“เทพเทือก” นำม็อบสามเสนเคลื่อนขบวน อุบไปจุดไหนให้เดิมตามอย่างเดียว แย้มจะไปเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนร่วมต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อปกป้องชาติบ้านเมือง ผ่านแยกอุรุพงษ์ ชวนแกนนำสองกลุ่มเข้าร่วม เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปวัดพระแก้วแล้ว พร้อมใจกันปฎิญาณต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นำทัพรำลึก "ร่มเกล้า" แยกคอกวัว ล่าสุดประกาศยกระดับการต่อสู้ ปักหลักราชดำเนินเป็นสมรภูมิ
วันนี้ (4 พ.ย.) ความเคลื่อนไหวของการชุมนุมที่สถานีรถไฟสามเสน ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำประกาศยกระดับการชุมนุมเคลื่อนมวลชนในเวลา 10.00 น.วันนี้ (4 พ.ย.) ล่าสุดประชาชนได้ทยอยเดินทางมารวมตัวกันแล้วเพื่อร่วมเคลื่อนไหว ขณะที่บนเวทีเป็นการปราศรัยของประชาชนที่เดินทางมาร่วมชุมนุม และตัวแทนนักศึกษาสถาบันต่างๆ เพื่อรอเวลานัดหมายประกาศแนวทางยกระดับการชุมนุม
จากนั้นเวลา 10.00 น. นายสุเทพขึ้นเวทีประกาศแผนเคลื่อนไหวว่าจะเดินขบวนไปเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนทุกคนออกมาต่อสู้ร่วมกับเพื่อปกป้องชาติบ้านเมือง พร้อมกับจะไปปฏิญาณตนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองว่าจะทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์บ้านเมือง โดยไม่ระบุจุดหมายปลายทาง แต่ให้เดินตามแกนนำอย่างเดียว
พร้อมขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงสปริตและมีวินัย อดกลั้นอดทน ไม่ทำเสียหายแก่ประเทศ เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลก พร้อมยืนยันว่าจะต่อสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะเพื่อบ้านเมือง
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.50 น. ขบวนมวลชนได้เคลื่อนมาตามถนนพระราม 6 หัวขบวนอยู่ที่หน้ากระทรวงการต่่างประเทศ ถ.พระราม 6 โดยจุดที่จะพักขบวนอยุ่ที่อุรุพงษ์ สมทบกับมวลชนที่ปักหลักอยู่ก่อนแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ม็อบสามเสนได้เดินทางมาถึงแยกอุรพงษ์แล้ว บรรดาแกนนำของสองกลุ่มได้พบปะหารือกันด้วย โดยแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ได้เชิญชวนประชาชนที่มีอุดมการณ์เดียวกันเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นได้พามวลชนเดินไปตามถนนหลานหลวง ผ่านตามถนนราชดำเนินกลาง ไปยังอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และมุ่งหน้าต่อไปศาลหลักเมือง
เวลา 12.34 น. ม็อบสามเสนเคลื่อนทัพมาบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำกิจกรรมเป่านกหวีดยาวนานกว่า 2 นาที ซึ่งเป็นการเป่านกหวีดพร้อมกับกลุ่มมวลชนบริเวณถนนสีลม โดยเสียงนกหวีดดังกล่าวจะเป็นเสียงชัยชนะของประชาชน จากนั้นเคลื่อนขบวนต่อไปอนุสรณ์ 14 ตุลา และต่อไปวัดพระแก้ว เพื่อปฏิญาณตนไม่ยอมให้คนโกงแผ่นดินอยู่ต่อไป “เนรเทศยกโคตร ดีกว่านิรโทษฯ ยกเข่ง”
ต่อมา เมื่อเวลา 12.45 น.แกนนำม็อบสามเสนได้วางพวงมาลาเพื่อสดุดีวีรชนในเหตุการณ์ 14 ตุลา ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยจะสืบทอดเจตนารมย์วีรชน 14 ตุลา ขอให้ดวงวิญญาณ 14 ตุลาเป็นกำลังใจให้เราเอาชัยชนะมาให้กับประชาชน
เวลา 13.20 น.นายสุเทพ นำมวลชนทำกิจกรรมบริเวณหน้าวัดพระแก้ว โดยได้มีการกล่าวคำปฎิญาณตนร่วมกัน
