รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ฉบับที่พรรคเพื่อไทยเพียรพยายามบอกว่า เป็นมรดกของเผด็จการ เป็นผลพวงของเผด็จการเขียนไว้ในมาตรา 3 ว่า
อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้
การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม
นั่นหมายความว่าให้บ้านนี้เมืองนี้ถือหลักกฎหมาย และต้องเป็นกฎหมายที่ถูกต้องเป็นธรรม
ขณะนี้เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภาซึ่งเป็นเสียงของรัฐบาล กำลังแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ว่ากันว่าแก้กันให้สุดซอยไปเลย กล่าวคือ นิรโทษกรรมให้กับทุกคนที่ได้กระทำในช่วงปี พ.ศ. 2548 จนถึงปี 2553
แรกทีเดียวมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ทำนองนี้หลายฉบับ มีทั้งนิรโทษกรรมให้กับประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ไม่นิรโทษกรรมให้กับแกนนำ ไม่นิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112 และก็มีบางฉบับที่เสนอให้นิรโทษกรรมให้ทุกคนทุกฝ่าย โดยอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 ที่เขียนไว้ว่า
บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา อายุ ความพิการ สภาพทางร่างกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญจะกระทำมิได้
มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม
เป้าหมายที่แท้จริงของการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่กำลังทำกันอยู่ทุกวันนี้ เป้าหมายที่แท้จริงก็คือ เพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษที่กำลังหนีคุกอยู่ขณะนี้ และบรรดาแกนนำทั้งหลายที่เคลื่อนไหวช่วย พ.ต.ท.ทักษิณในปี 2552 และปี 2553
ความพยายามที่เอานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรซึ่งไม่ประสีประสาทางการเมืองมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เพื่อที่จะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณให้ได้กลับบ้านอย่างเท่ๆ ไม่ต้องติดคุก ไม่ต้องถูกดำเนินคดีต่างๆ และถ้าหากสามารถได้เงินที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยึดไปก็จะยิ่งวิเศษ
การช่วย พ.ต.ท.ทักษิณดังกล่าวนี้ประสบอุปสรรคตรงที่ถ้าหากจะนิรโทษกรรมต้องนิรโทษกรรมให้ทุกคนทุกฝ่าย ซึ่งก็จะทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีรอดไปด้วยจากคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินการอยู่ในความผิดที่ว่าบงการ สั่งการให้ทหารฆ่าประชาชนในเหตุการณ์เดือนเมษายนปี 2553
ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ประกาศอย่างชัดเจนว่า ยินดีที่จะต่อสู้คดีดังกล่าว ไม่ต้งการที่จะได้รับการนิรโทษกรรม และคัดค้านการนิรโทษกรรมเพื่อล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และบรรดาคนที่ทำความผิดกฎหมายอาญาคนอื่นๆ อย่างถึงที่สุด แม้ว่าทั้งสองจะได้รับประโยชน์จากการนิรโทษกรรมก็ไม่ต้องการ
แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ และบรรดาขี้ข้าม้าใช้ของเขาพูดอีกอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขอให้บรรดาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เดือนเมษายน กล่าวคือ ลูกเต้า ญาติพี่น้องที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เดือนเมษายนปี 2553 ลืมความเจ็บปวดเสีย หันหน้ามาปรองดองกัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ (ซึ่งก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับนิรโทษกรรม) บรรดาผู้ที่ได้รับผลกระทบ บรรดาผู้ที่ได้รับความเจ็บปวด พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้ช่วยเหลือแล้วด้วยการเยียวยาให้คนละ 7 ล้านบาทหรือ 4 ล้านบาท (มากกว่าทหาร ตำรวจที่พลีชีพเพื่อชาติบ้านเมืองเสียอีก)
