xs
xsm
sm
md
lg

คลังเล็งเก็บภาษีชาเขียว ปลัดแฉส่วนผสมต่ำมาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“รังสรรค์” ลั่นเอาแน่เก็บภาษีชาเขียว แฉมีส่วนผสมของชาเขียวน้อยมาก ข้ออ้างเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจึงฟังไม่ขึ้น เล็งอัตรา 10% สร้างรายได้อีกหลายพันล้าน ส่วนแวตขึ้นแน่ที่ 8% แต่ต้องหาจังหวะเหมาะสม

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ว่าที่ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายทบทวนภาษีที่ยังคั่งค้างไว้ หลังจากได้ศึกษาไว้นานแล้ว แต่ยังไม่ได้นำมาใช้ โดยเฉพาะภาษีสรรพสามิตชาเขียว ซึ่งเห็นว่า สถานการณ์ปัจจุบันมีความเหมาะสมที่จะเก็บ ซึ่งที่ศึกษาไว้คือ 10% ของมูลค่าสินค้า ซึ่งจะทำให้กรมสรรพสามิตมีรายได้เข้ามาหลายพันล้านบาท กรมสรรพสามิตได้ประสานความร่วมมือไปยังคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติเครื่องดื่มชาเขียวที่ขายในท้องตลาด พบว่า ส่วนใหญ่มีส่วนผสมของชาเขียวน้อยมาก ดังนั้นข้ออ้างในการยกเว้นภาษี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจึงฟังไม่ขึ้น
"คงไม่จำเป็นต้องหารือกับผู้ประกอบการใหม่อีกรอบ เพราะได้หารือมาก่อนหน้าแล้ว ขณะนี่ก็น่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม เพราะสบายมาพอสมควรแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะสรุปได้ในเร็วๆ เพราะเป็นเป็นเรื่องแรกๆที่จะเข้าไปดำเนินการ หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ และสามารถดำเนินการได้ เพียงใช้ประกาศคำสั่งของอธิบดีเท่านั้น และจะทำให้เกิดขึ้นภายในปีงบประมาณ 2557" นายรังสรรค์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ผลิตชาเขียวระบุว่าเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ ชาที่นำมาผลิตเป็นน้ำก็ปลูกในไทย เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์และสาธารณสุขว่าชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่ทำลายสุขภาพ มีส่วนผสมน้ำตาลอยู่มาก เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ควรเก็บภาษี ในช่วงหลังมีการนำหัวเชื้อชาเขียวจากต่างประเทศเข้ามาใช้ผลิต
นอกจากนั้น กระทรวงการคลังยังจะพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีอื่นๆด้วย เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) นายรังสรรค์เห็นว่า ยังมีความจำเป็นปรับเพิ่มขึ้นจากที่จัดเก็บในปัจจุบัน 7% ซึ่งจากที่เคยศึกษาไว้เดิม หากปรับเพิ่มขึ้น 1% จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 5 หมื่นล้านบาท แต่การจะนำมาใช้ ต้องขึ้นกับจังหวะเวลาที่เหมาะสมแลภาวะเศรษฐกิจที่ดี ดังนั้นต้องหารือกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญต้องขึ้นกับนโยบายรัฐบาลด้วย
ส่วนภาษีสรรพสามิตดีเซลว่า ถือเป็นนโยบายรัฐบาลที่คงอัตราไว้ และคาดว่าคงไม่ได้ปรับขึ่นเร็วๆนี้ เพราะจะดูเพียงฐานะการคลังและการหารายได้ของรัฐบาลไม่ได้ คงต้องดูปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย ซึ่งปัจจุบันยังมีเงินคงคลังจำนวนมาก สามารถรองรับการเบิกจ่ายได้เป็นแสนล้านบาทในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2557.
กำลังโหลดความคิดเห็น