ซึ่งนายสุเทพ กล่าวนำว่า แผ่นดินไทยของเราทุกพระองค์ ทุกรัชกาล ได้สร้าง ทำนุบำรุงเอาไว้ นำมาซึ่งความผาสุขของบ้านเมือง เมื่อเราได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประชาธิปไตย รัชกาลที่ 7 ในขณะนั้นก็ได้ยกอำนาจให้ประชาชน แต่จากนั้นก็มีกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามจะยึดอำนาจเอาไว้เพียงคนเดียว จนเกิดการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า และวันนี้ก็เกิดกลุ่มคนที่เหิกเกริมที่จะรวบอำนาจเอาไว้กับตัวเองเพียงฝ่ายเดียว เช่น พยายามที่จะออกกฎหมายล้างผิดอย่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อล้างผิดให้คนโกง คนทำผิด เราจึงต้องลุกขึ้นเพื่อปกป้องชาติให้ยังคงเป็นประชาธิปไตยต่อไป
"พวกข้าพเจ้าขอตั้งสัจปฎิญาณเบื้องหน้าองค์พระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราชและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า พวกข้าพเจ้าเป็นผู้สำนึกบุญคุณของบ้านเมือง มีความรักชาติบ้านเมืองด้วยความสุจริตใจ ข้าพเจ้าจะต่อสู้กับกฎหมายดังกล่าวอย่างถึงที่สุดให้ และคนเหล่านี้ต้องสาปสูญ สลายไปจากแผ่นดินไทย ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจงดลบรรดาให้พวกเรามีควาทสุขความเจริญ และขอให้มีชัยชนะเหนือหมู่มาร อธรรมทั้งหลาย ขอให้ประชาชนและประเทศไทยได้รับชัยชนะ" นายสุเทพ กล่าว
เวลา 14.40 น.นายสุเทพ ขึ้นรถขยายเสียงเพื่อประกาศมติจากแกนนำต่อประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมว่า เราจะต้องทำให้ชัยชนะเป็นของประชาชนให้ได้ จากนี้ตนขอเชิญชวนประชาชนไปร่วทคารวะต่อผู้เสียชีวิตที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และการสูญเสียของ พล.อ.ร่มเกล้า ซึ่งภายหลังจากนั้นตนจะประกาศมติสำคัญอีกครั้งหนึ่ง ณ บริเวณ นั้น
เวลา 14.50 น. นายสุเทพได้สั่งให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิประไตย์ ถนนราชดำเนิน ทำให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยมีการใช้รถ 6 ล้อ ปิดถนน และใช้เป็นเวทีหลักในการประกาศมติแกนนำ
จากนั้นเวลา 15.45 น.นายสุเทพ ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมสงบนิ่ง 3 นาที เพื่อแสดงความคาราวะต่อดวงวิญญาณทหาร ตำรวจ และประชาชนที่เสียชีวิตจาการชุมนุมปี 2553 พร้อมประกาศมติว่า วันนี้มีกลุ่มบุคคลและรัฐบาลสมคบกันทำลายหลักกฏหมายของบ้านเมือง จึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องลุกขึ้นสู้เพื่อรักษาหลักการนี้ แกนนำจึงได้มีมติว่าเราจะให้มวลชนตัดสินใจ และเราได้ตัดสินใจร่วมกันจะยกระดับการชต่อสู้ โดยขอประกาศยึดถนนราชดำเนินเป็นชัยภูมิ เราจะไม่กลับำปที่สามเสนอีกแล้ว จะปักหลักชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย์เป็นที่มั่นในการต่อสู้ของเรา หากรัฐบาลที่กำลังเหลิงอำนาจไม่ฟังเสียงประชาชน เราก็จะยกระดับการชุมนุมอีก
“เราจะปักหลักชุมนุมที่นี่ ไม่ชนะไม่เลิก และขอให้คนที่อยู่ที่อื่น รวมทั้งคนที่อยู่ในต่างจังหวัดลุกขึ้นต่อสู้ หรือจะเข้ามาร่วมสู้กับเราก็ได้ ทุกกลุ่ม ทุกสี ซึ่งหากเราทั้งหลายหลอมหัวใจกันเป็นอันหนึ่งอันเดียว ชัยชนะก็จะเป็นของประชาชน”นายสุเทพกล่าว
หลังจากนั้นแกนนำได้มีการประสานไปยังผู้ที่เฝ้าเวทีชุมนุมที่บริเวณสถานีรถไฟสามเสน ให้ถอนเวที เต๊นท์ที่พัก ครัว และอุปกรณ์ที่ใช้ในการชุมนุมทุกอย่าง เคลื่อนย้ายมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย