**ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยสอดไส้ตามบัญชานายใหญ่นักโทษหนีคดี ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลปูกรรเชียง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯสมองกลวง และลิ่วล้อพรรคเพื่อไทย เร่งกันผลักดัน“ลักหลับ”ช่วงดึกสงัด ผ่านสภาล่างแบบรวดเร็วทันใจ
แต่ไปไม่รอด ยังไม่ทันผ่านด่าน “สภาสูง”เจอสารพัดม็อบออกมาต่อต้านขัดขวางแบบมืดฟ้ามัวดิน จนถอยกรูดแทบไม่ทัน !!
นช.ทักษิณพยายามดันทุรัง แต่ น้องสาวกลัวม็อบจนขนหัวลุก ไม่กล้าขยับลุยต่อ สุมหัวทีมงานในประเทศ ปรึกษา“เจ๊แดง” เยาวภา ซาลาเปาอวบ ร้องห่มร้องไห้ ขอถอย กลัวรัฐบาลพัง กลัวตกงาน อดฉุยฉายโชว์แฟชั่นในตำแหน่งผู้นำประเทศ จนในที่สุด “ทักษิณ”ต้องจำยอมทั้งที่ใจยังสู้
คนวงในนินทาเล็ดรอดออกมาว่า งานนี้“ทักษิณ”ก้าวพลาดเดินตกหลุมพรางที่คนขุดหลุมไว้ และอาจโดนฝังกลบในเวลาต่อมา แว่วว่ามีการตกลงเจรจากันในทางลับมานานพอสมควรแล้ว ก่อนที่จะมีการส่งสัญญาณให้ “แม้ว”ลุยหมากนี้ แต่ทว่าเป็น “สัญญาณลวง”
หลายคนในพรรคเพื่อไทย รวมทั้งแกนนำคนเสื้อแดง ทั้งคุกเข่ากระตุกขา ดึงกางเกงนายใหญ่ไว้ แต่ไร้ผล อารมณ์อยากกลับบ้านมันบังตาจนหน้ามืด ไม่ได้คิดลึกลับซับซ้อนเหมือนอย่างเคย
ซ้ำยังด่าพวกเกาะแข้งเกาะขากระเจิดเจิงไป “คนรักผมเยอะ แต่ไม่อยากให้ผมกลับบ้าน”คำนี้พูดออกสื่อบ่อยๆ เมื่ออารมณ์คิดถึงบ้านพลุ่งพล่าน วนเวียนอยู่ในหัว สะท้อนอาการได้อย่างชัดเจน
**สุดท้ายเป็น“ทักษิณ”ที่เดินแต้มพลาดอีกหน ตกหลุมพรางของใครบางคน ผลที่เกิดขึ้นได้สร้างความร้าวฉานที่เห็นกันชัดเจนระหว่างคนเสื้อแดงกับนายใหญ่ โกรธขึ้งถึงขนาดไม่เผาผี เฉดหัวทิ้งออกจากผังรายการเอเชียอัพเดต ที่ใช้เป็นเวทีพ่นน้ำลายด่าคนอื่นฟรี สำเร็จความใคร่ทางปาก
เมื่ออารมณ์มันพาไปชั่วโมงนั้น“ทักษิณ”ไม่คิดถึง ไม่ยี่หระตรงนี้ จะอะไรเสียก็ทิ้งได้หมดเพื่อตัวเอง
เมื่อกลับไม่ได้ ไปไม่ถึง ใกล้จนกลางกระดาน ก็ต้องให้ “เมียหัวกะบังลม” ไปเจรจาเอาเสื้อแดงกลับมาหนุนหลัง เพราะเจอม็อบต่อต้านด่าข้างเดียวจนเจียนอยู่เจียนพัง ให้นปช. ตั้งเวทีสู้ ขู่ฟ่อตามสันดานดิบของพวกเสื้อแดงถ่อยเถื่อน
หลายคนหวาดหวั่นจะมีแผนชั่วร้ายปนคาวเลือดออกมาสู่สังคมไทยอีกครั้งหรือไม่ เพราะเกมแบบนี้มันถนัดกันนัก !!
รัฐบาลพยายามดึงคนเสื้อแดงออกมาแสดงพลังอีกด้านของสังคมเพื่อทานน้ำหนักแรงเสียดทาน แต่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นการเติมฟืนใส่ไฟอีกหรือเปล่ามันอาจเป็นการยั่วยุเพิ่มเติม คนเราเมื่อเดินเกมพลาดไปแล้วต้องหยุดก่อน เพราะส่วนใหญ่พลาดแล้วจะพลาดอีก พรรคเพื่อไทยพยายามดึงฟืนออกจากไฟ ลดความร้อนแรงของม็อบต่อต้านที่กำลังลุกลามเป็นไฟลามทุ่งทุกวิถีทาง ถอนร่างกฎหมายนิรโทษกรรม-ปรองดอง ทั้ง 6 ฉบับ ออกจากสภา ทั้งยังประกาศย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะไม่เอา พ.ร.บ.ฉบับสุดซอยมาพิจารณาอีก ถอยกันจนสุดกระดาน
ทว่าดูเหมือนสังคมยังไม่เชื่อลม ปากเพราะก่อนหน้านี้โกหกมาจนชาวบ้านไม่เชื่อถือ มองเป็นพวกคนถ่อย ตอแหลสุดซอย
ล่าสุดต้องเรียกพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมพิธีกรรมปาหี่ ลงนามในสัตยาบันรับประกันกฎหมายล้างผิดอัปยศสุดซอยจะไม่ถูกนำมารีไซเคิลใช้ใหม่ เรียกว่าทางไหนถอยได้ก็ยอมถอยจนสุดรู ต้องไปอยู่กับหมาขี้เรื้อนก็ยอม
**แต่ยังไงก็ตาม สังคมยังไม่เชื่อสนิทใจอีกนั่นแหละ พฤติกรรมฉ้อฉลติดเป็นสันดาน ต้องพาไปเลิกถ้ำกระบอกถึงจะเชื่อ
วันนี้ม็อบไปไกลแล้วสำรวจอัตราเจริญเติบโตเป็นไปแบบก้าวกระโดด เปรียบเป็นพืชก็ตัดต่อพันธุกรรม ตีตราจีเอ็มโอ ก็ขึ้นอยู่ว่า “โตไวตายเร็ว หรือยืนระยะอยู่ได้”
วันนี้ต้องยอมรับว่า ม็อบได้ก้าวข้ามม็อบการเมืองธรรมดาๆไปแล้ว ประเด็นการเมืองกลายเป็นเพียงน้ำจิ้มประกอบฉากสร้างสีสันความรู้สึกมันเดินหน้าไปกว่าแค่การโกง ล้างผลพวงปฏิวัติผลไม้พิษอะไรเหล่านั้น
คนรู้สึกว่าถึงเวลาต้องเอาคืน ใครที่มันเคยทำร้ายเรา เคยทำร้ายประเทศต้องเอากลับมาตัดหัวคั่วแห้ง ต้องเอามาติดคุกให้สาแก่ใจ ตอนนี้ม็อบออกมากัน เลิกเป็นไทยเฉยคนร่วมมาจากทุกสาขาอาชีพ แบบไม่ต้องจ้างวาน ไม่ต้องเชื้อเชิญ
**ตัวละครคนหนึ่งที่สำคัญ ถือเป็นคนที่ทรงพลังทางสังคมคนหนึ่ง นั่นคือ “อ.เสรี วงษ์มณฑา”แม่ทัพพรางชมพู
ยามนี้ประเทศไทยมีเพศที่ 3 มากมาย ประมาณ 2-3 ล้านคน นี่อาจจะเป็นพลังหนึ่งซึ่งเปลี่ยนแปลงสังคมได้ อย่าไปปรามาสว่าเป็นเกย์ เป็นตุ๊ด คนเหล่านี้มีตัวตน บางครั้งความคิดความเห็นล้ำลึก รู้แจ้งแทงทะลุกว่าคนทั่วๆไป
“อ.เสรี” อาจเป็นศาสดาผู้ปลดปล่อยนำกระเทยตีแสกหน้าสังคมที่รัฐบาลบริหารจนเป็นสังคัง ลีลาบนเวทีปราศรัยเป็นที่ประจักษ์กันดีอยู่แล้ว แต่ละถ้อยคำล้วนเชือดเฉือนกินใจ ใครได้ฟังแล้วต้องโห่ร้องปรบมือเห็นด้วยอย่างไม่รู้ตัว
การขึ้นเวทีหนล่าสุดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ของ“อ.เสรี”เผ็ดร้อน กระแทกใจด่าถึงโคตรพ่อโคตรแม่ตระกูลชิน ถูกอกถูกใจคอซาดิสต์เป็นที่ยิ่ง “มันนิรโทษสุดซอย เราก็ต้องไล่มันสุดแดน เนรเทศไปทั้งตระกูล”
การชุมนุมครั้งนี้ ทำท่าว่า“เสรี”จะทุ่มสุดชีวิต สร้างชื่อให้ลือลั่น และนอกจากตัว “อ.เสรี”ยังมีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง เก้ง กวาง ชะนี ลิง ค่าง พร้อมขยับ เป่านกหวีดปี๊ดเดียวรู้เรื่อง !!
