**รุกคืบขยับไล่โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ “ขุน”ในกระดานอย่าง "ปูกรรเชียง" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม คือคำตอบสุดท้ายเท่านั้น สำหรับปฏิบัติการโค่นล้มระบอบทักษิณแบบถอนรากถอนโคน
โจทย์ใหญ่ของฝ่ายค้านวันนี้แจ่มชัด “ยิ่งลักษณ์”เท่านั้นที่ต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้
สะท้อนได้จากการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้งที่ตัวเลือกรายอื่นๆ ให้ลากคอขึ้นมาบั่นบนลานประหารมีไม่รู้ต่อกี่คน ประเด็นทุจริตมีไม่รู้กี่คดี ไม่ว่าจะเป็นอภิมหาโคตรโกง อย่างโครงการรับจำนำข้าว ที่เน่าทั้งข้าวเน่าทั้งคน สามารถกดปุ่มเลือก นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ มาขึงพืดกลางสภาได้
หรือจะเป็นโปรเจกต์น้ำมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ที่สามารถชำแหละ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กันได้สนุกบาทา
แต่ฝ่ายค้านไม่ให้ราคา มองข้ามปลาเล็กปลาน้อยเหล่านี้ แต่พุ่งเป้าบดขยี้ไปที่ “ยิ่งลักษณ์”หัวหน้ารัฐบาล กับลูกหาบอย่าง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย แค่ 2 รายเท่านั้น
**ว่ากันตามสภาพความเป็นจริง ศึกซักฟอกหนนี้เป้านิ่งจริงๆไม่หลอกก็มีแค่ เบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้า ส่วน “กุ๊ยคลองหลอด”เป็นแค่ไม้ประดับจำพวกใบเฟิร์น หยิบจับมาใส่ในแจกัน ไม่ให้มันดูโล้นๆ จนน่าเกลียด
เป็นอันเด่นชัดว่า ล่ากันเอาตายกับปฏิบัติการ“เด็ดหัวปู”สะเทือนระบอบทักษิณโดยเฉพาะการปิดประตูยุบสภา ด้วยการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ล็อกประตูทางออกให้ “ยิ่งลักษณ์”เหลือทางดิ้นทางเดียวเท่านั้น คือ
**ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เพื่อสร้างเดดล็อกทางการเมืองให้เกิดขึ้นมาอีกครั้ง สอดรับการม็อบนกหวีดของ “เดอะเทือก”นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ฮึ่มๆ กันอยู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ลากยาวยกระดับรายวัน รอวัน ว. เวลา น. ที่ได้จังหวะ
ตามสเตปแรก รอตัวช่วย 20 พ.ย.นี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว. หากผลออกมาเป็นลบต่อพรรคเพื่อไทย จะเข้าทางพรรคประชาธิปัตย์ และแนวร่วมทันที เพราะจะสามารถหยิบจับคำตัดสินมาบีบให้ “ยิ่งลักษณ์”แสดงความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่กุมเสียงข้างมากของสภา
และเนื่องจากเป็นผู้นำ ร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ทั้งที่มีเสียงทักท้วงว่าไม่เหมาะไม่ควรอย่างกว้างขวาง ด้วยการลาออก ซึ่งหากจะตีกรรเชียงชิ่งด้วยการยุบสภาก็หมดสิทธิไปแล้ว เพราะถูกดักทางจากการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
**ด้วยเหตุนี้ “ค้อนปลอมดูไบ”นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เลยต้องโชว์ผลงานเอาหน้ากับนายใหญ่ ด้วยการสกัดญัตติอภิปรายเพื่อถ่วงเวลาให้ประตูยุบสภายังเปิดอ้ารออยู่ เพื่อเหลือเป็นทางรอด
**หวังจะรอดูผลวันที่ 20 พ.ย.นี้ก่อนเหมือนกัน
กระนั้นก็ตาม ในมุมเลวร้ายที่สุด ผลคำวินิจฉัยออกมาเป็นลบสถานะนายกฯหญิง อาจถึงคราวโคม่า เพราะฝ่ายค้านเองก็ง้างเท้ารอขย้ำซ้ำ เป็นดาบสองอยู่แล้วในเวทีซักฟอกที่ล็อกเป้าไว้ที่ “ยิ่งลักษณ์”ตั้งแต่แรก เห็นได้จากการที่กั๊กข้อสอบ ปิดไต๋ไม่ให้ผู้ถูกอภิปรายตั้งหลักเตรียมตัวได้ทัน หวังซัดกันให้จมคาสภา โดยเฉพาะทีเด็ดที่มีมากันทุกรอบในฤดูลับฝีปากของฝ่ายค้าน