นี่เป็นความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในสังคมไทยขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณและบรรดาขี้ข้าม้าใช้ของเขาอาจจะประสบความสำเร็จในการทำให้คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งที่เจ็บแค้นนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ยอมเพราะได้รับเงินที่ พ.ต.ท.ทักษิณสั่งการให้รัฐบาลหุ่นของเขาจ่ายเยียวยาไปแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลหุ่นไม่เห็นประชาชนที่ออกมาคัดค้านพวกเขาอยู่ขณะนี้ พวกเขามองไม่เห็นผู้คนที่สวนลุมฯ ที่คัดค้านเขามาแรมเดือน มองไม่เห็นเหตุการณ์ที่อุรุพงษ์ด้วยความคิดและความรู้สึกว่าเป็นม็อบที่จุดไม่ติด เพราะเชื่อว่า แท้จริงแล้วพวกเขามีมวลชนเสื้อแดงสนับสนุนอย่างเหนียวแน่น มีประชาชนที่ลงคะแนนเลือกพวกเขา 15 ล้านเสียง เป็นเสมือนผนังทองแดงกำแพงเหล็กมีสื่อมวลชนที่จะยกยอปอปั้น และลืมที่จะวิพากษ์วิจารณ์พวกเขาอย่างตรงไปตรงมา
พวกเขาจึงเดินหน้านิรโทษกรรมให้สุดซอย
โดยลืมอ่านรัฐธรรมนูญ 2 มาตราที่ยกมาดังกล่าว หรือถึงอ่านแล้วก็พร้อมที่จะละเลย เพิกเฉย เพราะถือว่าตัวมีเสียงข้างมากในรัฐสภาสามารถกุมไว้ได้หมดแล้วทั้งสภาฯ ล่าง สภาฯ บน
และการคิดเช่นนี้เองที่ทำให้พวกเขาต้องมีปัญหากับศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเมื่อร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวนี้ผ่านวาระ 3 ก่อนที่พระมหากษัตริย์จะทรงลงพระปรมาภิไธย สมาชิกรัฐสภาก็จะต้องร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน และก็ยากที่จะผ่านด่านนี้ไปได้
เอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาอ่านดูซิครับว่าขัดกับมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญไหม?
อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้
การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม
นั่นหมายความว่าให้บ้านนี้เมืองนี้ถือหลักกฎหมาย และต้องเป็นกฎหมายที่ถูกต้องเป็นธรรม
ขณะนี้เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภาซึ่งเป็นเสียงของรัฐบาล กำลังแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ว่ากันว่าแก้กันให้สุดซอยไปเลย กล่าวคือ นิรโทษกรรมให้กับทุกคนที่ได้กระทำในช่วงปี พ.ศ. 2548 จนถึงปี 2553
แรกทีเดียวมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ทำนองนี้หลายฉบับ มีทั้งนิรโทษกรรมให้กับประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ไม่นิรโทษกรรมให้กับแกนนำ ไม่นิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112 และก็มีบางฉบับที่เสนอให้นิรโทษกรรมให้ทุกคนทุกฝ่าย โดยอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 ที่เขียนไว้ว่า
บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา อายุ ความพิการ สภาพทางร่างกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญจะกระทำมิได้
มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม
เป้าหมายที่แท้จริงของการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่กำลังทำกันอยู่ทุกวันนี้ เป้าหมายที่แท้จริงก็คือ เพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษที่กำลังหนีคุกอยู่ขณะนี้ และบรรดาแกนนำทั้งหลายที่เคลื่อนไหวช่วย พ.ต.ท.ทักษิณในปี 2552 และปี 2553
