นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ดูแลด้านอาคารสถานที่ กล่าวถึงมาตรการ ดูแลรักษาความปลอดภัยภายในอาคารรัฐสภา ซึ่งจะมีการประชุมสภาเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นวันแรกในวันนี้ (26 พ.ย.) ว่า จะมีเฉพาะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรัฐสภาเท่านั้น โดยยังไม่มีการประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลภายใน ส่วนพื้นที่รอบนอกอาคารรัฐสภา ถือเป็นพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดขณะนี้ คือ การเดินทางเข้าและออกรัฐสภาของส.ส.ในวันนี้ ที่จะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมปิดเส้นทางการจราจรรอบๆรัฐสภาอีกหลายจุด ซึ่งส.ส.หลายคนเกรงว่าจะถูกทำร้าย หากเดินทางเข้าภายในรัฐสภา ระหว่างที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมรายล้อมอยู่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์รุนแรงมาแล้ว ทำให้จะต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
“ผมได้พูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้านว่า เหลืออีกไม่กี่วันก็จะปิดสมัยประชุมสภา และอยากให้การประชุมสภาเป็นไปด้วยดี ซึ่งผู้นำฝ่ายค้าน ก็แจ้งมาว่า อยากเห็นบรรยากาศที่ดีเหมือนกัน”นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าหากส.ส.จำนวนมากเดินทางเข้ามารัฐสภาไม่ได้ จะดำเนินการอย่างไร นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังยืนยันตามเดิมว่า ในวันที่ 26 พ.ย. จะมีการประชุมสภาฯ เพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามระเบียบวาระที่ได้บรรจุไว้แล้ว แต่จะต้องประเมินดูสถานการณ์อีกครั้งก่อนตัดสินใจต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาแจ้งว่า หลังจากประชุมวุฒิสภาปิดประชุมวุฒิสภา เมื่อเวลา 13.10 น. เลขาธิการวุฒิสภาได้สั่งให้เจ้าหน้าที่วุฒิสภาออกนอกบริเวณรัฐสภา เนื่องจากมีม็อบ กปท. มากดดันบริเวณสี่แยกการเรือน เกรงว่าจะปิดบริเวณรอบรัฐสภาไม่สามารถออกนอกรัฐสภาได้ ขณะที่บริเวณรัฐสภาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล ตรึงกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันข้าราชการของสภาผู้แทนราษฏรให้ ผอ.แต่ละสำนักใช้ดุลยพินิจจะให้ข้าราชการออกจากรัฐสภาหรือไม่ ซึ่งก็มีบางส่วนทยอยออกจากรัฐสภา โดยการเดินออกทางแยกขัตติยานี และรถสามารถออกทางสวนสัตว์เขาดิน
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯคนที่ 1 ก็ได้รับการยืนยันว่า ยังใช้รัฐสภาเป็นสถานที่ประชุมเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจเช่นเดิม ส่วนที่มีผู้ชุนชุมปักหลักอยู่บริเวณทางเข้าโดยรอบของสภาฯนั้น ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าตำรวจ ที่จะเป็นผู้เปิดทางให้สมาชิกสามารถเข้าร่วมประชุมได้ตามปกติ
**เผย 4 ขุนพลซักฟอกจำนำข้าว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 26-27 พ.ย.นี้ ว่า ขณะนี้มีความพร้อมอภิปราย 100% แล้ว มีเอกสารหลักฐานพร้อม และเป็นสิ่งที่ไม่เคยอภิปรายมาก่อนหน้านี้ เชื่อว่ารัฐบาลคงตอบ และชี้แจงไม่ได้ เพราะเราทำงานเชิงลึกมาตลอด และมั่นใจจะมัดคอรัฐบาลได้แน่นอน เนื่องจากข้อมูลจะทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อยู่ได้ลำบากมากขึ้น โดยเรื่องโครงการรับจำนำข้าว จะมีผู้อภิปรายทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย ตนเอง นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ พงศ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา และ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม
เมื่อถามว่าเหตุการณ์การชุมนุมจากเวทีราชดำเนิน ที่ดาวกระจายไป 13 จุด ทั่วกทม.โดยเฉพาะ ที่กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ผู้ชุมนุมได้บุกยึดกระทรวง โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้ถูกทางศอ.รส.ออกหมายจับ ในคดีอาญานั้น จะมีผลกระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้หรือไม่ นพ.วรงค์ ระบุว่า เรื่องนี้ทางวิปฯฝ่ายค้านได้มีการประเมินว่า อาจจะไม่ได้อภิรายไม่ไว้วางใจ เพราะมวลชนที่มาต่อต้านรัฐบาลนั้น มากมายเรือนเเสน และส่วนตัวก็เชื่อว่า จะไม่ได้อภิปรายแน่ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะหากอภิปรายในสภาไม่ได้ ก็เตรียมอภิปรายบนท้องถนนแน่นอนอยู่แล้ว
**"ยิ่งลักษณ์"พร้อมตอบข้อซักถาม
นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวยืนยันว่า วิปมีมติชัดเจนแล้วว่า จะให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 วัน โดยถือว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว และประวัติที่ผ่านมาก็ใช้เวลาใกล้เคียงกัน หากฝ่ายค้านอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ตามญัตติที่เสนอมา ก็คิดว่าไม่น่าห่วงอะไร
“เราได้เตรียมข้อมูลพร้อมรับมือในการอภิปรายไว้แล้ว โดยพิจารณาการยื่นญัตติ และกระทู้ถามสดต่างๆในช่วงที่ผ่านมา คิดแล้วแต่ละฝ่ายได้คนละวัน ก็เต็มที่แล้ว และได้แจ้งให้ทางฝ่ายวิปฝ่ายค้านทราบเป็นที่ยุติแล้ว โดยจะไม่มีการกำหนดกรอบเวลาอภิปราย วันแรกเราจะให้พูดถึงตี 2 ตี 3 ส่วนวันพุธ ต้องจบภายในเที่ยงคืน เราจะให้พูดกันเต็มที เพราะจะมีแค่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตอบเท่านั้น เพราะไม่รู้ว่าจะมีการพูดถึงประเด็นอะไรบ้าง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันแล้วว่าจะมาชี้แจงด้วยตนเอง”
อย่างไรก็ตามตนยังมั่นใจว่า สามารถเปิดประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วงอะไร หากมีการปิดล้อมรัฐสภา ไม่ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในการดูแลสถานที่ หรือจัดหาที่ประชุมใหม่ แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายค้านเพราะเป็นฝ่ายต้องการให้มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเอง
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม. ว่า ครม.มีมติเลื่อนการประชุมครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการที่ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ย. ออกไปก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ขณะเดียวกัน นายกฯ ได้กำชับให้รัฐมนตรีทุกคนอยู่ที่รัฐสภา เพื่อชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันที่ 26-27 พ.ย. ด้วย ซึ่งนายกฯ จะผู้ตอบเองทุกเรื่อง แต่หากบางเรื่องมีการพาดพิงใคร ก็จะให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ตอบ และหากเวลาในสภาไม่พอ ก็จะให้รัฐมนตรีไปชี้แจงผ่านช่องทางที่มีเพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดให้มากขึ้น
**หวั่นฝ่ายค้านเล่นเกมยื้อปิดช่องยุบสภา
นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ระยะเวลา 2 วันตามที่ประธานสภาฯกำหนดถือว่าเพียงพอต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เวลา 3 วัน ตามที่ฝ่ายค้านเรียกร้อง ที่ผ่านมาการอภิปรายรัฐมนตรี 6-7 คนใช้เวลาแค่ 3-4 วันเท่านั้น เพราะถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่ทันสมัยปิดประชุมสภา เนื่องจากการลงมติ ต้องลงคนละวัน ไม่สามารถลงมติในวันอภิปรายได้ การลงมติต้องลงในวันรุ่งขึ้น หากปิดสมัยประชุมแล้ว ทำให้ไม่สามารถลงมติได้ ญัตติก็จะค้างอยู่ ฝ่ายค้านก็จะเอาไปดิสเครดิตรัฐบาล และใช้เป็นเงื่อนไข เพื่อไม่ให้นายกฯใช้อำนาจในการยุบสภาได้
