“ดร.เจิมศักดิ์” แขวะ “ปู” ใช้ ส.ว.เป็นเครื่องมือสยบม็อบต้าน พ.ร.บ.ช่วย “แม้ว”

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง-แก้วสรร อติโพธิ ร่วมชำแหละ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กลางเวทีเสวนาวิชาการหัวข้อ “กฎหมายล้างผิด ฟอกตัวคนโกง” นักศึกษา ข้าราชการ ประชาชน ร่วมกว่า 1,000 คน ล้นห้องประชุม

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (6 พ.ย.) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กลุ่ม ม.อ.รักชาติ และนักศึกษา ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จัดเสวนาวิชาการ ในหัวข้อ “กฎหมายล้างผิด ฟอกตัวคนโกง” โดยมี ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และ อ.แก้วสรร อติโพธิ อดีตเลขาธิการ คตส. ส.ว. โดยมี อ.จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ คณะนิติศาสตร์ และ อ.ธัญรดี ทวีกาญจน์ คณะวิทยาการจัดการ ม.สงขลานครินทร์ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา ซึ่งมีนักศึกษา ม.สงนครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมฟังการเสวนาในครั้งนี้กว่า 1,000 คน

โดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เปิดการเสวนาด้วยประเด็นการแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี เรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เมื่อวาน (5 พ.ย.) ที่ผ่านมา ว่า ตอนแรกฟังดูเหมือนว่ารัฐบาลจะถอย แต่เมื่อกลับมาคิดอีกทีเหมือนเป็นการยืมมือวุฒิสภาเพื่อลดกระแสต่อต้านของประชาชนทั้งประเทศในขณะนี้เท่านั้น เช่นเดียวกับ นายแก้วสรร อติโพธิ กล่าวว่า วุฒิสภา ไม่ได้คว่ำร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นเพียงแค่การยับยั้งไว้เท่านั้นเอง และร่าง พ.ร.บ.จะถูกแช่แข็งไว้ 6 เดือน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับว่าวุฒิสภาเป็นเครื่องมือในการถ่วงเวลาให้แก่รัฐบาล

ในช่วงหนึ่งของการเสวนา ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กล่าวว่า ถ้า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนี้ผ่าน 3 ข้อหลักๆ ที่รับไม่ได้ คือ 1.ล้มล้างอำนาจตุลาการ เพราะหลายคดีตุลาการได้ตัดสินแล้วว่าเป็นความผิด ปกติอำนาจบ้านเมืองมันมีด้วยกัน 3 อำนาจ คือ อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ นิติบัญญัติออกกฎหมาย ตุลาการเป็นผู้วินิจฉัย ตัดสินคดีว่ามีใครกระทำความผิดกฎหมายหรือไม่ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติจะไปออกกฎหมาย ให้บอกว่าไม่มีความผิด คิดว่ากำลังละลาบละล้วง และล้มล้างฝ่ายตุลาการ บ้านเมืองก็จะไม่มีขื่อ ไม่มีแป ไม่มีองค์อำนาจในการคาน และดุลกัน

2.รัฐไม่มีอำนาจ และไม่มีสิทธิในการที่จะไปนิรโทษกรรมความผิดในเรื่องทางอาญา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฆ่า เรื่องเผา เรื่องปล้น เพราะรัฐมีหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิของประชาชนทุกคนทั่วไป เมื่อมีคนไปฆ่าคนคนนึ่ง แต่รัฐไปคุ้มครองคนฆ่า แปลว่ารัฐกำลังละเมิดสิทธิของผู้ถูกฆ่า และ 3.เรื่องทุจริต ศาลได้ตัดสินแล้วว่าทุจริต ให้ถือว่าไม่ทุจริต

และในช่วงท้ายของการเสวนาก็ได้มีการให้ความหมายของคำว่า “สุดซอย” ว่า สุดซอยก็คือ เอาให้มันสุดๆ ไปเลย ไหนๆ จะทำทั้งทีแล้ว แต่มันไม่สุดเฉยๆ แต่กลับทะลุซอย ก็คือขยายเวลาด้วย เสนอและหลักการให้เหตุผลเท่านี้ ถ้าดูภาพเป็นกล่อง ก็ขยายออกตั้ง แนวกว้าง และแนวนอน และกล่องก็ใหญ่ขึ้น นี่ก็คือสุดซอย

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศเวทีเสวนาเป็นไปอย่างเข้มข้น ท่ามกลางความสนใจของผู้มาร่วมรับฟัง ซึ่งการเสวนาในครั้งนี้ทำให้ประชาชนได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเวทีจะสิ้นสุดในเวลา 16.00 น. ขณะเดียวกัน เวลา 16.00 น.วันนี้ (6 พ.ย.) มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งได้มีการนัดรวมตัวกันแสดงพลังและอ่านแถลงการณ์ ที่หน้าโรงพยาบาลสงขลานครินทร์