต.ในพื้นที่ให้ดูแลเข้มงวด เพราะก็อยากให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และอยากเตือนไปยังผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองว่า หากมีการขัดขวางการเลือกตั้งเกิดขึ้น เช่น มีการกีดกันไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิ หรือมีการนำรถมากีดขวางไม่ให้มีการลงคะแนน ก็จะมีโทษทางอาญา
อย่างไรก็ตาม กกต.อยากให้บรรยากาศบ้านเมืองดีขึ้น เพราะหากอยู่ในสภาพเช่นนี้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าไม่ได้ 2 ฝ่ายควรต้องยอมเสียสละ ถอยคนละก้าว ไม่ใช่รัฐบาลก็บอก ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก ฝ่ายต่อต้านก็บอกว่า ถึงลาออก ยุบสภา ก็ไม่หยุดชุมนุม อย่างนี้บ้านเมืองก็แย่ เพราะความเสียหายไม่ใช่แค่ 2 ฝ่าย แต่คือประเทศไทยและคนไทย ดังนั้นถ้ายอมเสียสละ บ้านเมืองก็จะอยู่รอด ซึ่งคนเสียสละอาจจะไม่ใช่คนแพ้ก็ได้
สำหรับกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุม บุกยึดอาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงาน กกต. และการบุกยึดศาลากลางจังหวัดต่าง ๆ หลายแห่งนั้น กกต.ก็ได้มีการหารือกัน โดยในส่วนของกกต.กลาง ยังเห็นว่าอาจจะมีผลกระทบบ้างในแง่ความไม่สะดวก แต่ไม่ถึงกับทำงานไม่ได้ โดยเจ้าหน้าที่ยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามปกติได้ แต่ก็ได้ให้นโยบายว่า ขอให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะกกต.ต้องจัดการเลือกตั้งทุกวัน จึงให้ทำงานอย่างระมัด ระวัง แต่ที่ต้องย้ายสถานที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ไปที่ รร.โนโวเทล เมืองทองธานี ก็เนื่องจากเป็นวันแรกหลังจากที่กลุ่มมวลชนเข้าไปยึดในศูนย์ราชการ ทำให้ไม่มั่นใจว่าจะสามารถเดินทางเข้าไปทำงานได้ ส่วนสำนักงาน กกต.ในต่างจังหวัด หากมีที่ตั้งอยู่ที่ศาลากลาง และถูกยึด ก็ได้แจ้งขอให้กกต.จว.พิจารณาเช่าหาสถานที่เพื่อปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนี้ยังได้มีการรายงานให้ทราบว่าการเลือกตั้ง 8 เขต จะใช้งบประมาณในการจัดการเลือกตั้งรวม 106 ล้าน ไม่ใช่ 80 ล้าน อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้ เนื่องจากแต่ละหน่วยงานสนับสนุนได้ของบประมาณในการสนับสนุนภารกิจเต็มกิจกรรม และเพิ่มสูงขึ้นในทุกกิจกรรม ทางเลขาธิการกกต.จึงรับที่จะนำยอดค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปเจรจากับรัฐบาล เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ แม้ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งซ่อมกกต.จะใช้งบเหลือจ่ายในการดำเนินการ โดยที่ไม่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลเลยกว่า 300 ล้านแล้วก็ตาม แต่ครั้งนี้ยอดค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงจำเป็นที่จะต้องตั้งขอรับการจัดสรรจากรัฐบาล