ยิ่ง “อ.เสรี”ออกมาด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว แบบตายเป็นตาย ขึ้นโรงขึ้นศาลก็ไม่หวั่นเช่นนี้ ก็จะได้ใจกะเทย เก้ง กวาง ทุกวัย ประเทศไทยอุดมไปด้วยพลเมืองสาวประเภทสองอันดับต้นๆ ของโลกอยู่แล้ว
**“อ.เสรี”นั้นเป็นปรมาจารย์ของคนชอบไม้ป่าเดียวกันมานาน เป็นไอดอลที่กะเทยไทยไม่เคยลบเลือนไปจากหัวใจ ดังนั้นเมื่อชักธงรบแบบนี้ ก็คงจะเรียก “กองทัพตุ๊ดไทยหัวใจรักชาติ”ออกมาเป็นเพื่อร่วมรบกันได้สะท้านสะเทือนแน่
ยิ่งได้ลูกมือชั้นดีอย่าง “ครูลิลลี่”ติวเตอร์ภาษาไทยชื่อดังมาเสริม และยังมีตุ๊ดรุ่นน้องรุ่นลูกยกโขยงมาเป็น “เพื่อนร่วมรบ ศพร่วมหลุม”ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามากรีดกรายเวทีม็อบราชดำเนินทุกค่ำคืน ม็อบสีสันกระฉูดไม่มีวันจืดแน่ แต่บาร์เกย์อาจจะเจ๊งถ้าม็อบอยู่นาน !!
** หากได้พลพรรคมาเพิ่มเติมขนาดนี้ใครจะถอยก็ถอยไป ไม่เป็นไรแล้ว “กองทัพพรางชมพู” จะอาสาเป็นแนวหน้าท้ารบให้เอง “นักรบนะยะ”มาแล้ว ใครใจไม่ถึงก็ถอยไป !!
แต่ไปไม่รอด ยังไม่ทันผ่านด่าน “สภาสูง”เจอสารพัดม็อบออกมาต่อต้านขัดขวางแบบมืดฟ้ามัวดิน จนถอยกรูดแทบไม่ทัน !!
นช.ทักษิณพยายามดันทุรัง แต่ น้องสาวกลัวม็อบจนขนหัวลุก ไม่กล้าขยับลุยต่อ สุมหัวทีมงานในประเทศ ปรึกษา“เจ๊แดง” เยาวภา ซาลาเปาอวบ ร้องห่มร้องไห้ ขอถอย กลัวรัฐบาลพัง กลัวตกงาน อดฉุยฉายโชว์แฟชั่นในตำแหน่งผู้นำประเทศ จนในที่สุด “ทักษิณ”ต้องจำยอมทั้งที่ใจยังสู้
คนวงในนินทาเล็ดรอดออกมาว่า งานนี้“ทักษิณ”ก้าวพลาดเดินตกหลุมพรางที่คนขุดหลุมไว้ และอาจโดนฝังกลบในเวลาต่อมา แว่วว่ามีการตกลงเจรจากันในทางลับมานานพอสมควรแล้ว ก่อนที่จะมีการส่งสัญญาณให้ “แม้ว”ลุยหมากนี้ แต่ทว่าเป็น “สัญญาณลวง”
หลายคนในพรรคเพื่อไทย รวมทั้งแกนนำคนเสื้อแดง ทั้งคุกเข่ากระตุกขา ดึงกางเกงนายใหญ่ไว้ แต่ไร้ผล อารมณ์อยากกลับบ้านมันบังตาจนหน้ามืด ไม่ได้คิดลึกลับซับซ้อนเหมือนอย่างเคย
ซ้ำยังด่าพวกเกาะแข้งเกาะขากระเจิดเจิงไป “คนรักผมเยอะ แต่ไม่อยากให้ผมกลับบ้าน”คำนี้พูดออกสื่อบ่อยๆ เมื่ออารมณ์คิดถึงบ้านพลุ่งพล่าน วนเวียนอยู่ในหัว สะท้อนอาการได้อย่างชัดเจน