ความพยายามที่เอานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรซึ่งไม่ประสีประสาทางการเมืองมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เพื่อที่จะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณให้ได้กลับบ้านอย่างเท่ๆ ไม่ต้องติดคุก ไม่ต้องถูกดำเนินคดีต่างๆ และถ้าหากสามารถได้เงินที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยึดไปก็จะยิ่งวิเศษ
การช่วย พ.ต.ท.ทักษิณดังกล่าวนี้ประสบอุปสรรคตรงที่ถ้าหากจะนิรโทษกรรมต้องนิรโทษกรรมให้ทุกคนทุกฝ่าย ซึ่งก็จะทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีรอดไปด้วยจากคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินการอยู่ในความผิดที่ว่าบงการ สั่งการให้ทหารฆ่าประชาชนในเหตุการณ์เดือนเมษายนปี 2553
ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ประกาศอย่างชัดเจนว่า ยินดีที่จะต่อสู้คดีดังกล่าว ไม่ต้งการที่จะได้รับการนิรโทษกรรม และคัดค้านการนิรโทษกรรมเพื่อล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และบรรดาคนที่ทำความผิดกฎหมายอาญาคนอื่นๆ อย่างถึงที่สุด แม้ว่าทั้งสองจะได้รับประโยชน์จากการนิรโทษกรรมก็ไม่ต้องการ
แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ และบรรดาขี้ข้าม้าใช้ของเขาพูดอีกอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขอให้บรรดาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เดือนเมษายน กล่าวคือ ลูกเต้า ญาติพี่น้องที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เดือนเมษายนปี 2553 ลืมความเจ็บปวดเสีย หันหน้ามาปรองดองกัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ (ซึ่งก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับนิรโทษกรรม) บรรดาผู้ที่ได้รับผลกระทบ บรรดาผู้ที่ได้รับความเจ็บปวด พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้ช่วยเหลือแล้วด้วยการเยียวยาให้คนละ 7 ล้านบาทหรือ 4 ล้านบาท (มากกว่าทหาร ตำรวจที่พลีชีพเพื่อชาติบ้านเมืองเสียอีก)
นี่เป็นความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในสังคมไทยขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณและบรรดาขี้ข้าม้าใช้ของเขาอาจจะประสบความสำเร็จในการทำให้คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งที่เจ็บแค้นนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ยอมเพราะได้รับเงินที่ พ.ต.ท.ทักษิณสั่งการให้รัฐบาลหุ่นของเขาจ่ายเยียวยาไปแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลหุ่นไม่เห็นประชาชนที่ออกมาคัดค้านพวกเขาอยู่ขณะนี้ พวกเขามองไม่เห็นผู้คนที่สวนลุมฯ ที่คัดค้านเขามาแรมเดือน มองไม่เห็นเหตุการณ์ที่อุรุพงษ์ด้วยความคิดและความรู้สึกว่าเป็นม็อบที่จุดไม่ติด เพราะเชื่อว่า แท้จริงแล้วพวกเขามีมวลชนเสื้อแดงสนับสนุนอย่างเหนียวแน่น มีประชาชนที่ลงคะแนนเลือกพวกเขา 15 ล้านเสียง เป็นเสมือนผนังทองแดงกำแพงเหล็กมีสื่อมวลชนที่จะยกยอปอปั้น และลืมที่จะวิพากษ์วิจารณ์พวกเขาอย่างตรงไปตรงมา
พวกเขาจึงเดินหน้านิรโทษกรรมให้สุดซอย
โดยลืมอ่านรัฐธรรมนูญ 2 มาตราที่ยกมาดังกล่าว หรือถึงอ่านแล้วก็พร้อมที่จะละเลย เพิกเฉย เพราะถือว่าตัวมีเสียงข้างมากในรัฐสภาสามารถกุมไว้ได้หมดแล้วทั้งสภาฯ ล่าง สภาฯ บน
และการคิดเช่นนี้เองที่ทำให้พวกเขาต้องมีปัญหากับศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเมื่อร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวนี้ผ่านวาระ 3 ก่อนที่พระมหากษัตริย์จะทรงลงพระปรมาภิไธย สมาชิกรัฐสภาก็จะต้องร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน และก็ยากที่จะผ่านด่านนี้ไปได้
เอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาอ่านดูซิครับว่าขัดกับมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญไหม?