ASTVผู้จัดการรายวัน- ก.อุตฯ คุยโวค่ายรถแห่ขอรายละเอียด”อีโคคาร์ 2” แล้วเพียบมั่นใจจะแห่ยื่นขอไม่น้อยกว่า 5-6 รายแน่นอน คาดเม็ดเงินสะพัดลงทุนรวมชิ้นส่วนฯไม่น้อยกว่า 4 หมื่นล้านบาท “บีโอไอ”เตรียมเชิญทุกค่ายที่สนใจรับฟังชี้แจงเงื่อนไขการส่งเสริมภายใน 2 สัปดาห์นี้
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ได้ออกประกาศฯเพื่อให้การส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล รุ่นที่ 2 (อีโคคาร์2) โดยผู้ประกอบการรถยนต์ที่สนใจทั้งรายเก่าที่ได้รับการส่งเสริมการผลิตอีโคคาร์ 1 และรายใหม่สามารถยื่นขอรับการส่งเสริมได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มี.ค.2557 โดยเบื้องต้นทางบีโอไอแจ้งว่ามีผู้ผลิต 4 รายแจ้งขอรายละเอียดกับบีโอไอแล้วและคาดว่าจะมีผู้ผลิตรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5-6 รายที่จะยื่นขอรับส่งเสริมฯ และคาดว่าจะก่อให้เกิดการลงทุนผลิตรถยนต์รวมชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้อีโคคาร์ 2 กว่า 4 หมื่นล้านบาท
“ คิดว่ากลางปีหน้าก็จะเห็นภาพชัดเจนถึงแผนการลงทุนแต่ละรายและภายในปี 2558 ก็จะเห็นการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมซึ่งรถอีโคคาร์ 2 นี้เมื่อรวมกับการผลิตรถอีโคคาร์แรกคาดว่าภายในปี 2561 จะมีการผลิตรวมกันไม่นอ้ยกว่า 9.35 แสนคัน “นายประเสริฐกล่าว
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า เพื่อให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการนี้มากขึ้นบีโอไอจะเชิญผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการทุกรายรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดและเงื่อนไขการขอรับส่งเสริมการลงทุนอย่างเป็นทางการภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้เข้าร่วมรับฟังไม่น้อยกว่า 10 รายทั้งรายเก่าและรายใหม่
สำหรับเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่กำหนดไว้ ได้แก่ มีมูลค่าเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 6,500 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการจะต้องลงทุนผลิตแบบครบวงจรมีการผลิตไม่น้อยกว่า 100,000 คันต่อปี นับตั้งแต่การผลิตปีที่ 4 เป็นต้นไป เครื่องยนต์ที่ใช้สำหรับอีโคคาร์รุ่นที่ 2 จะต้องเป็นมาตรฐานยูโร 5 ที่มีมาตรฐานในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร และต้องมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 4.3 ลิตรต่อระยะทาง 100กิโลเมตร สำหรับขนาดเครื่องยนต์ของอีโคคาร์ 2 หากเป็นเครื่องยนต์เบนซินต้องมีขนาดไม่เกิน 1300 ซีซี ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลต้องมีขนาดไม่เกิน 1500 ซีซี
ส่วนผู้ประกอบการค่ายรถยนต์รายเดิมที่เคยเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์รุ่น ที่ 1 สามารถเลือกขยายการลงทุนได้ 3 ทาง คือ 1. สามารถยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 ภายใต้เงื่อนไขใหม่ แต่มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำลดจากเงื่อนไข 6,500 ล้านบาท เหลือ 5,000 ล้านบาท 2. ยื่นขอขยายการลงทุนผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 ภายใต้เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์การลงทุนเดิม โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับจำนวนปีที่เหลืออยู่ และ 3. ผู้ผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 สามารถยื่นขอขยายการผลิตทั้งอีโคคาร์รุ่นที่ 1 และเพิ่มการผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 ได้ด้วย โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับจำนวนปีที่เหลืออยู่ เป็นต้น
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ได้ออกประกาศฯเพื่อให้การส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล รุ่นที่ 2 (อีโคคาร์2) โดยผู้ประกอบการรถยนต์ที่สนใจทั้งรายเก่าที่ได้รับการส่งเสริมการผลิตอีโคคาร์ 1 และรายใหม่สามารถยื่นขอรับการส่งเสริมได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มี.ค.2557 โดยเบื้องต้นทางบีโอไอแจ้งว่ามีผู้ผลิต 4 รายแจ้งขอรายละเอียดกับบีโอไอแล้วและคาดว่าจะมีผู้ผลิตรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5-6 รายที่จะยื่นขอรับส่งเสริมฯ และคาดว่าจะก่อให้เกิดการลงทุนผลิตรถยนต์รวมชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้อีโคคาร์ 2 กว่า 4 หมื่นล้านบาท
“ คิดว่ากลางปีหน้าก็จะเห็นภาพชัดเจนถึงแผนการลงทุนแต่ละรายและภายในปี 2558 ก็จะเห็นการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมซึ่งรถอีโคคาร์ 2 นี้เมื่อรวมกับการผลิตรถอีโคคาร์แรกคาดว่าภายในปี 2561 จะมีการผลิตรวมกันไม่นอ้ยกว่า 9.35 แสนคัน “นายประเสริฐกล่าว
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า เพื่อให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการนี้มากขึ้นบีโอไอจะเชิญผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการทุกรายรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดและเงื่อนไขการขอรับส่งเสริมการลงทุนอย่างเป็นทางการภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้เข้าร่วมรับฟังไม่น้อยกว่า 10 รายทั้งรายเก่าและรายใหม่
สำหรับเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่กำหนดไว้ ได้แก่ มีมูลค่าเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 6,500 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการจะต้องลงทุนผลิตแบบครบวงจรมีการผลิตไม่น้อยกว่า 100,000 คันต่อปี นับตั้งแต่การผลิตปีที่ 4 เป็นต้นไป เครื่องยนต์ที่ใช้สำหรับอีโคคาร์รุ่นที่ 2 จะต้องเป็นมาตรฐานยูโร 5 ที่มีมาตรฐานในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร และต้องมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 4.3 ลิตรต่อระยะทาง 100กิโลเมตร สำหรับขนาดเครื่องยนต์ของอีโคคาร์ 2 หากเป็นเครื่องยนต์เบนซินต้องมีขนาดไม่เกิน 1300 ซีซี ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลต้องมีขนาดไม่เกิน 1500 ซีซี
ส่วนผู้ประกอบการค่ายรถยนต์รายเดิมที่เคยเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์รุ่น ที่ 1 สามารถเลือกขยายการลงทุนได้ 3 ทาง คือ 1. สามารถยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 ภายใต้เงื่อนไขใหม่ แต่มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำลดจากเงื่อนไข 6,500 ล้านบาท เหลือ 5,000 ล้านบาท 2. ยื่นขอขยายการลงทุนผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 ภายใต้เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์การลงทุนเดิม โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับจำนวนปีที่เหลืออยู่ และ 3. ผู้ผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 สามารถยื่นขอขยายการผลิตทั้งอีโคคาร์รุ่นที่ 1 และเพิ่มการผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 ได้ด้วย โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับจำนวนปีที่เหลืออยู่ เป็นต้น
