xs
xsm
sm
md
lg

ห่วงUSฉุดเงินทุนผันผวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักวิชาการกังวลสหรัฐฯ ถกขยายเพดานหนี้ ทำตลาดเงินตลาดทุนผันผวน รัฐบาลต้องดูแลไม่ให้กระทบเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ คาดส่งออกฉุดจีดีพีไทยปีนี้อาจโตไม่ถึง 4% ขณะที่ สศอ.มั่นใจสหรัฐฯ ขยายเพดานหนี้เพื่อเลี่ยงผิดนัดชำระ รักษาเครดิตประเทศ

นายสมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวกรณีสหรัฐฯ กำลังประชุมขยายเพดานหนี้สาธารณะเพื่อให้ได้ข้อยุติก่อนวันที่ 17 ต.ค.ว่า จะสร้างความผันผวนกับตลาดการเงินและตลาดทุนไทย เนื่องจากการต่อสู้ทางการเมืองของสหรัฐจะเข้มข้นขึ้น เห็นได้จากการไม่อนุมัติงบประมาณ 2557 จนเกิดเหตุชะงักงันและปิดส่วนราชการไป ดังนั้นคงจะมีข่าวร้ายที่จะสร้างความผันผวนต่อตลาดเงินตลาดทุน ตลาดตราสารหนี้และตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงนี้ รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องบริหารข่าวสารและดูแลประเทศไม่ให้ปัญหาจากภายนอกมากระทบเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศได้

"ช่วงที่เหลือของปีนี้ รัฐบาลจะต้องพยุงสถาการณ์เศรษฐกิจในประเทศ ไม่ให้มีการทรุดตัวมากไปกว่านี้ ต้องมีนโยบายที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคสูงขึ้น โดยจะเร่งสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและนโยบายทางเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว โอกาสที่เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ต่ำกว่าร้อยละ 4 เป็นไปได้สูง เนื่องจากการส่งออกของไทยในปีนี้ น่าจะขยายตัวได้ไม่เกินร้อยละ 2 - 3 เท่านั้น" นายสมภพกล่าว

ด้านนายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า การประชุมสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ในวันที่ 17 ต.ค. จะมีการอนุมัติการปรับเพดานหนี้สาธารณะ เพราะหากไม่มีการอนุมัติจะส่งผลกระทบต่อการผิดนัดชำระหนี้ และนำไปสู่การถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม และลุกลามกลายเป็นปัญหาเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้สภาคองเกรสต้องผ่านงบประมาณออกมาด้วย เนื่องจากหากปล่อยยืดเยื้อ จะส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น

"หากเหตุการณ์ยืดเยื้อยาวนานประมาณ 3-4 สัปดาห์ ก็เป็นไปได้ว่าจะกระทบต่อจีดีพีสหรัฐฯ ในไตรมาสสุดท้ายของปี ให้หายไปประมาณร้อยละ 1.2-1.4 รวมทั้ง อาจจะส่งผลต่อการส่งออกของไทยไปสหรัฐ ชะลอลง โดยเฉพาะ คอมพิวเตอร์ยาง เครื่องประดับ อาหาร และเครื่องนุ่งห่ม ต้องจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด" นายสมชายกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น