xs
xsm
sm
md
lg

ยึดราชดำเนิน ทิ้งสามเสน-ลั่นปักหลักยาว 75ส.ว.พร้อมคว่ำนิรโทษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-"เทือก"งัดยุทธวิธี ลับ ลวง พราง เคลื่อนทัพพิสดาร จากสามเสนไปวัดพระแก้ว ปฏิญาณต่อหน้าองค์พระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะต่อสู้กับหมู่มารที่ออกกม.นิรโทษกรรม ให้ถึงที่สุด ก่อนปักหลักยึด อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เป็นที่มั่นในการต่อสู้ ขณะที่คปท.และแนวร่วมยังคงชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ ปธ.วุฒิฯยันบรรจุร่างนิรโทษเข้าสู่การพิจารณา 11 พ.ย.นี้ ด้านกลุ่ม 40 ส.ว.มั่นใจคว่ำร่างนิรโทษฯได้ เผยขณะนี้มีส.ว.ที่พร้อมสู้ 75 คนแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของการชุมนุมที่สถานีรถไฟสามเสน ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำได้ประกาศยกระดับการชุมนุมเคลื่อนมวลชน ในเวลา 10.00 น.วานนี้ (4 พ.ย.) โดยนายสุเทพ ขึ้นเวทีประกาศแผนเคลื่อนไหวว่า จะเดินขบวนไปเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนทุกคนออกมาต่อสู้ร่วมกับเพื่อปกป้องชาติ บ้านเมือง พร้อมกับจะไปปฏิญาณตนต่อสิ่งสักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองว่าจะทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์บ้านเมือง โดยไม่ระบุจุดหมายปลายทาง แต่ให้เดินตามแกนนำอย่างเดียว

    จากนั้นขบวนมวลชนได้เคลื่อนมาตามถนนพระราม 6 ไปรวมกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ โดยแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ได้เชิญชวนประชาชนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เข้าร่วมกับขบวนของพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นได้พามวลชนเดินไปตามถนนหลานหลวง ผ่านตามถนนราชดำเนินกลาง มุ่งหน้าไปยังศาลหลักเมือง และวัดพระแก้ว

    ช่วงที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้ทำกิจกรรมเป่านกหวีดยาวนานกว่า 2 นาที ซึ่งเป็นการเป่านกหวีดพร้อมกับกลุ่มมวลชนบริเวณถนนสีลม โดยระบุว่าเสียงนกหวีดดังกล่าว จะเป็นเสียงแห่งชัยชนะของประชาชน จากนั้นเคลื่อนขบวนต่อไปยัง อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯโดยแกนนำผู้ชุมนุมได้วางพวงมาลา เพื่อสดุดีวีรชนในเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ที่อนุสรณ์สถานฯ  โดยจะสืบทอดเจตนารมย์วีรชน 14 ตุลาฯ ขอให้ดวงวิญญาณวีรชน เป็นกำลังใจให้เอาชัยชนะมาให้กับประชาชน จากนั้นเดินต่อไปวัดพระแก้ว เพื่อปฎิญาณตน ไม่ยอมให้คนโกงแผ่นดินอยู่ต่อไป ท่ามกลางเสียงตะโกน "เนรเทศยกโครต ดีกว่านิรโทรยกเข่ง"

 เมื่อขบวนเดินทางไปถึงบริเวณหน้าวัดพระแก้ว นายสุเทพ ได้กล่าวคำปฎิญาณตนร่วมกันว่า พระมหากษัตริย์ของเราทุกพระองค์ ทุกรัชกาล ได้สร้าง ทำนุบำรุงบ้านเมืองเอาไว้ นำมาซึ่งความผาสุขของบ้านเมือง เมื่อเราได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประชาธิปไตย รัชกาลที่ 7 ในขณะนั้นก็ได้ยกอำนาจให้ประชาชน แต่จากนั้นก็มีกลุ่มคนบางกลุ่ม พยายามจะยึดอำนาจเอาไว้เพียงคนเดียว จนเกิดการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า และวันนี้ก็เกิดกลุ่มคนที่เหิมเกริม คิดจะรวบอำนาจเอาไว้กับตัวเองเพียงฝ่ายเดียว เช่น พยายามที่จะออกกฎหมายล้างผิดอย่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อล้างผิดให้คนโกง คนทำผิด เราจึงต้องลุกขึ้นเพื่อปกป้องชาติ ให้ยังคงเป็นประชาธิปไตยต่อไป

