ASTVผู้จัดการรายวัน-สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวารครบ 7 วัน ถวายพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก "องค์ทะไลลามะ" ส่งสาส์นแสดงความเสียพระทัย ด้านวัดบวรฯ เตรียมทำล็อกเก็ตที่ระลึกงานพระศพสังฆราช "สนธิ"นำพนักงานและผู้บริหารเครือเอเอสทีวีเข้าสักการะพระศพ ขณะที่ประชาชนยังหลั่งไหลมากราบพระศพอย่างเนื่องแน่น
วานนี้ (30 ต.ค.) เวลา 17.03 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7 วัน) สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงวางพวงมาลาของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ การนี้ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองย้อยสักการะพระศพ ทรงกราบ ต่อจากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย และถวายความเคารพพระราชอาสน์ การนี้ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ พระสงฆ์ 10 รูปสวดพระพุทธมนต์ จบ แล้วเจ้าพนักงานลาดพระภูษาโยง
การนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯไปทรงทอดผ้าไตร จากนั้น พระสงฆ์สดับประกรณ์ ถวายอดิเรก พระวิสุทธิวงศาจารย์ถวายพระธรรมเทศนาและพระสวดธรรมคาถา จากนั้นทรงจุดธูปเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชาท่านแก่เจ้าพนักงาน พระราชพิธีเชิญไปปักที่ธรรมาสน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองธรรม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศพระศพสำหรับพระศพทรงธรรม
ต่อจากนั้น เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระสวดธรรมคาถา พระสงฆ์ 4 รูป สวดธรรมคาถา จบ เสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ เจ้าพนักงานลาดพระภูษาโยง จากนั้น เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตร ถวายพระเทศน์และพระสวดธรรมคาถา พระสงฆ์สดับประกรณ์ การนี้ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เจ้าพนักงานนิมนต์พระพิธีธรรมขึ้นนั่งบนเตียงสวด จากนั้น เสด็จฯไปทรงกราบพระพุทธรูป ที่หน้าเครื่องนมัสการ เสด็จฯไปทรงกราบที่หน้าพระโกศพระศพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าเตียงพระสวดพระอภิธรรม ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี และคณะเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย จากประเทศต่างๆ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สวิสเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก ออสเตรเลีย เยอรมนี ศรีลังกา บังกลาเทศ ลาว เกาหลี เดินทางมาร่วมพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7วัน) สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายกด้วย
***"ทะไลลามะ"ส่งสาส์นแสดงความเสียพระทัย
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า องค์ทะไลลามะ ได้ส่งสาส์นผ่านเว็บไซต์ www.dalailama.com แสดงความเสียพระทัยเมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก โดยมีใจความดังนี้ สหายทางจิตวิญญาณที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจการพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวรฯ ในระยะเวลาอันสั้นหลังงานฉลองพระชนมายุ 100 พรรษา ในระหว่างที่ข้าพเจ้าสวดภาวนาอุทิศถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจมายังมหาเถรสมาคม และศิษยานุศิษย์นับหลายล้านคนของพระองค์ทั้งในประเทศไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลก การจากไปของสมเด็จพระญาณสังวรฯ นั้น เราทั้งหลายได้สูญเสียสหายทางจิตวิญญาณอันวิเศษ
นอกจากนี้ ชาวพุทธและองค์กรพระพุทศาสนาจากประเทศต่างๆ ยังได้ส่งสาส์นแสดงความอาลัยมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ พุทธสมาคมประเทศสเปน องค์การพระพุทธศาสนาอินเดีย สมาคมเถรวาทแห่งเม็กซิโก รวมถึงคณะพระธรรมทูตจากประเทศมาเลเซีย
สำหรับบรรยากาศการถวายสักการะพระศพ มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งทางวัดบวรนิเวศวิหาร จะพยายามอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอย่างดีที่สุด และฝากถึงประชาชนทุกคนที่จะเดินทางมายังวัด ขอให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ควรเตรียมร่มหรือยาติดตัวมาด้วย หากมีโรคประจำตัว เพราะการเข้าถวายสักการะพระศพ ประชาชนต้องเข้าแถวยืนประมาณ 2-3 ชั่วโมง
