คลังหาทางออกหลังธ.ก.ส.หมดหน้าตักไม่มีเงินจ่ายโครงการรับจำนำข้าว เตรียมเสนอให้รัฐบาลนำงบกลางจ่ายคืนหนี้เก่า 3 หมื่นล้านสำรองจ่ายหลังกระทรวงพาณิชย์เบี้ยวจ่ายเงินระบายข้าว ยันใช้เงินในโครงการตามกรอบวงเงินเดิม 5 แสนล้านบาทเท่านั้น ขณะที่ธ.ก.ส.ออกเงินฝากตุนสภาพคล่องอีก 4.5 หมื่นล้าน
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมาว่าที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการจำนำข้าวฤดูการผลิต 2556/2557 ว่า การดำเนินโครงการจะยังคงยึดกรอบวงเงินเดิม 5 แสนล้านบาทตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติไว้เดิม แม้ว่าครม.จะอนุมัติกรอบของใหม่ไว้แล้ว 2.7 แสนล้านบาทก็จะเป็นเงินที่หมุนเวียนตามกรอบเงินกู้เดิมไม่กิน 4.1 แสนล้านบาทและวงเงินของธ.ก.ส. 9 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามเนื่องจากวงเงินที่จะได้จากการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ในปีนี้อาจจะได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิม 2.2 แสนล้านบาท โดยขณะนี้มีการนำส่งเงินมาแล้ว 1.5 แสนล้านบาท และในช่วง 2 เดือนนี้คาดว่าจะนำส่งมาได้อีก 2.4 หมื่นล้านบาทรวมเป็น 1.75 แสนล้านบาททำให้กระทรวงการคลังจะขอให้รัฐบาลชำระหนี้คืนในส่วนของหนี้เดิมที่ค้างอยู่เกือบแสนล้านบาทมาก่อน 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจเป็นเงินจากงบกลางของปี 2557 โดยเป็นส่วนที่เพิ่มจากงบประมาณที่ได้รับจัดไว้แล้ว 8 หมื่นล้านบาท
“จากที่ประเมินไว้จากนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมยังมีเงินที่ขาดอยู่ 5 หมื่นล้านบาทที่ต้องหาเข้ามาใช้ดำเนินโครงการเพื่อให้วงเงินลดลงไปอยู่ในกรอบ 5 แสนล้านบาทตามมติครม.ซึ่งหากได้งบเพิ่มเติมมาอีก3หมื่นล้านบาทและเงินขายข้าวอีก2.4หมื่นล้านบาทก็จะสอดคล้องกันพอดี”นายทนุศักดิ์ กล่าวและว่าที่ประชุมได้ประเมินประมารข้าวการใช้เงินจากนี้ไปถึงปลายปี และการดำเนินโครงการว่าจะขัดกับกฎหมายหรือมติครม.หรือไม่ โดยสรุปแล้วเห็นว่าธ.ก.ส.สามารถดำเนินโครงการจำนำข้าวต่อเนื่องได้ คาดว่าภายในวันที่ 14-15 พ.ย.นี้จะเริ่มทยอยจ่ายเงินในการรับจำนำข้าวรอบใหม่ได้
ส่วนการดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนม.ค.2557 เป็นต้นไปนั้นก็จะถือเป็นการดำเนินงานตามกรอบ 2.7 แสนล้านบาทตามที่ครม.อนุมัติไว้ โดยเงินส่วนใหญ่ยังมาจากการระบายข้าวเป็นหลัก และเงินงบประมาณที่ธ.ก.ส.ได้รับสรรมา 8 หมื่นล้านบาทนั้นก็สามารถนำมาใช้หมุนเวียนได้และหากมีการนำไปชำระหนี้เงินกู้เดิมก็สามารถกู้หมุนเวียนนำมาใช้ได้เพิ่มเติมระหว่างดำเนินโครงการธ.ก.ส.อาจมีการสำรองสภาพคล่องไปก่อนเพื่อรองบประมาณปี 2558 และภายในเดือนธ.ค.2557 วงเงินที่ใช้ดำเนินโครงการก็ต้องลงไปอยู่ตามกรอบเดิม 5 แสนล้านบาทเช่นกัน
นายสุรพงศ์ นิลพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการธ.ก.ส. กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้เปิดตัวโครงการเงินฝากพิเศษ 9 เดือน วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท โดยให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 3.05% ทั้งนี้เพื่อทดแทนเงินฝากดอกเบี้ยทันใจที่จะครบกำหนดภายในเดือนพ.ย.นี้ บางส่วนและรองรับผู้ฝากกลุ่มใหม่อีกบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีเงินออม โดยรับฝากขั้นต่ำ 1 แสนบาทไม่จำกัดเพดานขั้นสูงตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31ธ.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการตรียมสภาพคล่องไว้ตามแผนระดมเงินฝากของธนาคารทั้งปี 8.2 หมื่นล้านบาทบาท โดยขณะนี้ระดมข้ามาแล้ว 4 หมื่นล้านบาท ยังเหลือผลิตภัณฑ์ที่จะออกเพิ่มเติมอีก 2 ประเภทวงเงิน 3 หมื่นล้านบาทที่จะระดมเงินในช่วงไตรมาสแรกปีหน้ารองรับกลุ่มเกษตรกรที่จะมีรายได้เข้ามาในช่วงนั้น