**สุดท้ายเป็น“ทักษิณ”ที่เดินแต้มพลาดอีกหน ตกหลุมพรางของใครบางคน ผลที่เกิดขึ้นได้สร้างความร้าวฉานที่เห็นกันชัดเจนระหว่างคนเสื้อแดงกับนายใหญ่ โกรธขึ้งถึงขนาดไม่เผาผี เฉดหัวทิ้งออกจากผังรายการเอเชียอัพเดต ที่ใช้เป็นเวทีพ่นน้ำลายด่าคนอื่นฟรี สำเร็จความใคร่ทางปาก
เมื่ออารมณ์มันพาไปชั่วโมงนั้น“ทักษิณ”ไม่คิดถึง ไม่ยี่หระตรงนี้ จะอะไรเสียก็ทิ้งได้หมดเพื่อตัวเอง
เมื่อกลับไม่ได้ ไปไม่ถึง ใกล้จนกลางกระดาน ก็ต้องให้ “เมียหัวกะบังลม” ไปเจรจาเอาเสื้อแดงกลับมาหนุนหลัง เพราะเจอม็อบต่อต้านด่าข้างเดียวจนเจียนอยู่เจียนพัง ให้นปช. ตั้งเวทีสู้ ขู่ฟ่อตามสันดานดิบของพวกเสื้อแดงถ่อยเถื่อน
หลายคนหวาดหวั่นจะมีแผนชั่วร้ายปนคาวเลือดออกมาสู่สังคมไทยอีกครั้งหรือไม่ เพราะเกมแบบนี้มันถนัดกันนัก !!
รัฐบาลพยายามดึงคนเสื้อแดงออกมาแสดงพลังอีกด้านของสังคมเพื่อทานน้ำหนักแรงเสียดทาน แต่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นการเติมฟืนใส่ไฟอีกหรือเปล่ามันอาจเป็นการยั่วยุเพิ่มเติม คนเราเมื่อเดินเกมพลาดไปแล้วต้องหยุดก่อน เพราะส่วนใหญ่พลาดแล้วจะพลาดอีก พรรคเพื่อไทยพยายามดึงฟืนออกจากไฟ ลดความร้อนแรงของม็อบต่อต้านที่กำลังลุกลามเป็นไฟลามทุ่งทุกวิถีทาง ถอนร่างกฎหมายนิรโทษกรรม-ปรองดอง ทั้ง 6 ฉบับ ออกจากสภา ทั้งยังประกาศย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะไม่เอา พ.ร.บ.ฉบับสุดซอยมาพิจารณาอีก ถอยกันจนสุดกระดาน
ทว่าดูเหมือนสังคมยังไม่เชื่อลม ปากเพราะก่อนหน้านี้โกหกมาจนชาวบ้านไม่เชื่อถือ มองเป็นพวกคนถ่อย ตอแหลสุดซอย
ล่าสุดต้องเรียกพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมพิธีกรรมปาหี่ ลงนามในสัตยาบันรับประกันกฎหมายล้างผิดอัปยศสุดซอยจะไม่ถูกนำมารีไซเคิลใช้ใหม่ เรียกว่าทางไหนถอยได้ก็ยอมถอยจนสุดรู ต้องไปอยู่กับหมาขี้เรื้อนก็ยอม
**แต่ยังไงก็ตาม สังคมยังไม่เชื่อสนิทใจอีกนั่นแหละ พฤติกรรมฉ้อฉลติดเป็นสันดาน ต้องพาไปเลิกถ้ำกระบอกถึงจะเชื่อ
วันนี้ม็อบไปไกลแล้วสำรวจอัตราเจริญเติบโตเป็นไปแบบก้าวกระโดด เปรียบเป็นพืชก็ตัดต่อพันธุกรรม ตีตราจีเอ็มโอ ก็ขึ้นอยู่ว่า “โตไวตายเร็ว หรือยืนระยะอยู่ได้”
วันนี้ต้องยอมรับว่า ม็อบได้ก้าวข้ามม็อบการเมืองธรรมดาๆไปแล้ว ประเด็นการเมืองกลายเป็นเพียงน้ำจิ้มประกอบฉากสร้างสีสันความรู้สึกมันเดินหน้าไปกว่าแค่การโกง ล้างผลพวงปฏิวัติผลไม้พิษอะไรเหล่านั้น