"พวกข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะปฏิญาณเบื้องหน้าองค์พระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่า พวกข้าพเจ้าเป็นผู้สำนึกบุญคุณของบ้านเมือง มีความรักชาติบ้านเมืองด้วยความสุจริตใจ ข้าพเจ้าจะต่อสู้กับกฎหมายดังกล่าวอย่างถึงที่สุด และให้คนเหล่านี้ต้องสาปสูญ สลายไปจากแผ่นดินไทย ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง จงดลบรรดาให้พวกเรามีความสุข ความเจริญ และขอให้มีชัยชนะเหนือหมู่มาร เหล่าอธรรม ทั้งหลาย ขอให้ประชาชนและประเทศไทยได้รับชัยชนะ" นายสุเทพ กล่าว
จากนั้น นายสุเทพ ได้ขึ้นรถขยายเสียง เพื่อประกาศมติจากแกนนำต่อประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมว่า เราจะต้องทำให้ชัยชนะเป็นของประชาชนให้ได้ และได้เชิญชวนประชาชนไปร่วมคารวะต่อดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวมทั้งการสูญเสียของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เมื่อวันที่ 10 เม.ย. จากนั้น นายสุเทพ ได้ประกาศว่า ตนตัดสินที่จะทำตามมติของพี่น้องประชาชน นั่นคือ การยกระดับการต่อสู้  และขอประกาศยึดถนนราชดำเนิน เป็นสมรภูมิของเรา จะไม่ย้ายกลับไปที่สามเสนอีก และถ้ารัฐบาลยังไม่ฟังเสียงประชาชน เราจะยกระดับการต่อสู้ขึ้นไปอีก ขอให้พี่น้องทั่วประเทศลุกขึ้นต่อสู้กับเรา สิ่งที่ตนได้ประกาศไป คือมติของพี่น้องทุกคน ที่จะต่อสู้ที่นี่

“เราจะปักหลักชุมนุมที่นี่ ไม่ชนะไม่เลิก และขอให้คนที่อยู่ที่อื่น รวมทั้งคนที่อยู่ในต่างจังหวัด ลุกขึ้นต่อสู้ หรือจะเข้ามาร่วมสู้กับเราก็ได้ ทุกกลุ่ม ทุกสี หากเราทั้งหลายหลอมหัวใจกันเป็นอันหนึ่งอันเดียว ชัยชนะก็จะเป็นของประชาชน”นายสุเทพ กล่าว

คปท.และแนวร่วมยังปักหลักอุรุพงษ์

    ส่วนบรรยากาศบนเวที คปท. ตั้งแต่ช่วง 13.00 น. มีความคึกคักมากกว่าหลายวันที่ผ่านมา โดยบนเวทีปราศรัยมีการแสดงดนตรีสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ เข้าร่วมชุมนุม

    ต่อมาเวลา  15.30 น. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. พร้อมด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. และคณะแกนนำนักศึกษา แถลงว่า  นับจากวันที่ 5 พ.ย.เป็นต้นไป  จะมีเพื่อนนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ อาทิ ม.อุบลราชธานี  ม.รังสิต และ มรภ.สุราษฎร์ธานี  ทยอยเดินทางมาร่วมแสดงพลังคัดค้านการออกกม.นิรโทษกรรมที่อุรุพงษ์  และใน 1-2 วันนี้ ทาง คปท. จะมีการเคลื่อนไหวออกนอกพื้นที่ ทั้งนี้ยังไม่เปิดเผยว่าจะเคลื่อนไปที่ใด  อย่างไรก็ตาม คปท.จะมีการปรึกษาหารือกับ ภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัด ในเวลา 16.00 น. และจะประกาศให้มวลชนทราบในเวลาประมาณ 20.00-21.00 น. โดยจะมีการประเมินสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ว่า การเป่านกหวีดในช่วงนี้ เป็นเพียงการส่งสัญญาณเตือน แต่หากรัฐบาลไม่ยอมรับฟัง ก็จะต้องกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวต่อไป  
 