** ทำล็อกเก็ตที่ระลึกงานพระศพ
พระโสภณคณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรฯ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิธีบำเพ็ญกุศลพระศพสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีสมเด็จพระวันรัต เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้มีการจัดสร้างล็อกเก็ตที่ระลึกในพิธีบำเพ็ญกุศลพระศพ เป็น 2 แบบ ได้แก่ แบบ 4 สี และแบบซีเปีย (สีน้ำตาล) โดยมอบหมายให้อาตมาดูเรื่องการออกแบบทั้งหมด ซึ่งในเบื้องต้นมีแนวคิดว่าจะทำล็อกเก็ตเป็นรูปทรงไข่ด้านในมีพระรูปสมเด็จพระสังฆราช
***"สนธิ"นำพนักงานสักการะพระศพ
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ เอเอสทีวีผู้จัดการ นำนายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ผู้บริหารและพนักงานเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ เข้าสักการะพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
นายสนธิกล่าวว่า ตนมีความผูกพันกับสมเด็จพระสังฆราชใน 2 ประการ คือ 1.ตนเป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ซึ่งท่านแนะนำให้ตนลุกขึ้นมาต่อสู้ในยุคที่ท่านประชวร โดยสมัยนั้นมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และมีการตั้งประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเสมือนการลบหลู่พระเกียรติของพระองค์ และ 2.พี่ชายของตน คือ นพ.ศักดิ์ชัย ลิ้มทองกุล อดีตรองผู้อำนวยการ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ปัจจุบันเป็นเลขาธิการสภากาชาดไทย และเป็นหนึ่งในคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระสังฆราชมานานแล้ว ตนจึงมีความผูกพันมาก และมีโอกาสได้ไปกราบพระองค์ท่านที่ตำหนักหลายครั้ง
"ขณะที่พระองค์ประชวรและพูดไม่ได้ แต่ผมรู้สึกได้ถึงสายตาที่พระองค์มองออกมาว่ามีเมตตามาก ซึ่งการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ถ้ามองในทางธรรม พระองค์คงเข้าสู่พระนิพพาน และเชื่อว่าคงเป็นพระอรหันต์แล้ว แต่ถ้ามองอีกรูปแบบหนึ่ง พระองค์เป็นพระที่เสียสละให้ชาติบ้านเมืองอย่างสูง เหตุผลเพราะเชื่อว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ไปเพราะได้รับเคราะห์ชาติบ้านเมืองไปทั้งหมด ตลอดจนเคราะห์ที่ราชวงศ์จักรีโดนผู้ไม่หวังดีกระทำ พระองค์คงจะรับไปด้วย เพราะฉะนั้น การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ถือว่าเป็นคุณูปการให้ชาติบ้านเมืองจริงๆ และพระองค์รู้ว่าจะไปเมื่อไรและไปอย่างไร นี่คือความรู้สึกของผม พระองค์เป็นสมเด็จพระสังฆราชที่อยู่ในใจของผม และเชื่อว่าคนไทยทุกคนจะไม่มีวันลืมสมเด็จญาณ พระองค์จะเป็นสมเด็จพระสังฆราชที่อยู่ในใจคนไทยตลอดไป" นายสนธิกล่าว
วานนี้ (30 ต.ค.) เวลา 17.03 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7 วัน) สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงวางพวงมาลาของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ การนี้ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองย้อยสักการะพระศพ ทรงกราบ ต่อจากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย และถวายความเคารพพระราชอาสน์ การนี้ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ พระสงฆ์ 10 รูปสวดพระพุทธมนต์ จบ แล้วเจ้าพนักงานลาดพระภูษาโยง
การนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯไปทรงทอดผ้าไตร จากนั้น พระสงฆ์สดับประกรณ์ ถวายอดิเรก พระวิสุทธิวงศาจารย์ถวายพระธรรมเทศนาและพระสวดธรรมคาถา จากนั้นทรงจุดธูปเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชาท่านแก่เจ้าพนักงาน พระราชพิธีเชิญไปปักที่ธรรมาสน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองธรรม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศพระศพสำหรับพระศพทรงธรรม
ต่อจากนั้น เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระสวดธรรมคาถา พระสงฆ์ 4 รูป สวดธรรมคาถา จบ เสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ เจ้าพนักงานลาดพระภูษาโยง จากนั้น เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตร ถวายพระเทศน์และพระสวดธรรมคาถา พระสงฆ์สดับประกรณ์ การนี้ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เจ้าพนักงานนิมนต์พระพิธีธรรมขึ้นนั่งบนเตียงสวด จากนั้น เสด็จฯไปทรงกราบพระพุทธรูป ที่หน้าเครื่องนมัสการ เสด็จฯไปทรงกราบที่หน้าพระโกศพระศพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าเตียงพระสวดพระอภิธรรม ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี และคณะเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย จากประเทศต่างๆ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สวิสเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก ออสเตรเลีย เยอรมนี ศรีลังกา บังกลาเทศ ลาว เกาหลี เดินทางมาร่วมพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7วัน) สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายกด้วย
