xs
xsm
sm
md
lg

ปัดวุ่น"แม้ว"สั่งงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ปัดกันพัลวัน หลังนายกฯ ตัวจริง โพสต์ขอให้จัดการแก๊งเก็บส่วนเมืองท่องเที่ยว "ประชา"เผยได้กำชับกันเป็นปกติอยู่แล้ว หากตำรวจทำผิด เจอลงโทษไม่ละเว้น ขณะที่ "อดุลย์"ยันรับคำสั่งจาก "ปู" และถือเป็นภารกิจสำคัญ เสื้อแดงเต้นพล่าน "คลิปอีไก่" ปัดอมเงินนายใหญ่ 100 ล้าน "แจ๊ค"เปิดตัวหนังสือวิพากษ์ "มติชน-ข่าวสด" เชลียร์แม้ว กลุ่ม 40 สว. เป็นงง เล็งสอบงบอัยการสูงสุด หลังไม่ฟ้องแม้วคดีก่อการร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ต.ค.2556 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวตอนหนึ่งว่า ได้มีการพูดคุยกับพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ค้าขายในเมืองท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ อาทิ พัทยา ภูเก็ต ว่ามีหน่วยงานตำรวจและหน่วยงานภายนอก มีการเรียกเก็บส่วยกันอย่างมาก สร้างความเดือดร้อนไปยังผู้ประกอบการและผู้บริโภค ซึ่งทาง ผบ.ตร. ยืนยันว่า ได้รับคำสั่งจากท่านนายกฯ มาแล้ว และจะรีบดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังบันทึกเทปเนื่องในวันตำรวจแห่งชาติเสร็จสิ้นว่า เนื่องในวันตำรวจแห่งชาติได้ให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนเพื่อให้มีความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนและประเทศชาติ โดยเฉพาะตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะอยู่ในพื้นที่ที่อันตราย ส่วนเรื่องสิทธิพิเศษ สวัสดิการที่ตำรวจควรจะได้รับ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่จะทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็พร้อมสนับสนุน

สำหรับปัญหาส่วยที่พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ได้กำชับผ่านผบ.ตร.แล้วนั้น เป็นเรื่องที่กำชับกันอยู่แล้ว และได้มีการระมัดระวังตลอด โดยเรื่องนี้ เจ้าหน้าตำรวจจะต้องไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน หากตำรวจทำผิดจะต้องลงโทษ ขณะที่เรื่องบ่อนการพนันจะต้องมีการกวดขันต่อไป จะต้องทำให้ดีที่สุด ซึ่งต้องชมเชยพล.ต.อ.อดุลย์ ที่ปฏิบัติเพื่อประชาชนและประเทศชาติ

ด้านพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องการปราบปรามมาเฟีย ถือเป็นภารกิจสำคัญ และได้รับนโยบายจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยจะพยายามระงับยับยั้งให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์และธุรกิจผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตนที่ดี ตำรวจต้องไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ รวมทั้งผู้บังคับบัญชาจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีที่ชัดเจน ซึ่งพวกที่เอากฎหมายมาหาประโยชน์ ต้องแก้กันไป แต่ถ้าทำตำรวจทำผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เช่นเดียวกันถ้าทำผิดวินัยจะต้องดำเนินการตามวินัย

อีกด้านนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มเนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงยืนยันว่า ไม่มีการโอนเงินเยียวยากลุ่มคนเสื้อเเดงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 100 ล้านบาทผ่านบัญชีตน ตามที่มีการเสนอข่าวโดยอ้างเนื้อหาคลิปในเว็บไซต์ยูทิวบ์ดอทคอม เพราะการเป็น สส. ต้องมีการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ซึ่งสามารถตรวจสอบได้

ทั้งนี้ เนื้อหาในคลิปเผยว่า มีผู้อ้างชื่อว่าสะใภ้ ระบุว่า ไก่ ภรรยาของตนเปิดเผยกลางงานเลี้ยงวันเกิดของนางระพีพรรณ พงษ์เรืองรอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ภรรยานายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ว่า มีเงินจากนายใหญ่ พ.ต.ท.ทักษิณ โอนเงินเยียวยาผ่านบัญชีตน

ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. แถลงว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง ไม่มีการโอนเงินมา 100 ล้านบาท และนายวิภูแถลงก็ไม่ได้มีหน้าที่ในเรื่องการเยียวยา เรื่องนี้นายวิภูแถลงถูกใส่ร้าย

วันเดียวกันนี้ นายวัชระ เพรชทอง แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ "วิพากษ์ หนังสือพิมพ์ มติชน-ข่าวสด ผลงานของนายมานะ มติธรรม อดีตผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์มติชน และมีสำนักพิมพ์พิราบเป็นผู้จัดทำ โดยมีนายวัชระเป็นผู้เขียนคำนิยมให้ ซึ่งเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวจะเป็นการรวบรวมการเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์มติชนและข่าวสดในลักษณะที่มีการเข้าข้างฝ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่าหนังสือพิมพ์เป็นองค์กรหนึ่งที่มีความสำคัญต่อสังคม เป็นเสมือนกระจกสำท้อนเหตุการณ์ความจริงมาสู่สังคม ด้วยหน้าที่จะต้องมีความสำนึกแห่งความรับผิดชอบ ยึดมั่นจริยธรรม เมื่อเสนอข่าวเอนเอียงหรือบิดเบือน ขาดความสำนึกรับผิดชอบ จำเป็นอย่างยิ่งที่คนอ่านจะต้องเป็นผู้ตัดสิน ทั้งนี้ นายวัชระได้นำหนังสือดังกล่าวมาแจกจ่ายให้กับผู้สื่อข่าวและสมาชิกที่ร่วมประชุมอยู่ในอาคารรัฐสภาด้วย

ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหาและแกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวถึงกรณีที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีก่อการร้ายว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสม และจะตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไปว่าเกี่ยวข้องกับงบประมาณของสำนักงานอัยการสูงสุดหรือไม่ ที่ในชั้นแปรญัตติได้เพิ่ม 303 ล้านบาท ขณะที่องค์กรอิสระอื่น ไม่ได้งบประมาณเพิ่มเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น