**หมากกระดานการเมืองวันนี้ เดินมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ“ผู้นำรัฐบาล”ตกอยู่ท่ามกลางเทศกาล“ไล่เด็ดหัว”รอดไม่รอด 20 พ.ย.นี้ มีส่วนกำหนดทิศทางได้เยอะ
โจทย์ใหญ่ของฝ่ายค้านวันนี้แจ่มชัด “ยิ่งลักษณ์”เท่านั้นที่ต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้
สะท้อนได้จากการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้งที่ตัวเลือกรายอื่นๆ ให้ลากคอขึ้นมาบั่นบนลานประหารมีไม่รู้ต่อกี่คน ประเด็นทุจริตมีไม่รู้กี่คดี ไม่ว่าจะเป็นอภิมหาโคตรโกง อย่างโครงการรับจำนำข้าว ที่เน่าทั้งข้าวเน่าทั้งคน สามารถกดปุ่มเลือก นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ มาขึงพืดกลางสภาได้
หรือจะเป็นโปรเจกต์น้ำมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ที่สามารถชำแหละ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กันได้สนุกบาทา
แต่ฝ่ายค้านไม่ให้ราคา มองข้ามปลาเล็กปลาน้อยเหล่านี้ แต่พุ่งเป้าบดขยี้ไปที่ “ยิ่งลักษณ์”หัวหน้ารัฐบาล กับลูกหาบอย่าง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย แค่ 2 รายเท่านั้น
**ว่ากันตามสภาพความเป็นจริง ศึกซักฟอกหนนี้เป้านิ่งจริงๆไม่หลอกก็มีแค่ เบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้า ส่วน “กุ๊ยคลองหลอด”เป็นแค่ไม้ประดับจำพวกใบเฟิร์น หยิบจับมาใส่ในแจกัน ไม่ให้มันดูโล้นๆ จนน่าเกลียด
เป็นอันเด่นชัดว่า ล่ากันเอาตายกับปฏิบัติการ“เด็ดหัวปู”สะเทือนระบอบทักษิณโดยเฉพาะการปิดประตูยุบสภา ด้วยการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ล็อกประตูทางออกให้ “ยิ่งลักษณ์”เหลือทางดิ้นทางเดียวเท่านั้น คือ
**ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เพื่อสร้างเดดล็อกทางการเมืองให้เกิดขึ้นมาอีกครั้ง สอดรับการม็อบนกหวีดของ “เดอะเทือก”นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ฮึ่มๆ กันอยู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ลากยาวยกระดับรายวัน รอวัน ว. เวลา น. ที่ได้จังหวะ
ตามสเตปแรก รอตัวช่วย 20 พ.ย.นี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว. หากผลออกมาเป็นลบต่อพรรคเพื่อไทย จะเข้าทางพรรคประชาธิปัตย์ และแนวร่วมทันที เพราะจะสามารถหยิบจับคำตัดสินมาบีบให้ “ยิ่งลักษณ์”แสดงความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่กุมเสียงข้างมากของสภา
และเนื่องจากเป็นผู้นำ ร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ทั้งที่มีเสียงทักท้วงว่าไม่เหมาะไม่ควรอย่างกว้างขวาง ด้วยการลาออก ซึ่งหากจะตีกรรเชียงชิ่งด้วยการยุบสภาก็หมดสิทธิไปแล้ว เพราะถูกดักทางจากการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
**ด้วยเหตุนี้ “ค้อนปลอมดูไบ”นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เลยต้องโชว์ผลงานเอาหน้ากับนายใหญ่ ด้วยการสกัดญัตติอภิปรายเพื่อถ่วงเวลาให้ประตูยุบสภายังเปิดอ้ารออยู่ เพื่อเหลือเป็นทางรอด
**หวังจะรอดูผลวันที่ 20 พ.ย.นี้ก่อนเหมือนกัน
กระนั้นก็ตาม ในมุมเลวร้ายที่สุด ผลคำวินิจฉัยออกมาเป็นลบสถานะนายกฯหญิง อาจถึงคราวโคม่า เพราะฝ่ายค้านเองก็ง้างเท้ารอขย้ำซ้ำ เป็นดาบสองอยู่แล้วในเวทีซักฟอกที่ล็อกเป้าไว้ที่ “ยิ่งลักษณ์”ตั้งแต่แรก เห็นได้จากการที่กั๊กข้อสอบ ปิดไต๋ไม่ให้ผู้ถูกอภิปรายตั้งหลักเตรียมตัวได้ทัน หวังซัดกันให้จมคาสภา โดยเฉพาะทีเด็ดที่มีมากันทุกรอบในฤดูลับฝีปากของฝ่ายค้าน
**หมากกระดานการเมืองวันนี้ เดินมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ“ผู้นำรัฐบาล”ตกอยู่ท่ามกลางเทศกาล“ไล่เด็ดหัว”รอดไม่รอด 20 พ.ย.นี้ มีส่วนกำหนดทิศทางได้เยอะ