    นายนิติธร ยังกล่าวอีกว่า ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย และ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรฯ  เข้าร่วมนำเวทีที่อุรุพงษ์นั้น ตนขอยืนยันว่า พล.ต.จำลอง ไม่ใช่แกนนำหลักของ คปท. และภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัด เพียงแต่มาให้กำลังใจกลุ่มนักศึกษา ส่วนนายพิภพ ก็มาช่วยให้คำปรึกษาน้องๆ นักศึกษาในเรื่องของข้อมูลวิชาการที่ปราศรัยบนเวที แต่ตนไม่ปฏิเสธว่า ความเป็นแกนนำพันธมิตรฯ ของบุคคลทั้งสาม อาจทำให้ผู้ชุมนุม มั่นใจมากขึ้น แต่ขณะนี้ การนำเวทีหลัก ยังเป็นกลุ่มคปท.  โดยมีภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัด ที่มีนายสมเกียติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นประธาน จะมีบทบาทในการกำหนดกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวนอกพื้นที่

    นายนิติธร ยอมรับว่า ได้มีการประสานงานระหว่างเวทีอุรุพงษ์ กับเวทีประชาธิปัตย์ อยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งในโอกาสวันข้างหน้า ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการพูดคุย ทำกิจกรรมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ร่วมกัน หรือแลกเปลี่ยนนักปราศรัยระหว่างกัน

ฝ่ายความมั่นคงประเมินสถานการณ์ม็อบ

    เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้เข้าพบ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เพื่อหารือถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยใช้เวลาหารือประมาณครึ่งชั่วโมง

    พล.ต.อ.ประชา กล่าวภายหลังการประชุม ว่า รัฐบาลไม่ได้ขัดขวางการชุมนุม เนื่องจากเป็นการชุมนุมโดยชอบ ปราศจากอาวุธ  ส่วนเรื่องผลกระทบที่เกิดจากการชุมนุม เรามีความเป็นห่วงสิทธิ ของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ชุมนุม และพี่น้องประชาชน จึงจะทำอย่างไรให้เป็นจุดที่พอดีและสมดุลที่สุด แต่อยากขอร้องผู้ชุมนุมว่า จะทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการสัญจรไปมา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่แนวคิดจะขยายพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ออกไปจากเดิม  แต่เราจะติดตามสถานการณ์การชุมนุมอย่างใกล้ชิด

    เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าหากยังเดินหน้าผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะเสี่ยงกับเสถียรภาพรัฐบาล พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ไม่ได้ห่วงถึงขนาดนั้น ผู้ชุมนุมมีสิทธิในการชุมนุม รัฐบาลมีหน้าที่อำนวยความสะดวกในสิ่งที่ทำได้ ส่วนเรื่องการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต่อหรือไม่ เป็นเรื่องของสภาฯ ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล
    
ปธ.วุฒิฯ ย้ำบรรจุร่างนิรโทษฯ 11 พ.ย.

    นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ในวันที่ 11 พ.ย.วุฒิสภาจะมีการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว ในวาระที่ 1 ส่วนจะมีการพิจารณากี่วันนั้นยังตอบไม่ได้อยู่ที่ประชุม แต่ยืนยันว่าที่ประชุมต้องพิจารณากฎหมายดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ใน 60 วัน แต่หากไม่เสร็จสามารถต่อเวลาได้อีก 30 วัน หากยังไม่เสร็จสภาผู้แทนราษฎรสามารถโหวตเห็นชอบได้เลย

    ขณะเดียวกันหากในวาระ 1 วุฒิสภาคว่ำกฎหมาย ก็ต้องรออีก 180 วัน สภาล่างถึงจะสามารถโหวตเห็นชอบได้เช่นกัน ส่วนจะเสร็จทันในวันที่ 28 พ.ย.ซึ่งเป็นวันปิดสมัยประชุมหรือไม่นั้น นายนิคม กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นเพราะกฎหมายดังกล่าว ไม่ได้รีบร้อนถึงขนาดนั้น เปิดประชุมสภาวิสามัญหรือเปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ ก็สามารถพิจารณาต่อได้

