แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายจาง เสี่ยวเฉียง รองประธานคณะกรรมการการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนและคณะ ได้หารือกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเยือนไทย เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยเรื่องความร่วมมือด้านรถไฟไทย–จีน และสัญญาซื้อขายข้าว และสินค้าเกษตรไทย ตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้หารือกัน ระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีจีน เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
“ไทยและจีนได้เห็นพ้องในการส่งเสริมความร่วมมือด้านรถไฟความเร็วสูง และการซื้อขายข้าว โดยไทยได้เสนอมอบหมายให้จีนวางแผนและออกแบบรถไฟสายกทม.-นครราชสีมา”
ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะให้ฝ่ายที่ 3 ที่เป็นสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นฝ่ายประเมินราคาการก่อสร้างเข้ามาร่วมดำเนินการ โดยในการชำระค่าใช้จ่ายเป็นสินค้าเกษตร จะต้องไม่เกินร้อยละ 50 ของค่าก่อสร้างทั้งหมด
ทั้ง 2 ฝ่ายยัง เชื่อมั่นว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ โดยในวันที่ 20 พ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจการค้าไทย- จีน ครั้งที่ 3 ในปีนี้ หวังที่จะให้มีการลงนามข้อตกลงนี้อย่างเป็นทางการ
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการหารือกับ นายจาง เสี่ยวเฉียง อีกครั้งในเรื่องของรายละเอียด คาดว่า จีนจะดำเนินการซื้อข้าวจากไทย 1 ล้านตันตามที่สัญญา
รายงานข่าวแจ้งว่า นายจาง เสี่ยวเฉียง จะได้เข้าพบหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย โดยเข้าพบฝ่ายบริหารไทย ทั้งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม โดยจะมีการหารือแนวทางส่งเสริมการค้า การลงทุนและลดอุปสรรคต่างๆ รวมทั้งการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรอย่างจริงจัง และจะหารือเรื่องให้นักลงทุนจีนมาตั้งโรงงานที่ใช้สินค้าเกษตรเป็นวัตถุดิบในไทย อาทิ โรงงานแปรรูปยางพารา โรงงานแปรรูปมันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน รวมถึงเชิญชวนให้จีนเข้ามาเป็นโบรกเกอร์ในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าของไทย และประสงค์ให้มีการจัดตั้งธนาคารเพื่อการชำระเงินหยวนในการซื้อขายสินค้า และการทำธุรกรรมอื่นๆ ในประเทศไทยเพื่อลดต้นทุนและความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยขอให้ธนาคาร กลางของทั้งสองประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือในรายละเอียดต่อไป ขณะที่ทางกระทรวงพาณิชย์จีนอยู่ระหว่างการพิจารณานำเข้าข้าว ยางพารา และมันสำปะหลังจากไทย เพิ่มเติม
แหล่งข่าวระบุว่า นอกจากนี้ ไทยและจีนจะร่วมมือกันในการพัฒนาถนน ทางรถไฟและการขนส่งทางน้ำอย่างเป็นระบบ รวมถึงร่วมศึกษาความเป็นไปได้ของเส้นทางรถไฟกรุงเทพ-หนองคายด้วย
นอกจากนี้ยังจะติดตามเรื่อง การยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางธรรมดาไทย-จีน เพื่อส่งเสริมการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนไทยกับจีนมีความสะดวก และ คล่องตัวยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ด้านการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างกัน จีนยินดีรับข้อเสนอในการจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือ หนังสือเดินทางธรรมดาของไทย โดยจะให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายหารือรายละเอียดกันต่อไป ทั้งนี้ไทยขอจีนเปิดสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครชิงเต่า ขณะที่จีนขอเปิดสถานกงสุลที่จังหวัดภูเก็ต
“ไทยและจีนได้เห็นพ้องในการส่งเสริมความร่วมมือด้านรถไฟความเร็วสูง และการซื้อขายข้าว โดยไทยได้เสนอมอบหมายให้จีนวางแผนและออกแบบรถไฟสายกทม.-นครราชสีมา”
ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะให้ฝ่ายที่ 3 ที่เป็นสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นฝ่ายประเมินราคาการก่อสร้างเข้ามาร่วมดำเนินการ โดยในการชำระค่าใช้จ่ายเป็นสินค้าเกษตร จะต้องไม่เกินร้อยละ 50 ของค่าก่อสร้างทั้งหมด
ทั้ง 2 ฝ่ายยัง เชื่อมั่นว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ โดยในวันที่ 20 พ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจการค้าไทย- จีน ครั้งที่ 3 ในปีนี้ หวังที่จะให้มีการลงนามข้อตกลงนี้อย่างเป็นทางการ
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการหารือกับ นายจาง เสี่ยวเฉียง อีกครั้งในเรื่องของรายละเอียด คาดว่า จีนจะดำเนินการซื้อข้าวจากไทย 1 ล้านตันตามที่สัญญา
รายงานข่าวแจ้งว่า นายจาง เสี่ยวเฉียง จะได้เข้าพบหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย โดยเข้าพบฝ่ายบริหารไทย ทั้งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม โดยจะมีการหารือแนวทางส่งเสริมการค้า การลงทุนและลดอุปสรรคต่างๆ รวมทั้งการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรอย่างจริงจัง และจะหารือเรื่องให้นักลงทุนจีนมาตั้งโรงงานที่ใช้สินค้าเกษตรเป็นวัตถุดิบในไทย อาทิ โรงงานแปรรูปยางพารา โรงงานแปรรูปมันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน รวมถึงเชิญชวนให้จีนเข้ามาเป็นโบรกเกอร์ในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าของไทย และประสงค์ให้มีการจัดตั้งธนาคารเพื่อการชำระเงินหยวนในการซื้อขายสินค้า และการทำธุรกรรมอื่นๆ ในประเทศไทยเพื่อลดต้นทุนและความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยขอให้ธนาคาร กลางของทั้งสองประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือในรายละเอียดต่อไป ขณะที่ทางกระทรวงพาณิชย์จีนอยู่ระหว่างการพิจารณานำเข้าข้าว ยางพารา และมันสำปะหลังจากไทย เพิ่มเติม
แหล่งข่าวระบุว่า นอกจากนี้ ไทยและจีนจะร่วมมือกันในการพัฒนาถนน ทางรถไฟและการขนส่งทางน้ำอย่างเป็นระบบ รวมถึงร่วมศึกษาความเป็นไปได้ของเส้นทางรถไฟกรุงเทพ-หนองคายด้วย
นอกจากนี้ยังจะติดตามเรื่อง การยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางธรรมดาไทย-จีน เพื่อส่งเสริมการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนไทยกับจีนมีความสะดวก และ คล่องตัวยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ด้านการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างกัน จีนยินดีรับข้อเสนอในการจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือ หนังสือเดินทางธรรมดาของไทย โดยจะให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายหารือรายละเอียดกันต่อไป ทั้งนี้ไทยขอจีนเปิดสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครชิงเต่า ขณะที่จีนขอเปิดสถานกงสุลที่จังหวัดภูเก็ต