**ไต่ระดับขยับการเคลื่อนไหวกันรายวัน สำหรับ“ม็อบปชป.”ภายใต้การนำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกับบทขึงขังล่าสุดเป่านกหวีดดีเดย์ทุกอย่างต้องจบภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้
เป็นการควักนกหวีดในจังหวะที่ฝ่ายรัฐบาลกำลังประเมินว่า“ม็อบต้าน”อยู่ในช่วงขาลง หลังปมร้อนๆ ที่เป็นเงื่อนไขยักษ์ๆ คลายตัว
ไม่ว่าจะเป็นคดีปราสาทเขาพระวิหาร ที่รัฐบาลพยายามประโคมว่าไทย “เจ๊า” ไม่ได้ “เจ๊ง”หวังลดทอนกำลังมวลชนไม่ให้ไหลมาปนกับม็อบที่ถนนราชดำเนิน
หรือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับทะลุซอย ที่ยอมขายหน้าถอยกรูดจนหมดสภาพ เพื่อสกัดอารมณ์ประชาชนไม่ให้ขยายเป็นวงกว้าง จนไม่สามารถอุดเลือดได้
โดยรวมรัฐบาลเชื่อว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ “เอาอยู่”คิดว่า อุณหภูมิอยู่ในช่วงเย็นลงจนม็อบเขย่าไม่ได้ แค่ยังมีแอบเสียวนิดๆ กับ“มุกรายวัน”อยู่เหมือนกันว่า จะออกมาแนวไหน เพราะเดาใจฝ่ายตรงข้ามไม่ออก
ตามสถานการณ์คือ ยังนอนหลับไม่เต็มตื่น หายใจไม่ทั่วท้อง
ขณะที่ “เทือก”ย่อมทราบสภาพนี้ดีอยู่แล้วว่า หากปล่อยกระแสให้ทรงตัวและนิ่งไป มีแต่จะเป็นผลเสียกับม็อบ จึงจำเป็นต้องขีดเส้นตายเดือนพฤศจิกายน กระชากอารมณ์คนเพื่อส่องไฟให้มวลชนเห็นว่าปลายทางคือ“เส้นชัย”
ไม่ใช่รบแบบดื้อด้าน ไร้หางเสือ ไม่เห็นทิศทาง ตามคำประกาศกร้าวบนเวที จะต่อสู้จนกว่าชนะสถานเดียว ถอยไม่ได้ ไม่มีบันไดให้ลงอีกแล้ว
**งวดนี้ต้องแตกหักเท่านั้น!!
ตามเดดไลน์ที่กาไว้บนปฏิทิน นับจากนี้คือ อีกประมาณครึ่งเดือน โดยความรู้สึกของม็อบที่กำลังกรุ่นๆ ถือว่า ไม่นานเท่าไหร่ ยังเลี้ยงกระแสมวลชนลากยาวได้ถึง ด้วยการยกระดับกันขึ้นเรื่อยๆ ให้โดนใจประชาชน
แต่ปัญหาอยู่ตรงที่กระแสตีกลับ หาก“มุก”ที่ยกระดับดัน“แป้ก”ก็อาจจะไม่เป็นผลดีเหมือนกัน อย่างกับคิวล่าสุด “อารยะขัดขืน”ที่กระแสสังคมเหมือนจะไม่เอาด้วย เพราะทำได้ลำบากลำบนในบางข้อ
ไม่ว่าจะเป็นการนัดหยุดงานทั่วประเทศ ในวันที่13–15 พฤศจิกายน หรือการให้ประชาชนชะลอการจ่ายภาษีออกไปก่อน เหล่านี้ “ผลลัพธ์” ไม่กระเตื้องเอาเสียเลย
แถมยังโดนฝ่ายรัฐบาลเบิ้ลบลั๊ฟกันเสียหลัก หยิบไปหัวเราะชอบใจ โดยเฉพาะพวกสื่อของรัฐ ที่ตีแผ่ภาพประชาชนที่ยังคงใช้ชีวิตปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
