“ส.อ.ท.” เกาะติดปัญหาการเมือง ลั่นไม่อยากยุ่งแต่หากบานปลายกระทบ ศก.คงต้องส่งสัญญาณเตือน มองทางออกของประเทศยังไม่ออกหลังทุกฝ่ายตั้งธงไม่ยอมถอย ผวาซ้ำรอยอียิปต์ ลิเบีย สงครามกลางเมืองไม่จบหากนักการเมืองไม่รู้จักเสียสละเพื่อชาติ
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองมากขึ้นหลังการชุมนุมยังคงดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากการเคลื่อนไหวไม่มีการปะทะจนนำไปสู่ความรุนแรงก็คงจะไม่กระทบมากนัก แต่หากเหตุการณ์รุนแรงบานปลายจะมีผลกระทบมากขึ้น ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว ความลังเลต่อการตัดสินใจมาลงทุน การประชุม สัมมนา การแสดงออกของต่างชาติโดยการสั่งซื้อสินค้าน้อยลงกว่าปกติ ส.อ.ท.ยืนยันว่าคงจะติดตามใกล้ชิดและไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวทางการเมือง แต่หากมีผลกระทบบานปลายมากขึ้นก็อาจจะต้องส่งสัญญาณเตือน จึงอยากให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน
นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการ ส.อ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นทางออกว่าปัญหาการเมืองจะจบลงตรงไหน เพราะฝ่ายรัฐบาลก็ยืนยันว่ามาจากเสียงข้างมากและทำถูกต้องไม่ยุบสภา ไม่ลาออก ขณะที่อีกฝ่ายก็ยืนยันว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมจะบริหารประเทศ สิ่งที่กังวลคือหากปล่อยไว้ปัญหาจะลุกลาม บานปลายหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีมีมือที่สามก็ต้องระมัดระวัง เอกชนคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะเศรษฐกิจไทยปัจจุบันได้รับผลกระทบทั้งการส่งออกชะลอตัวและการบริโภคในประเทศที่ลดต่ำอยู่แล้ว
“การเมืองขณะนี้ยังไม่กระทบเศรษฐกิจอย่างเป็นนัยสำคัญ แต่หากบานปลายและยืดเยื้อแน่นอนว่าย่อมจะส่งผลทั้งการท่องเที่ยว และการลงทุน ซึ่งทางออกพอจะมีอยู่แต่การเมืองจะต้องเป็นฝ่ายเสียสละและมองประโยชน์ชาติแต่ เมื่อทุกฝ่ายปักธงรบไปคนละทางการปรองดองไม่มี สิ่งที่กังวลคือจะกลายเป็นเหมือนอียิปต์ ลิเบียหรือไม่ที่เวลานี้ปัญหาการเมืองก็ไม่จบสิ้นกลายเป็นสงครามกลางเมืองอยู่ตลอด และถ้ามองไปให้ไกลคำถามว่าเลือกตั้งมาเพื่อไทยกลับมาจบหรือเปล่า และถ้าประชาธิปัตย์มาจะจบจริงหรือ สรุปแล้วประเทศชาติจะไปทางไหนผมเองก็ยังมองไม่ออก” นายธนิตกล่าว