***"ทะไลลามะ"ส่งสาส์นแสดงความเสียพระทัย
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า องค์ทะไลลามะ ได้ส่งสาส์นผ่านเว็บไซต์ www.dalailama.com แสดงความเสียพระทัยเมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก โดยมีใจความดังนี้ สหายทางจิตวิญญาณที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจการพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวรฯ ในระยะเวลาอันสั้นหลังงานฉลองพระชนมายุ 100 พรรษา ในระหว่างที่ข้าพเจ้าสวดภาวนาอุทิศถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจมายังมหาเถรสมาคม และศิษยานุศิษย์นับหลายล้านคนของพระองค์ทั้งในประเทศไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลก การจากไปของสมเด็จพระญาณสังวรฯ นั้น เราทั้งหลายได้สูญเสียสหายทางจิตวิญญาณอันวิเศษ
นอกจากนี้ ชาวพุทธและองค์กรพระพุทศาสนาจากประเทศต่างๆ ยังได้ส่งสาส์นแสดงความอาลัยมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ พุทธสมาคมประเทศสเปน องค์การพระพุทธศาสนาอินเดีย สมาคมเถรวาทแห่งเม็กซิโก รวมถึงคณะพระธรรมทูตจากประเทศมาเลเซีย
สำหรับบรรยากาศการถวายสักการะพระศพ มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งทางวัดบวรนิเวศวิหาร จะพยายามอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอย่างดีที่สุด และฝากถึงประชาชนทุกคนที่จะเดินทางมายังวัด ขอให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ควรเตรียมร่มหรือยาติดตัวมาด้วย หากมีโรคประจำตัว เพราะการเข้าถวายสักการะพระศพ ประชาชนต้องเข้าแถวยืนประมาณ 2-3 ชั่วโมง
** ทำล็อกเก็ตที่ระลึกงานพระศพ
พระโสภณคณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรฯ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิธีบำเพ็ญกุศลพระศพสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีสมเด็จพระวันรัต เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้มีการจัดสร้างล็อกเก็ตที่ระลึกในพิธีบำเพ็ญกุศลพระศพ เป็น 2 แบบ ได้แก่ แบบ 4 สี และแบบซีเปีย (สีน้ำตาล) โดยมอบหมายให้อาตมาดูเรื่องการออกแบบทั้งหมด ซึ่งในเบื้องต้นมีแนวคิดว่าจะทำล็อกเก็ตเป็นรูปทรงไข่ด้านในมีพระรูปสมเด็จพระสังฆราช
***"สนธิ"นำพนักงานสักการะพระศพ
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ เอเอสทีวีผู้จัดการ นำนายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ผู้บริหารและพนักงานเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ เข้าสักการะพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
นายสนธิกล่าวว่า ตนมีความผูกพันกับสมเด็จพระสังฆราชใน 2 ประการ คือ 1.ตนเป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ซึ่งท่านแนะนำให้ตนลุกขึ้นมาต่อสู้ในยุคที่ท่านประชวร โดยสมัยนั้นมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และมีการตั้งประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเสมือนการลบหลู่พระเกียรติของพระองค์ และ 2.พี่ชายของตน คือ นพ.ศักดิ์ชัย ลิ้มทองกุล อดีตรองผู้อำนวยการ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ปัจจุบันเป็นเลขาธิการสภากาชาดไทย และเป็นหนึ่งในคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระสังฆราชมานานแล้ว ตนจึงมีความผูกพันมาก และมีโอกาสได้ไปกราบพระองค์ท่านที่ตำหนักหลายครั้ง
"ขณะที่พระองค์ประชวรและพูดไม่ได้ แต่ผมรู้สึกได้ถึงสายตาที่พระองค์มองออกมาว่ามีเมตตามาก ซึ่งการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ถ้ามองในทางธรรม พระองค์คงเข้าสู่พระนิพพาน และเชื่อว่าคงเป็นพระอรหันต์แล้ว แต่ถ้ามองอีกรูปแบบหนึ่ง พระองค์เป็นพระที่เสียสละให้ชาติบ้านเมืองอย่างสูง เหตุผลเพราะเชื่อว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ไปเพราะได้รับเคราะห์ชาติบ้านเมืองไปทั้งหมด ตลอดจนเคราะห์ที่ราชวงศ์จักรีโดนผู้ไม่หวังดีกระทำ พระองค์คงจะรับไปด้วย เพราะฉะนั้น การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ถือว่าเป็นคุณูปการให้ชาติบ้านเมืองจริงๆ และพระองค์รู้ว่าจะไปเมื่อไรและไปอย่างไร นี่คือความรู้สึกของผม พระองค์เป็นสมเด็จพระสังฆราชที่อยู่ในใจของผม และเชื่อว่าคนไทยทุกคนจะไม่มีวันลืมสมเด็จญาณ พระองค์จะเป็นสมเด็จพระสังฆราชที่อยู่ในใจคนไทยตลอดไป" นายสนธิกล่าว