**จงใจขยายแผลสมน้ำหน้า!!
จะมีทีเด็ดที่โดนๆใจประชาชนบ้างก็ตรงการเป่านกหวีดทุกครั้งที่เจอนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคนอื่นๆ ในรัฐบาล ที่เริ่มเป็นเทรนด์ให้เอาเยี่ยงของคนเกลียด“ระบอบทักษิณ”
ซึ่งประเดิมไปแล้ว หวยไปออกที่ “เดอะอ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ไปนั่งกินข้าวมื้อเที่ยง แล้วบังเอิญเจอพวกส.ส. และอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พอดิบพอดี เลยเจอเป่าไล่ขึ้นรถกันไม่ทัน
องคาพยพพรรคประชาธิปัตย์ อัดทั้งคลิปให้เห็นพฤติกรรม “นำร่อง”ให้ประชาชนเลียนแบบ หวังขึ้นฮิตติดกระแสลมบนให้ได้
มุกนี้ง่ายๆ แต่สะใจ!!
อย่างไรก็ตาม แม้ผลลัพธ์โดยรวมจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ “เทือก”เอง กลับปราศรัยบนเวทีว่า “อารยะขัดขืน”ต้องตัดสินกันวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกรอบเวลา 3 วันที่วางเอาไว้ว่าประสบความสำเร็จหรือไม่
จับอาการดูเหมือนมั่นอกมั่นใจว่า“ทีเด็ด”ในวันศุกร์นี้ ดีพอจะกระชากใจมวลชนให้กระตือรือร้นกับการยกระดับขึ้นสู่ชั้นต่อไปได้
**โดยแย้มไต๋ออกมา จะมีขบวนพาเหรดนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ไหลมากองกันที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะเดียวกัน จะมีมวลชนจากต่างจังหวัดยกพลกันขึ้นมาอีกชุด
แถมสั่งให้ทีมแกนนำเตรียมเต็นท์อาหารอย่างดี มารองรับประชาชนในวันเดียวกัน หวังกระตุ้นสร้างแรงดึงดูดให้เป็นม็อบที่คึกคัก
ที่แน่ๆ กำลังพลในกทม.ต้องมากันเต็มพิกัด
งานนี้เลยต้องจับตาดูว่า มวลชนจะมาจนเต็มพื้นที่เหมือนวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาอีกหรือไม่ เพราะฝ่ายรัฐบาลเย้ยหยันเอาไว้เจ็บแสบ การชุมนุมวันนั้น นั่นคือ ยอดสูงสุดที่ทำได้แล้ว
เข้าใจง่ายๆ คือ เต็มพิกัดแล้ว ไม่มีมากกว่านี้
ยิ่งในวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ม็อบไม่มีทีท่าจะเคลื่อนไหวอะไรที่เป็นกิจลักษณะ จนทำประชานหลายราย อารมณ์ค้าง วันต่อมาเลยว่ากันว่า พื้นที่ชุมนุมโหรงเหรงไปเยอะ
วันที่ 15 พฤศจิกายน จึงน่าสนใจไม่น้อยว่า จะจูงใจประชาชนมาได้เหมือนวันที่ 11 พฤศจิกายน อีกหรือไม่ หรือหากประชาชนมาแล้ว จะยื้อให้ประชาชนอยู่ต่อยาวๆ ได้หรือไม่
**ดังนั้นทีเด็ดในวันดังกล่าวต้อง “โดนใจ”แบบเจ็บจิ๊ด ไม่ใช่ฉาบฉวยรายวันเหมือนที่ทำๆ กันมา อย่างน้อยๆ มันต้องตื่นตาตื่นใจ ไม่ไกลเป้าหมาย
แล้วต้องทำไม่ยากด้วย !!
โดยสภาพบังคับจึงน่าจะมีอะไรที่ใกล้ระดับ ดุ เด็ด เผ็ด มัน เพราะต้องไม่ลืมว่า ขณะนี้ “เทือก” อยู่ในโหมดนับถอยหลังแล้ว หลังจากประกาศขีดเส้นตายการชุมนุมมัดตัวเอง ทำให้ต่อจากนี้คือการเอาจริงล้วนๆ ไม่ใช่แค่คำขู่ฟ่อ
แต่กระนั้นก็ตาม การโพทนาออกตัวแรงเอาไว้ก็เหมือน“ดาบสองคม” เพราะหากออกมา“แป้ก”อีก ไม่มีอะไรที่ดูจะรุกคืบ คนที่จะเสร็จอาจจะไม่ใช่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์" แต่เป็น “ม็อบเดอะเทือก”เอง
“แป้ก”สองรอบติด โอกาสที่จะกู้ศรัทธาประชาชน ทำได้ยากแน่ๆ เพราะยาใช้บ่อยๆ มันเริ่มดื้อ
แต่เดาใจจะเด็ดถึงที่สุดเลยหรือไม่ ก็คงจะยาก ด้วยเงื่อนไขหลายๆ อย่าง ที่ตีกรอบอยู่ โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องสาวไส้คดีทุจริตต่างๆ ใน “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”ประเภทรายการ “แฉ”อาจทำได้ไม่สุด
เพราะตามห้วงเวลา ภายในหนึ่งถึงสองสัปดาห์จะถึงคิวเวที “ซักฟอก” ยังไงต้องเก็บต้องกั๊กไว้ใช้ในเวทีสภา เพื่อเป็นอาวุธเด็ดเหมือนหลายๆ รอบที่ผ่านมา
โดยเฉพาะหลักฐานเด็ดๆ ที่หากแฉในสภาเสร็จ สามารถนำมาขยายปมในม็อบเป็นช็อตต่อเนื่อง
**เลยต้องจับตาศุกร์ 15 พฤศจิกายน จะหรรษา สำหรับ“เทือก”หรือจะหรรษาสำหรับ“รัฐบาล”ที่พร้อมกุมท้องขำ หากมุกออกมา“แป้ก” เพราะมันเป็นไฟต์บังคับพอสมควร
เป็นการควักนกหวีดในจังหวะที่ฝ่ายรัฐบาลกำลังประเมินว่า“ม็อบต้าน”อยู่ในช่วงขาลง หลังปมร้อนๆ ที่เป็นเงื่อนไขยักษ์ๆ คลายตัว
ไม่ว่าจะเป็นคดีปราสาทเขาพระวิหาร ที่รัฐบาลพยายามประโคมว่าไทย “เจ๊า” ไม่ได้ “เจ๊ง”หวังลดทอนกำลังมวลชนไม่ให้ไหลมาปนกับม็อบที่ถนนราชดำเนิน
หรือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับทะลุซอย ที่ยอมขายหน้าถอยกรูดจนหมดสภาพ เพื่อสกัดอารมณ์ประชาชนไม่ให้ขยายเป็นวงกว้าง จนไม่สามารถอุดเลือดได้
โดยรวมรัฐบาลเชื่อว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ “เอาอยู่”คิดว่า อุณหภูมิอยู่ในช่วงเย็นลงจนม็อบเขย่าไม่ได้ แค่ยังมีแอบเสียวนิดๆ กับ“มุกรายวัน”อยู่เหมือนกันว่า จะออกมาแนวไหน เพราะเดาใจฝ่ายตรงข้ามไม่ออก
ตามสถานการณ์คือ ยังนอนหลับไม่เต็มตื่น หายใจไม่ทั่วท้อง
ขณะที่ “เทือก”ย่อมทราบสภาพนี้ดีอยู่แล้วว่า หากปล่อยกระแสให้ทรงตัวและนิ่งไป มีแต่จะเป็นผลเสียกับม็อบ จึงจำเป็นต้องขีดเส้นตายเดือนพฤศจิกายน กระชากอารมณ์คนเพื่อส่องไฟให้มวลชนเห็นว่าปลายทางคือ“เส้นชัย”
ไม่ใช่รบแบบดื้อด้าน ไร้หางเสือ ไม่เห็นทิศทาง ตามคำประกาศกร้าวบนเวที จะต่อสู้จนกว่าชนะสถานเดียว ถอยไม่ได้ ไม่มีบันไดให้ลงอีกแล้ว
**งวดนี้ต้องแตกหักเท่านั้น!!
ตามเดดไลน์ที่กาไว้บนปฏิทิน นับจากนี้คือ อีกประมาณครึ่งเดือน โดยความรู้สึกของม็อบที่กำลังกรุ่นๆ ถือว่า ไม่นานเท่าไหร่ ยังเลี้ยงกระแสมวลชนลากยาวได้ถึง ด้วยการยกระดับกันขึ้นเรื่อยๆ ให้โดนใจประชาชน
แต่ปัญหาอยู่ตรงที่กระแสตีกลับ หาก“มุก”ที่ยกระดับดัน“แป้ก”ก็อาจจะไม่เป็นผลดีเหมือนกัน อย่างกับคิวล่าสุด “อารยะขัดขืน”ที่กระแสสังคมเหมือนจะไม่เอาด้วย เพราะทำได้ลำบากลำบนในบางข้อ
ไม่ว่าจะเป็นการนัดหยุดงานทั่วประเทศ ในวันที่13–15 พฤศจิกายน หรือการให้ประชาชนชะลอการจ่ายภาษีออกไปก่อน เหล่านี้ “ผลลัพธ์” ไม่กระเตื้องเอาเสียเลย
แถมยังโดนฝ่ายรัฐบาลเบิ้ลบลั๊ฟกันเสียหลัก หยิบไปหัวเราะชอบใจ โดยเฉพาะพวกสื่อของรัฐ ที่ตีแผ่ภาพประชาชนที่ยังคงใช้ชีวิตปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
**จงใจขยายแผลสมน้ำหน้า!!
จะมีทีเด็ดที่โดนๆใจประชาชนบ้างก็ตรงการเป่านกหวีดทุกครั้งที่เจอนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคนอื่นๆ ในรัฐบาล ที่เริ่มเป็นเทรนด์ให้เอาเยี่ยงของคนเกลียด“ระบอบทักษิณ”
ซึ่งประเดิมไปแล้ว หวยไปออกที่ “เดอะอ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ไปนั่งกินข้าวมื้อเที่ยง แล้วบังเอิญเจอพวกส.ส. และอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พอดิบพอดี เลยเจอเป่าไล่ขึ้นรถกันไม่ทัน
องคาพยพพรรคประชาธิปัตย์ อัดทั้งคลิปให้เห็นพฤติกรรม “นำร่อง”ให้ประชาชนเลียนแบบ หวังขึ้นฮิตติดกระแสลมบนให้ได้
มุกนี้ง่ายๆ แต่สะใจ!!