คนรู้สึกว่าถึงเวลาต้องเอาคืน ใครที่มันเคยทำร้ายเรา เคยทำร้ายประเทศต้องเอากลับมาตัดหัวคั่วแห้ง ต้องเอามาติดคุกให้สาแก่ใจ ตอนนี้ม็อบออกมากัน เลิกเป็นไทยเฉยคนร่วมมาจากทุกสาขาอาชีพ แบบไม่ต้องจ้างวาน ไม่ต้องเชื้อเชิญ
**ตัวละครคนหนึ่งที่สำคัญ ถือเป็นคนที่ทรงพลังทางสังคมคนหนึ่ง นั่นคือ “อ.เสรี วงษ์มณฑา”แม่ทัพพรางชมพู
ยามนี้ประเทศไทยมีเพศที่ 3 มากมาย ประมาณ 2-3 ล้านคน นี่อาจจะเป็นพลังหนึ่งซึ่งเปลี่ยนแปลงสังคมได้ อย่าไปปรามาสว่าเป็นเกย์ เป็นตุ๊ด คนเหล่านี้มีตัวตน บางครั้งความคิดความเห็นล้ำลึก รู้แจ้งแทงทะลุกว่าคนทั่วๆไป
“อ.เสรี” อาจเป็นศาสดาผู้ปลดปล่อยนำกระเทยตีแสกหน้าสังคมที่รัฐบาลบริหารจนเป็นสังคัง ลีลาบนเวทีปราศรัยเป็นที่ประจักษ์กันดีอยู่แล้ว แต่ละถ้อยคำล้วนเชือดเฉือนกินใจ ใครได้ฟังแล้วต้องโห่ร้องปรบมือเห็นด้วยอย่างไม่รู้ตัว
การขึ้นเวทีหนล่าสุดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ของ“อ.เสรี”เผ็ดร้อน กระแทกใจด่าถึงโคตรพ่อโคตรแม่ตระกูลชิน ถูกอกถูกใจคอซาดิสต์เป็นที่ยิ่ง “มันนิรโทษสุดซอย เราก็ต้องไล่มันสุดแดน เนรเทศไปทั้งตระกูล”
การชุมนุมครั้งนี้ ทำท่าว่า“เสรี”จะทุ่มสุดชีวิต สร้างชื่อให้ลือลั่น และนอกจากตัว “อ.เสรี”ยังมีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง เก้ง กวาง ชะนี ลิง ค่าง พร้อมขยับ เป่านกหวีดปี๊ดเดียวรู้เรื่อง !!
ยิ่ง “อ.เสรี”ออกมาด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว แบบตายเป็นตาย ขึ้นโรงขึ้นศาลก็ไม่หวั่นเช่นนี้ ก็จะได้ใจกะเทย เก้ง กวาง ทุกวัย ประเทศไทยอุดมไปด้วยพลเมืองสาวประเภทสองอันดับต้นๆ ของโลกอยู่แล้ว
**“อ.เสรี”นั้นเป็นปรมาจารย์ของคนชอบไม้ป่าเดียวกันมานาน เป็นไอดอลที่กะเทยไทยไม่เคยลบเลือนไปจากหัวใจ ดังนั้นเมื่อชักธงรบแบบนี้ ก็คงจะเรียก “กองทัพตุ๊ดไทยหัวใจรักชาติ”ออกมาเป็นเพื่อร่วมรบกันได้สะท้านสะเทือนแน่
ยิ่งได้ลูกมือชั้นดีอย่าง “ครูลิลลี่”ติวเตอร์ภาษาไทยชื่อดังมาเสริม และยังมีตุ๊ดรุ่นน้องรุ่นลูกยกโขยงมาเป็น “เพื่อนร่วมรบ ศพร่วมหลุม”ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามากรีดกรายเวทีม็อบราชดำเนินทุกค่ำคืน ม็อบสีสันกระฉูดไม่มีวันจืดแน่ แต่บาร์เกย์อาจจะเจ๊งถ้าม็อบอยู่นาน !!
** หากได้พลพรรคมาเพิ่มเติมขนาดนี้ใครจะถอยก็ถอยไป ไม่เป็นไรแล้ว “กองทัพพรางชมพู” จะอาสาเป็นแนวหน้าท้ารบให้เอง “นักรบนะยะ”มาแล้ว ใครใจไม่ถึงก็ถอยไป !!