    ทั้งนี้ยืนยันว่า ในชั้นวุฒิสภา รัฐบาลและส.ส. ไม่มีสิทธิ์ มาถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกจากวาระการประชุมได้แล้ว ส่วนการพิจารณาในวาระ 1 จะมีการโหวตปิดอภิปรายหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุม ว่าจะมีการดำเนินการหรือไม่ อย่างไรก็ตาม  ตนเองไม่หนักใจในการทำหน้าที่ แม้จะมีกระแสข่าวว่าจะมีการโหวต 3 วาระรวด นั้นก็ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน เพราะกฎหมายดังกล่าวต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ

    “การทำงานของผมไม่ได้ถูกครอบงำจากพรรคเพื่อไทย และขอปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นทาส เพราะไม่ได้มีโซ่พันธนาการ และวันนี้ก็ยังนอนหลับฝันดี เชื่อว่าจะไม่มีความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น”นายนิคม ระบุ

75 ส.ว.พร้อมคว่ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯ

    นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. พร้อมด้วย ส.ว.สรรหา และ ส.ว.เลือกตั้งกว่า 50 คน ร่วมกันออกแถลงการณ์ คัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม โดยให้ความเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นการสร้างมาตรฐานที่ไม่ถูกต้องตามหลักนิติธรรม นิติรัฐ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทบสิทธิ์ในชีวิตของบุคคลอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน และไม่มีอำนาจจะยกเว้น อีกทั้งกฎหมายฉบับนี้ได้ฉวยโอกาสนิรโทษกรรมความผิดทางทุจริต คอร์รัปชัน ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลกและประเทศไทย หากฝ่ายนิติบัญญัติ ผ่านร่างดังดล่าวเท่ากับว่าจงใจก้าวก่ายอำนาจการตรวจสอบถ่วงดุลการวินิจฉัยของฝ่ายตุลาการ เท่ากับยอมรับให้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร สมคบร่วมกันรวบอำนาจการวินิจฉัยคดีของตุลาการ มาอยู่ในมือเสียงข้างมาก

ทั้งนี้ หากว่าวุฒิสภาในฐานะที่เป็นองค์กรกลั่นกรองตรวจสอบกฎหมาย ขืนปล่อยให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาต่อไป ก็จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรมให้เกิดขึ้นภายในประเทศไทย โดยวุฒิสภาจะทำการโหวตคว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ ทั้งจะร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่ร่วมกันเคลื่อนไหวคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้ต่อไปให้ถึงที่สุด

ด้านนายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ขณะนี้มี ส.ว.สรรหา และเลือกตั้งอย่างน้อย 75 คน ที่ยืนยันคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งถือว่าเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ว.ทั้งหมด 149 คน จึงมั่นใจว่า จะสามารถโหวตคว่ำกฎหมายล้างผิดได้อย่างแน่นอน
 ขณะที่ นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) พร้อมด้วย ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันยื่นหนังสือต่อ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา เพื่อเรียกร้องให้ วุฒิสภาพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มาตรา 3 อย่างรอบคอบ และระมัดระวัง และขอให้ไม่รับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องในสังคม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และคนไทยทั้งประเทศ
    
ป.ป.ช.นัดแถลงผลกระทบจากพ.ร.บ.นิรโทษฯ

    รายงานข่าวจาก ป.ป.ช. สนามบินน้ำ แจ้งว่า เวลา 14.00 น. วันนี้ (5 พ.ย.)  ป.ป.ช.จะประชุมเพื่อกำหนดทิศทางขององค์กร และท่าทีของ ป.ป.ช. ต่อกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยเฉพะใน มาตรา 3 ที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ทางคตส. ส่งมายัง ป.ป.ช. และคดีที่ ป.ป.ช. กำลังดำเนินการสอบสวนอยู่หลายคดี ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองตั้งแต่ ปี 2549 ถึงปัจจุบัน             
    หลังจากนั้น นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการป.ป.ช. จะแถลงเกี่ยวกับท่าทีของป.ป.ช. ต่อเรื่องนี้ ที่ ห้องแถลงข่าว อาคาร 1 ชั้น 1 สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี
กำลังโหลดความคิดเห็น