อย่างไรก็ตาม แม้ผลลัพธ์โดยรวมจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ “เทือก”เอง กลับปราศรัยบนเวทีว่า “อารยะขัดขืน”ต้องตัดสินกันวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกรอบเวลา 3 วันที่วางเอาไว้ว่าประสบความสำเร็จหรือไม่
จับอาการดูเหมือนมั่นอกมั่นใจว่า“ทีเด็ด”ในวันศุกร์นี้ ดีพอจะกระชากใจมวลชนให้กระตือรือร้นกับการยกระดับขึ้นสู่ชั้นต่อไปได้
**โดยแย้มไต๋ออกมา จะมีขบวนพาเหรดนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ไหลมากองกันที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะเดียวกัน จะมีมวลชนจากต่างจังหวัดยกพลกันขึ้นมาอีกชุด
แถมสั่งให้ทีมแกนนำเตรียมเต็นท์อาหารอย่างดี มารองรับประชาชนในวันเดียวกัน หวังกระตุ้นสร้างแรงดึงดูดให้เป็นม็อบที่คึกคัก
ที่แน่ๆ กำลังพลในกทม.ต้องมากันเต็มพิกัด
งานนี้เลยต้องจับตาดูว่า มวลชนจะมาจนเต็มพื้นที่เหมือนวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาอีกหรือไม่ เพราะฝ่ายรัฐบาลเย้ยหยันเอาไว้เจ็บแสบ การชุมนุมวันนั้น นั่นคือ ยอดสูงสุดที่ทำได้แล้ว
เข้าใจง่ายๆ คือ เต็มพิกัดแล้ว ไม่มีมากกว่านี้
ยิ่งในวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ม็อบไม่มีทีท่าจะเคลื่อนไหวอะไรที่เป็นกิจลักษณะ จนทำประชานหลายราย อารมณ์ค้าง วันต่อมาเลยว่ากันว่า พื้นที่ชุมนุมโหรงเหรงไปเยอะ
วันที่ 15 พฤศจิกายน จึงน่าสนใจไม่น้อยว่า จะจูงใจประชาชนมาได้เหมือนวันที่ 11 พฤศจิกายน อีกหรือไม่ หรือหากประชาชนมาแล้ว จะยื้อให้ประชาชนอยู่ต่อยาวๆ ได้หรือไม่
**ดังนั้นทีเด็ดในวันดังกล่าวต้อง “โดนใจ”แบบเจ็บจิ๊ด ไม่ใช่ฉาบฉวยรายวันเหมือนที่ทำๆ กันมา อย่างน้อยๆ มันต้องตื่นตาตื่นใจ ไม่ไกลเป้าหมาย
แล้วต้องทำไม่ยากด้วย !!
โดยสภาพบังคับจึงน่าจะมีอะไรที่ใกล้ระดับ ดุ เด็ด เผ็ด มัน เพราะต้องไม่ลืมว่า ขณะนี้ “เทือก” อยู่ในโหมดนับถอยหลังแล้ว หลังจากประกาศขีดเส้นตายการชุมนุมมัดตัวเอง ทำให้ต่อจากนี้คือการเอาจริงล้วนๆ ไม่ใช่แค่คำขู่ฟ่อ
แต่กระนั้นก็ตาม การโพทนาออกตัวแรงเอาไว้ก็เหมือน“ดาบสองคม” เพราะหากออกมา“แป้ก”อีก ไม่มีอะไรที่ดูจะรุกคืบ คนที่จะเสร็จอาจจะไม่ใช่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์" แต่เป็น “ม็อบเดอะเทือก”เอง
“แป้ก”สองรอบติด โอกาสที่จะกู้ศรัทธาประชาชน ทำได้ยากแน่ๆ เพราะยาใช้บ่อยๆ มันเริ่มดื้อ
แต่เดาใจจะเด็ดถึงที่สุดเลยหรือไม่ ก็คงจะยาก ด้วยเงื่อนไขหลายๆ อย่าง ที่ตีกรอบอยู่ โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องสาวไส้คดีทุจริตต่างๆ ใน “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”ประเภทรายการ “แฉ”อาจทำได้ไม่สุด
เพราะตามห้วงเวลา ภายในหนึ่งถึงสองสัปดาห์จะถึงคิวเวที “ซักฟอก” ยังไงต้องเก็บต้องกั๊กไว้ใช้ในเวทีสภา เพื่อเป็นอาวุธเด็ดเหมือนหลายๆ รอบที่ผ่านมา
โดยเฉพาะหลักฐานเด็ดๆ ที่หากแฉในสภาเสร็จ สามารถนำมาขยายปมในม็อบเป็นช็อตต่อเนื่อง
**เลยต้องจับตาศุกร์ 15 พฤศจิกายน จะหรรษา สำหรับ“เทือก”หรือจะหรรษาสำหรับ“รัฐบาล”ที่พร้อมกุมท้องขำ หากมุกออกมา“แป้ก” เพราะมันเป็นไฟต์บังคับพอสมควร