การดื้อด้านผลักดันกฎหมายล้างผิดคนชั่ว ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม โดยคนทั่วประเทศลุกฮือขึ้นประท้วงอย่างพร้อมเพียง จนเชื่อว่า กฎหมายบัดซบฉบับนี้ จะถูกเผาทิ้งในขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภา
รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศแถลงข่าวด่วน และแม้จะไม่ยอมรับความผิดพลาด ไม่ยอมรับว่า กฎหมายนิรโทษกรรมฝ่ากระแสต่อต้านของประชาชนไม่ไหว แต่ก็ไม่มีท่าทีที่เหิมเกริมในการขับเคลื่อนแผนการช่วยเหลือพี่ชายตัวเองเหมือนก่อน
แม้จะไม่มีคำประกาศยุติการผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่กระแสต่อต้านที่ขยายไปในวงกว้างสู่คนทุกกลุ่มทั่วประเทศ นำไปสู่การคาดการณ์ว่า แม้นางสาวยิ่งลักษณ์จะดูเป็นหญิงที่แทบไม่มีความฉลาด
แม้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีความฮึกเหิมในอำนาจจนถึงขั้นบงการให้นักการเมืองขี้ข้าเดินหน้าออกกฎหมายล้างผิดตัวเอง
แต่ประชาชนที่ลุกฮือทั่วประเทศออกมาชุมนุมอย่างมืดฟ้ามัวดิน รัฐบาลคงไม่ฆ่าตัวตายเสี่ยงกับกระแสต่อต้าน เพราะพังแน่ๆ
ความเคลื่อนไหวต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมครั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่พร้อมเพรียง และประชาชนทุกกลุ่มร่วมแสดงพลังอย่างเป็นเอกภาพ เทียบเท่ากับยุค 14 ตุลาคม 2516
ปฏิกิริยาความเกลียดชังกฎหมายล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณรุนแรง ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปฏิกิริยาการเกลียดชังระบบเผด็จการ “ถนอม-ประภาส”
เป็นความสำเร็จของพี่น้องตระกูลชินวัตร ที่ปลุกให้คนไทยทั้งประเทศลุกฮือขึ้นมาต่อต้านได้
ไม่ต้องถามว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งจะลงเอยอย่างไร เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ถอยแน่ พ.ต.ท.ทักษิณยอมกลืนเลือดลงคออีกครั้ง
ประชาชนชนะแล้ว แต่ก็เป็นเพียงชัยชนะเล็กๆ กลางสงครามใหญ่
เพราะสงครามใหญ่ของประชาชนคือ การโค่นล้มระบอบทักษิณ ซึ่งภารกิจยังไม่จบแต่เพิ่งเริ่มต้นด้วยซ้ำ โดยถูกจุดชนวนจากพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
กลุ่มต่อต้านหลายกลุ่มอาจวางเป้าหมายการต่อสู้ไว้เพียงการถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถ้ารัฐบาลยอมถอย ก็คงเลิกราปล่อยให้ยิ่งลักษณ์บริหารประเทศต่อไป
แต่ก็มีหลายกลุ่มคิดว่า ไม่ควรเปิดโอกาสให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อีกต่อไปแล้ว เพราะประเทศจะเสียหายหนักขึ้น เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ ไม่เคยคิดแก้ปัญหาของประเทศอย่างจริงจัง มุ่งแต่ช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ
2 ปีเศษที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า รัฐบาลชุดนี้ไร้ความสามารถ นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแม้แต่น้อย ทำหน้าที่ได้เพียงหุ้นที่พี่ชายคอยชักใยให้เท่านั้น
ผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการบริหารประเทศ ไม่เป็นที่ปรากฏแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ผลงานที่ยืนยันถึงความล้มเหลวเต็มไปหมด ไม่ว่าปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่ขยายตัวไปทุกหย่อมหญ้า ระบบราชการที่ถูกแทรกแซงจนฟอนเฟะ ประชาชนทั่วประเทศต้องแบกรับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ทรัพยากรของประเทศถูกปล้นสะดม ประเทศอาจต้องสูญเสียดินแดนเพราะนักการเมืองขายชาติ
ข้าราชการขายศักดิ์ศรีตัวเอง หันไปเป็น “ขี้ข้า” รับใช้พ.ต.ท.ทักษิณกันเต็มบ้านเต็มเมือง
ส่วนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ตระหนักเพียงวาระเดียว ล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ และนำตัวกลับบ้านอย่างวีรบุรุษ ไม่ต้องติดคุกติดตะราง แต่กลับมาคุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ
แผนการล้างมลทินให้พ.ต.ท.ทักษิณอาจต้องล้มเหลวลงอีกครั้ง แต่ยิ่งลักษณ์ คงไม่เลิกคิดที่จะช่วยพี่ชายตัวเอง และหันไปรอคอยจังหวะต่อไป
ยามใดที่ประชาชนเผลอ ยามใดที่กระแสสังคมอ่อนแอ หรือยามใดที่ “ทักษิณ” ซื้อข้าราชการเป็นขี้ข้ากันทั้งแผ่นดินแล้ว รวมทั้งกองทัพด้วย ก็จะเหิมเกริม ผลักดันกฎหมายออกมาอีก
ประชาชนบางกลุ่มจึงคิดว่า ไม่ควรให้โอกาส “ยิ่งลักษณ์” อีกแล้ว เพราะไม่เคยคิดเรื่องดีๆ ต่อประชาชน ไม่ควรให้เวลากับรัฐบาลชุดนี้อีกต่อไป เพราะไม่มีทางที่จะบริหารประเทศได้ดี
ไม่มีวันที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะทำงานเพื่อประชาชน นอกจากคอยฟังคำบงการของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีวันที่นางสาวยิ่งลักษณ์จะทำให้สังคมเกิดความสงบสุข
ไม่มีวันที่รัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจจะกอบกู้ปัญหาเศรษฐกิจได้ เพราะไม่มีใคร “มือถึง” สักคน แม้แต่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ไม่มีฝีมือ
รู้กันอยู่แล้วว่า ยิ่งปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ต่อไป ประเทศก็จะล่มจมหนักยิ่งขึ้น
รู้กันอยู่ว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำงานเพื่อช่วยเหลือคนเพียงคนเดียว และมีวันที่จะเลิกคิด
วันนี้ประชาชนทนกฎหมายบัดซบไม่ได้ ลุกฮือขึ้นมาต่อต้านจนแผนการล้างผิด “ทักษิณ” อาจต้องล่มกลางคัน แต่วันหน้า ก็จะมีการผลักดันกฎหมายช่วย “ทักษิณ”ออกมาอีก
จะเปิดโอกาส “ยิ่งลักษณ์” อีกทำไม ในเมื่อกระแสประชาชนจุดติดแล้ว ในเมื่อรัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำ ข้าราชการโดยเฉพาะตำรวจ “ขี้ข้า” กำลังขวัญเสีย เพราะพลังมวลชนลุกฮืออย่างล้นหลามมืดฟ้ามัวดินจนรายงานจำนวนถูก
ต้องยกระดับการชุมนุมใหม่ เพราะเป้าหมายการต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่ำเกินไปแล้ว ต้องเปลี่ยนเป็นประกาศตะเพิดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ออกไปให้เร็วที่สุด
เพราะยอมรับกันแล้วไม่ใช่หรือ “ยิ่งลักษณ์” ยิ่งอยู่นาน ประเทศยิ่งวิบัติ จะปล่อยให้นั่งทำลายประเทศต่อไปทำไม ช่วยกันไล่ให้พ้นๆ ตั้งแต่วันนี้ไม่ดีกว่าหรือ
รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศแถลงข่าวด่วน และแม้จะไม่ยอมรับความผิดพลาด ไม่ยอมรับว่า กฎหมายนิรโทษกรรมฝ่ากระแสต่อต้านของประชาชนไม่ไหว แต่ก็ไม่มีท่าทีที่เหิมเกริมในการขับเคลื่อนแผนการช่วยเหลือพี่ชายตัวเองเหมือนก่อน
แม้จะไม่มีคำประกาศยุติการผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่กระแสต่อต้านที่ขยายไปในวงกว้างสู่คนทุกกลุ่มทั่วประเทศ นำไปสู่การคาดการณ์ว่า แม้นางสาวยิ่งลักษณ์จะดูเป็นหญิงที่แทบไม่มีความฉลาด
แม้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีความฮึกเหิมในอำนาจจนถึงขั้นบงการให้นักการเมืองขี้ข้าเดินหน้าออกกฎหมายล้างผิดตัวเอง
แต่ประชาชนที่ลุกฮือทั่วประเทศออกมาชุมนุมอย่างมืดฟ้ามัวดิน รัฐบาลคงไม่ฆ่าตัวตายเสี่ยงกับกระแสต่อต้าน เพราะพังแน่ๆ
ความเคลื่อนไหวต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมครั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่พร้อมเพรียง และประชาชนทุกกลุ่มร่วมแสดงพลังอย่างเป็นเอกภาพ เทียบเท่ากับยุค 14 ตุลาคม 2516
ปฏิกิริยาความเกลียดชังกฎหมายล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณรุนแรง ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปฏิกิริยาการเกลียดชังระบบเผด็จการ “ถนอม-ประภาส”
เป็นความสำเร็จของพี่น้องตระกูลชินวัตร ที่ปลุกให้คนไทยทั้งประเทศลุกฮือขึ้นมาต่อต้านได้
ไม่ต้องถามว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งจะลงเอยอย่างไร เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ถอยแน่ พ.ต.ท.ทักษิณยอมกลืนเลือดลงคออีกครั้ง
ประชาชนชนะแล้ว แต่ก็เป็นเพียงชัยชนะเล็กๆ กลางสงครามใหญ่
เพราะสงครามใหญ่ของประชาชนคือ การโค่นล้มระบอบทักษิณ ซึ่งภารกิจยังไม่จบแต่เพิ่งเริ่มต้นด้วยซ้ำ โดยถูกจุดชนวนจากพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