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคจะดำเนินการอภิปรายอย่างเต็มที่ เพราะถือเป็นหน้าที่สำคัญ แม้รัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา แต่ต้องการเปิดเผยข้อมูลหลายอย่างให้เห็นว่า รัฐบาลนี้มีการทุจริต คอร์รัปชัน หรือปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตมาก โดยได้เตรียม ผู้อภิปรายไว้ 20 กว่าคน ส่วนที่รัฐบาลกำหนดเวลาให้อภิปราย 2 วัน และลงมติ 1 วัน หากไม่มีการประท้วงยืดเยื้อ ก็คาดว่าน่าจะเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดขณะนี้ คือ การเดินทางเข้าและออกรัฐสภาของส.ส.ในวันนี้ ที่จะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมปิดเส้นทางการจราจรรอบๆรัฐสภาอีกหลายจุด ซึ่งส.ส.หลายคนเกรงว่าจะถูกทำร้าย หากเดินทางเข้าภายในรัฐสภา ระหว่างที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมรายล้อมอยู่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์รุนแรงมาแล้ว ทำให้จะต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
“ผมได้พูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้านว่า เหลืออีกไม่กี่วันก็จะปิดสมัยประชุมสภา และอยากให้การประชุมสภาเป็นไปด้วยดี ซึ่งผู้นำฝ่ายค้าน ก็แจ้งมาว่า อยากเห็นบรรยากาศที่ดีเหมือนกัน”นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าหากส.ส.จำนวนมากเดินทางเข้ามารัฐสภาไม่ได้ จะดำเนินการอย่างไร นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังยืนยันตามเดิมว่า ในวันที่ 26 พ.ย. จะมีการประชุมสภาฯ เพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามระเบียบวาระที่ได้บรรจุไว้แล้ว แต่จะต้องประเมินดูสถานการณ์อีกครั้งก่อนตัดสินใจต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาแจ้งว่า หลังจากประชุมวุฒิสภาปิดประชุมวุฒิสภา เมื่อเวลา 13.10 น. เลขาธิการวุฒิสภาได้สั่งให้เจ้าหน้าที่วุฒิสภาออกนอกบริเวณรัฐสภา เนื่องจากมีม็อบ กปท. มากดดันบริเวณสี่แยกการเรือน เกรงว่าจะปิดบริเวณรอบรัฐสภาไม่สามารถออกนอกรัฐสภาได้ ขณะที่บริเวณรัฐสภาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล ตรึงกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันข้าราชการของสภาผู้แทนราษฏรให้ ผอ.แต่ละสำนักใช้ดุลยพินิจจะให้ข้าราชการออกจากรัฐสภาหรือไม่ ซึ่งก็มีบางส่วนทยอยออกจากรัฐสภา โดยการเดินออกทางแยกขัตติยานี และรถสามารถออกทางสวนสัตว์เขาดิน
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯคนที่ 1 ก็ได้รับการยืนยันว่า ยังใช้รัฐสภาเป็นสถานที่ประชุมเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจเช่นเดิม ส่วนที่มีผู้ชุนชุมปักหลักอยู่บริเวณทางเข้าโดยรอบของสภาฯนั้น ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าตำรวจ ที่จะเป็นผู้เปิดทางให้สมาชิกสามารถเข้าร่วมประชุมได้ตามปกติ
**เผย 4 ขุนพลซักฟอกจำนำข้าว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 26-27 พ.ย.นี้ ว่า ขณะนี้มีความพร้อมอภิปราย 100% แล้ว มีเอกสารหลักฐานพร้อม และเป็นสิ่งที่ไม่เคยอภิปรายมาก่อนหน้านี้ เชื่อว่ารัฐบาลคงตอบ และชี้แจงไม่ได้ เพราะเราทำงานเชิงลึกมาตลอด และมั่นใจจะมัดคอรัฐบาลได้แน่นอน เนื่องจากข้อมูลจะทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อยู่ได้ลำบากมากขึ้น โดยเรื่องโครงการรับจำนำข้าว จะมีผู้อภิปรายทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย ตนเอง นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ พงศ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา และ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม
เมื่อถามว่าเหตุการณ์การชุมนุมจากเวทีราชดำเนิน ที่ดาวกระจายไป 13 จุด ทั่วกทม.โดยเฉพาะ ที่กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ผู้ชุมนุมได้บุกยึดกระทรวง โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้ถูกทางศอ.รส.ออกหมายจับ ในคดีอาญานั้น จะมีผลกระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้หรือไม่ นพ.วรงค์ ระบุว่า เรื่องนี้ทางวิปฯฝ่ายค้านได้มีการประเมินว่า อาจจะไม่ได้อภิรายไม่ไว้วางใจ เพราะมวลชนที่มาต่อต้านรัฐบาลนั้น มากมายเรือนเเสน และส่วนตัวก็เชื่อว่า จะไม่ได้อภิปรายแน่ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะหากอภิปรายในสภาไม่ได้ ก็เตรียมอภิปรายบนท้องถนนแน่นอนอยู่แล้ว
