xs
xsm
sm
md
lg

ยอดสั่งซื้อมกราคมชะงัก ตปท.กังวลชุมนุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ส.อ.ท.เผยยอดสั่งซื้อสินค้าม.ค.ปี57ชะงัก หลังต่างชาติวิตกปัญหาการชุมนุมทางการเมืองอาจบานปลายใช้กำลังรุนแรง เตรียมนัดประชุมเพื่อหามาตรการแก้ไข   ยอมรับว่านักลงทุนต่างชาติสอบถามเข้ามาตลอด และยังมองไม่เห็นทางออกของประเทศ คงต้องเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด  
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติได้ทยอยสอบถามมายังส.อ.ท.เกี่ยวกับเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นว่าจะมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด ซึ่งส.อ.ท.ไม่สามารถตอบคำถามดังกล่าวได้ แต่ก็ยอมรับว่าข้อกังวลของภาคเอกชนในเรื่องนี้ได้กลายเป็นความวิตกว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง  จึงอยากให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันแทนเพื่อไม่ให้สังคมแตกแยกมากกว่านี้  

    นอกจากนี้ หากสถานการณ์ยืดเยื้อเชื่อว่าจะกระทบต่อรายได้การส่งออก รายได้จากการท่องเที่ยว เพราะบรรยากาศของการลงทุนจากต่างชาติหากเสียไปก็ยากที่จะฟื้นคืนมาได้ในระยะเวลาอันสั้น เหมือนกับที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ
   
      หากถามว่าการยุบสภา จะเป็นทางออกและคำตอบสุดท้ายหรือไม่  เพื่อให้ทุกอย่างกลับไปสู่ภาวะปกติ ทุกคนไปเข้าคูหาเลือกตั้ง แต่ตนมองว่ารัฐบาลชุดนี้ก็มาจากการเลือกตั้ง หากมีการเลือกตั้งใหม่ ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล แล้วก็ต้องเจอต่อต้านเหมือนในขณะนี้ ก็ยากที่จะเป็นคำตอบของการยุบสภาเช่นกัน

    นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า ในเร็วๆนี้ สมาชิกส.อ.ท.จะเรียกประชุมเพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหาการส่งออกของไทย หลังจากคำสั่งซื้อที่เริ่มเข้ามาช่วงม.ค. 2557 ได้หยุดชะงักลงแล้ว เนื่องจากลูกค้าต่างชาติไม่มั่นใจว่า หากการชุมนุมทางการเมืองเกิดความรุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้าได้ เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าวจึงหันไปซื้อสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านแทน ทั้งนี้หากเป็นคำสั่งซื้อใหม่ๆก้จะไม่กลับมาไทยแล้ว เหมือนกับกรณีหลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ที่ออเดอร์บางอย่างไม่กลับมาไทยอีก
นอกจากนี้ ไทยก็ต้องเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ปี2558 ขณะที่เวียดนาม พม่า อินโดนีเซียได้เตรียมตัวพร้อมที่จะดึงนักลงทุนเข้าไปในประเทศตนเอง แต่ไทยกับเผชิญปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ที่ทำลายบรรยากาศการลงทุน
นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการส.อ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นทางออกว่าปัญหาการเมืองจะจบลงตรงไหนเพราะฝ่ายรัฐบาลก็ยืนยันว่ามาจากเสียงข้างมากและทำถูกต้องไม่ยุบสภา ไม่ลาออก ขณะที่อีกฝ่ายก็ยืนยันว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมจะบริหารประเทศ สิ่งที่กังวลคือหากปล่อยไว้ปัญหาจะลุกลาม บานปลายหรือไม่โดยเฉพาะกรณีมีมือที่ 3 ก็ต้องระมัดระวังเอกชนคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะเศรษฐกิจไทยปัจจุบันได้รับผลกระทบทั้งการส่งออกชะลอตัวและการบริโภคในประเทศที่ลดต่ำอยู่แล้ว
“การเมืองขณะนี้ยังไม่กระทบเศรษฐกิจอย่างเป็นนัยสำคัญแต่หากบานปลายและยืดเยื้อแน่นอนว่าย่อมจะส่งผลทั้งการท่องเที่ยว และการลงทุน ซึ่งทางออกพอจะมีอยู่แต่การเมืองจะต้องเป็นฝ่ายเสียสละและมองประโยชน์ชาติแต่เมื่อทุกฝ่ายปักธงรบ ไปคนละทาง สิ่งที่กังวลคือจะกลายเป็นเหมือนอียิปต์ ลิเบียหรือไม่ที่เวลานี้ปัญหาการเมืองก็ไม่จบสิ้นกลายเป็นสงครามกลางเมืองอยู่ตลอด และถ้ามองไปให้ไกลคำถามว่าเลือกตั้งมาเพื่อไทยกลับมาจบหรือเปล่า และถ้าประชาธิปัตย์มาจะจบจริงหรือ สรุปแล้วประเทศชาติจะไปทางไหนผมเองก็ยังมองไม่ออก”นายธนิตกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น