กลุ่มต่อต้านหลายกลุ่มอาจวางเป้าหมายการต่อสู้ไว้เพียงการถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถ้ารัฐบาลยอมถอย ก็คงเลิกราปล่อยให้ยิ่งลักษณ์บริหารประเทศต่อไป
แต่ก็มีหลายกลุ่มคิดว่า ไม่ควรเปิดโอกาสให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อีกต่อไปแล้ว เพราะประเทศจะเสียหายหนักขึ้น เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ ไม่เคยคิดแก้ปัญหาของประเทศอย่างจริงจัง มุ่งแต่ช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ
2 ปีเศษที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า รัฐบาลชุดนี้ไร้ความสามารถ นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแม้แต่น้อย ทำหน้าที่ได้เพียงหุ้นที่พี่ชายคอยชักใยให้เท่านั้น
ผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการบริหารประเทศ ไม่เป็นที่ปรากฏแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ผลงานที่ยืนยันถึงความล้มเหลวเต็มไปหมด ไม่ว่าปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่ขยายตัวไปทุกหย่อมหญ้า ระบบราชการที่ถูกแทรกแซงจนฟอนเฟะ ประชาชนทั่วประเทศต้องแบกรับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ทรัพยากรของประเทศถูกปล้นสะดม ประเทศอาจต้องสูญเสียดินแดนเพราะนักการเมืองขายชาติ
ข้าราชการขายศักดิ์ศรีตัวเอง หันไปเป็น “ขี้ข้า” รับใช้พ.ต.ท.ทักษิณกันเต็มบ้านเต็มเมือง
ส่วนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ตระหนักเพียงวาระเดียว ล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ และนำตัวกลับบ้านอย่างวีรบุรุษ ไม่ต้องติดคุกติดตะราง แต่กลับมาคุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ
แผนการล้างมลทินให้พ.ต.ท.ทักษิณอาจต้องล้มเหลวลงอีกครั้ง แต่ยิ่งลักษณ์ คงไม่เลิกคิดที่จะช่วยพี่ชายตัวเอง และหันไปรอคอยจังหวะต่อไป
ยามใดที่ประชาชนเผลอ ยามใดที่กระแสสังคมอ่อนแอ หรือยามใดที่ “ทักษิณ” ซื้อข้าราชการเป็นขี้ข้ากันทั้งแผ่นดินแล้ว รวมทั้งกองทัพด้วย ก็จะเหิมเกริม ผลักดันกฎหมายออกมาอีก
ประชาชนบางกลุ่มจึงคิดว่า ไม่ควรให้โอกาส “ยิ่งลักษณ์” อีกแล้ว เพราะไม่เคยคิดเรื่องดีๆ ต่อประชาชน ไม่ควรให้เวลากับรัฐบาลชุดนี้อีกต่อไป เพราะไม่มีทางที่จะบริหารประเทศได้ดี
ไม่มีวันที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะทำงานเพื่อประชาชน นอกจากคอยฟังคำบงการของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีวันที่นางสาวยิ่งลักษณ์จะทำให้สังคมเกิดความสงบสุข
ไม่มีวันที่รัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจจะกอบกู้ปัญหาเศรษฐกิจได้ เพราะไม่มีใคร “มือถึง” สักคน แม้แต่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ไม่มีฝีมือ
รู้กันอยู่แล้วว่า ยิ่งปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ต่อไป ประเทศก็จะล่มจมหนักยิ่งขึ้น
รู้กันอยู่ว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำงานเพื่อช่วยเหลือคนเพียงคนเดียว และมีวันที่จะเลิกคิด
วันนี้ประชาชนทนกฎหมายบัดซบไม่ได้ ลุกฮือขึ้นมาต่อต้านจนแผนการล้างผิด “ทักษิณ” อาจต้องล่มกลางคัน แต่วันหน้า ก็จะมีการผลักดันกฎหมายช่วย “ทักษิณ”ออกมาอีก
จะเปิดโอกาส “ยิ่งลักษณ์” อีกทำไม ในเมื่อกระแสประชาชนจุดติดแล้ว ในเมื่อรัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำ ข้าราชการโดยเฉพาะตำรวจ “ขี้ข้า” กำลังขวัญเสีย เพราะพลังมวลชนลุกฮืออย่างล้นหลามมืดฟ้ามัวดินจนรายงานจำนวนถูก
ต้องยกระดับการชุมนุมใหม่ เพราะเป้าหมายการต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่ำเกินไปแล้ว ต้องเปลี่ยนเป็นประกาศตะเพิดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ออกไปให้เร็วที่สุด
เพราะยอมรับกันแล้วไม่ใช่หรือ “ยิ่งลักษณ์” ยิ่งอยู่นาน ประเทศยิ่งวิบัติ จะปล่อยให้นั่งทำลายประเทศต่อไปทำไม ช่วยกันไล่ให้พ้นๆ ตั้งแต่วันนี้ไม่ดีกว่าหรือ