**"ยิ่งลักษณ์"พร้อมตอบข้อซักถาม
นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวยืนยันว่า วิปมีมติชัดเจนแล้วว่า จะให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 วัน โดยถือว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว และประวัติที่ผ่านมาก็ใช้เวลาใกล้เคียงกัน หากฝ่ายค้านอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ตามญัตติที่เสนอมา ก็คิดว่าไม่น่าห่วงอะไร
“เราได้เตรียมข้อมูลพร้อมรับมือในการอภิปรายไว้แล้ว โดยพิจารณาการยื่นญัตติ และกระทู้ถามสดต่างๆในช่วงที่ผ่านมา คิดแล้วแต่ละฝ่ายได้คนละวัน ก็เต็มที่แล้ว และได้แจ้งให้ทางฝ่ายวิปฝ่ายค้านทราบเป็นที่ยุติแล้ว โดยจะไม่มีการกำหนดกรอบเวลาอภิปราย วันแรกเราจะให้พูดถึงตี 2 ตี 3 ส่วนวันพุธ ต้องจบภายในเที่ยงคืน เราจะให้พูดกันเต็มที เพราะจะมีแค่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตอบเท่านั้น เพราะไม่รู้ว่าจะมีการพูดถึงประเด็นอะไรบ้าง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันแล้วว่าจะมาชี้แจงด้วยตนเอง”
อย่างไรก็ตามตนยังมั่นใจว่า สามารถเปิดประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วงอะไร หากมีการปิดล้อมรัฐสภา ไม่ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในการดูแลสถานที่ หรือจัดหาที่ประชุมใหม่ แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายค้านเพราะเป็นฝ่ายต้องการให้มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเอง
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม. ว่า ครม.มีมติเลื่อนการประชุมครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการที่ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ย. ออกไปก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ขณะเดียวกัน นายกฯ ได้กำชับให้รัฐมนตรีทุกคนอยู่ที่รัฐสภา เพื่อชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันที่ 26-27 พ.ย. ด้วย ซึ่งนายกฯ จะผู้ตอบเองทุกเรื่อง แต่หากบางเรื่องมีการพาดพิงใคร ก็จะให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ตอบ และหากเวลาในสภาไม่พอ ก็จะให้รัฐมนตรีไปชี้แจงผ่านช่องทางที่มีเพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดให้มากขึ้น
**หวั่นฝ่ายค้านเล่นเกมยื้อปิดช่องยุบสภา
นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ระยะเวลา 2 วันตามที่ประธานสภาฯกำหนดถือว่าเพียงพอต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เวลา 3 วัน ตามที่ฝ่ายค้านเรียกร้อง ที่ผ่านมาการอภิปรายรัฐมนตรี 6-7 คนใช้เวลาแค่ 3-4 วันเท่านั้น เพราะถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่ทันสมัยปิดประชุมสภา เนื่องจากการลงมติ ต้องลงคนละวัน ไม่สามารถลงมติในวันอภิปรายได้ การลงมติต้องลงในวันรุ่งขึ้น หากปิดสมัยประชุมแล้ว ทำให้ไม่สามารถลงมติได้ ญัตติก็จะค้างอยู่ ฝ่ายค้านก็จะเอาไปดิสเครดิตรัฐบาล และใช้เป็นเงื่อนไข เพื่อไม่ให้นายกฯใช้อำนาจในการยุบสภาได้
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคจะดำเนินการอภิปรายอย่างเต็มที่ เพราะถือเป็นหน้าที่สำคัญ แม้รัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา แต่ต้องการเปิดเผยข้อมูลหลายอย่างให้เห็นว่า รัฐบาลนี้มีการทุจริต คอร์รัปชัน หรือปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตมาก โดยได้เตรียม ผู้อภิปรายไว้ 20 กว่าคน ส่วนที่รัฐบาลกำหนดเวลาให้อภิปราย 2 วัน และลงมติ 1 วัน หากไม่มีการประท้วงยืดเยื้อ ก็คาดว่าน่าจะเพียงพอ