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมาว่าที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการจำนำข้าวฤดูการผลิต 2556/2557 ว่า การดำเนินโครงการจะยังคงยึดกรอบวงเงินเดิม 5 แสนล้านบาทตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติไว้เดิม แม้ว่าครม.จะอนุมัติกรอบของใหม่ไว้แล้ว 2.7 แสนล้านบาทก็จะเป็นเงินที่หมุนเวียนตามกรอบเงินกู้เดิมไม่กิน 4.1 แสนล้านบาทและวงเงินของธ.ก.ส. 9 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามเนื่องจากวงเงินที่จะได้จากการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ในปีนี้อาจจะได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิม 2.2 แสนล้านบาท โดยขณะนี้มีการนำส่งเงินมาแล้ว 1.5 แสนล้านบาท และในช่วง 2 เดือนนี้คาดว่าจะนำส่งมาได้อีก 2.4 หมื่นล้านบาทรวมเป็น 1.75 แสนล้านบาททำให้กระทรวงการคลังจะขอให้รัฐบาลชำระหนี้คืนในส่วนของหนี้เดิมที่ค้างอยู่เกือบแสนล้านบาทมาก่อน 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจเป็นเงินจากงบกลางของปี 2557 โดยเป็นส่วนที่เพิ่มจากงบประมาณที่ได้รับจัดไว้แล้ว 8 หมื่นล้านบาท
“จากที่ประเมินไว้จากนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมยังมีเงินที่ขาดอยู่ 5 หมื่นล้านบาทที่ต้องหาเข้ามาใช้ดำเนินโครงการเพื่อให้วงเงินลดลงไปอยู่ในกรอบ 5 แสนล้านบาทตามมติครม.ซึ่งหากได้งบเพิ่มเติมมาอีก3หมื่นล้านบาทและเงินขายข้าวอีก2.4หมื่นล้านบาทก็จะสอดคล้องกันพอดี”นายทนุศักดิ์ กล่าวและว่าที่ประชุมได้ประเมินประมารข้าวการใช้เงินจากนี้ไปถึงปลายปี และการดำเนินโครงการว่าจะขัดกับกฎหมายหรือมติครม.หรือไม่ โดยสรุปแล้วเห็นว่าธ.ก.ส.สามารถดำเนินโครงการจำนำข้าวต่อเนื่องได้ คาดว่าภายในวันที่ 14-15 พ.ย.นี้จะเริ่มทยอยจ่ายเงินในการรับจำนำข้าวรอบใหม่ได้
ส่วนการดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนม.ค.2557 เป็นต้นไปนั้นก็จะถือเป็นการดำเนินงานตามกรอบ 2.7 แสนล้านบาทตามที่ครม.อนุมัติไว้ โดยเงินส่วนใหญ่ยังมาจากการระบายข้าวเป็นหลัก และเงินงบประมาณที่ธ.ก.ส.ได้รับสรรมา 8 หมื่นล้านบาทนั้นก็สามารถนำมาใช้หมุนเวียนได้และหากมีการนำไปชำระหนี้เงินกู้เดิมก็สามารถกู้หมุนเวียนนำมาใช้ได้เพิ่มเติมระหว่างดำเนินโครงการธ.ก.ส.อาจมีการสำรองสภาพคล่องไปก่อนเพื่อรองบประมาณปี 2558 และภายในเดือนธ.ค.2557 วงเงินที่ใช้ดำเนินโครงการก็ต้องลงไปอยู่ตามกรอบเดิม 5 แสนล้านบาทเช่นกัน
นายสุรพงศ์ นิลพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการธ.ก.ส. กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้เปิดตัวโครงการเงินฝากพิเศษ 9 เดือน วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท โดยให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 3.05% ทั้งนี้เพื่อทดแทนเงินฝากดอกเบี้ยทันใจที่จะครบกำหนดภายในเดือนพ.ย.นี้ บางส่วนและรองรับผู้ฝากกลุ่มใหม่อีกบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีเงินออม โดยรับฝากขั้นต่ำ 1 แสนบาทไม่จำกัดเพดานขั้นสูงตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31ธ.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการตรียมสภาพคล่องไว้ตามแผนระดมเงินฝากของธนาคารทั้งปี 8.2 หมื่นล้านบาทบาท โดยขณะนี้ระดมข้ามาแล้ว 4 หมื่นล้านบาท ยังเหลือผลิตภัณฑ์ที่จะออกเพิ่มเติมอีก 2 ประเภทวงเงิน 3 หมื่นล้านบาทที่จะระดมเงินในช่วงไตรมาสแรกปีหน้ารองรับกลุ่มเกษตรกรที่จะมีรายได้เข้ามาในช่วงนั้น