นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศบ่อยครั้งว่า รัฐบาลชุดนี้เปิดกว้างสำหรับสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน โดยจะไม่มีการแทรกแซง แต่หลายต่อหลายครั้งที่สื่อมวลชนถูกแทรกแซง ถูกปิดกั้นการนำเสนอ หรือถึงขั้นข่มขู่คุกคาม
ล่าสุดรายการ “คนค้นฅน” ของบริษัท ทีวีบูรพา ทางช่อง 9 อสมท ก็ถูกแบนอีก โดยเทปรายการตอน “ศศิน เฉลิมลาภ” 388 กิโลเมตร จากป่าสู่เมือง ถูกระงับออกอากาศ
และไม่ใช่ครั้งแรกที่รายการดังทางโทรทัศน์ ซึ่งมีผู้ชมรายการจำนวนมาก ถูกระงับออกอากาศอย่างกะทันหัน เพราะก่อนหน้าละครชุด “เหนือเมฆ” ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ก็ถูกใบสั่งทางการเมืองปิดจอมาแล้ว ทั้งที่ละครยังไม่ทันจบ
นางสาวยิ่งลักษณ์จะลอยหน้าลอยตา โฆษณาชวนเชื่ออีกหรือว่า รัฐบาลชุดนี้ให้สิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนมากที่สุด ในเมื่อข้อเท็จจริงสื่อถูกแทรกแซงด้วยวิธีการที่น่าทุเรศที่สุด โดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชนดูเป็นล้านๆ คนทั่วประเทศ
การระงับออกอากาศรายการ “คนค้นฅน” เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ไม่ใช่ขั้นตอนปกติ และ อสมท ย่อมประเมินได้ว่า จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักแน่ แต่ก็ทำตามใบสั่ง
ข้ออ้างเนื้อหารายการตอน “ศศิน เฉลิมลาภ” 388 กิโลเมตรจากป่าสู่เมือง มีลักษณะฟังความข้างเดียว โดยนำเสนอแต่ทัศนะของฝ่ายอาจารย์ศศิน ซึ่งกำลังรณรงค์ต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์นั้น เป็นการบิดเบือนอย่างไร้ยางอาย
เพราะรายการ “คนค้นฅน” ออกอากาศมานับสิบปี ได้รับรางวัลมากมาย โดยจุดเด่นของรายการ มุ่งสะท้อนตัวตนของตัวบุคคล และถือเป็นรายการคุณภาพที่เป็นหน้าเป็นตาของช่อง 9 โดยไม่เคยถูกระงับออกอากาศ
แต่ตอนที่เกิดปัญหา เป็นการนำเสนอบทบาทของอาจารย์ศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร และกำลังเคลื่อนไหวรณรงค์ต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันโครงการอยู่
คนค้นฅน ไม่ใช่รายการข่าว และเสนอเพียงมุมมองเดียวคือ การสะท้อนตัวตนเฉพาะบุคคล จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีฝ่ายใดเข้ามาแสดงทัศนะเพื่อถ่วงดุล
แต่ อสมท กำลังเข้ามาทำลายเอกลักษณ์รายการที่มีคุณภาพรายการหนึ่งในช่อง ของตัวเอง โดยสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ ขอให้รายการสัมภาษณ์กลุ่มที่สนับสนุนการสร้างเขื่อนแม่วงก์นำเสนอด้วย
และเมื่อไม่มีทางเลือก ทีวีบูรพาจึงจำใจต้องจัดให้ตามใบสั่งของผู้บริหาร อสมท โดยตัดต่อปรับปรุงเทปรายการใหม่
ถ้าไม่ใช่อาจารย์ศศิน ถ้าไม่ใช่การเดินเท้า 388 กิโลเมตร เพื่อต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ รายการคนค้นฅนคงไม่มีปัญหา
แต่เพราะการนำเสนอบทบาทของอาจารย์ศศิน เป็นประเด็นสร้างเขื่อนแม่วงก์โดยตรง และกระแสต่อต้านของภาคประชาชนกำลังแรง รัฐบาลจึงปล่อยให้ออกอากาศไม่ได้ เพราะจะขยายกระแสต่อต้านให้ลุกลามในวงกว้างมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีใบสั่ง “แบน” ด่วน
เพราะกระแสต่อต้านที่มีอยู่ก็มากพอจนรัฐบาลแทบรับมือไม่ไหวแล้ว
โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ประกาศตัวชัดว่า รัฐบาลดึงดันสร้างให้ได้ ใครจะค้านก็ไม่ฟัง
งบการดำเนินโครงการอยู่ในส่วนเงินกู้บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และเชื่อกันว่า นักการเมืองจ้องเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์กัน
แต่กรณีเขื่อนแม่วงก์ อาจารย์ศศินลุกขึ้นมาขัดขวาง และปลุกกระแสต่อต้านติดเสียด้วย เพราะมีประชาชนกลุ่มต่างๆ ลุกฮือขึ้นมาคัดค้าน จนรัฐบาลต้องทบทวนโครงการ แต่ยังไม่ยอมยกเลิก
การรณรงค์ต่อต้านจึงต้องดำเนินต่อไป และแนวโน้มว่า ประชาชนจะร่วมเคลื่อนไหวคัดค้านมากขึ้น จนยกระดับเป็นกระแสหลักของสังคม
อาจารย์ศศินกลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ไปแล้ว รัฐบาลจึงพยายามจำกัดพื้นที่การเคลื่อนไหว เมื่อรู้ว่า รายการ “คนค้นฅน” กำลังเปิดเวทีให้ จึงสั่งจัดการทันที ด้วยข้ออ้างที่น่าสะอิดสะเอียน
อสมท ต้องการความเป็นกลาง ไม่ต้องการเห็นการนำเสนอเพียงฝ่ายเดียว
ถ้า อสมท ยึดมั่นความเป็นกลางจริง ต้องการรูปแบบนำเสนอที่สมดุล ไม่ใช่ฟังความข้างเดียว ต้องการมีความเห็นต่าง รับฟังเสียงสะท้อนของอีกฝ่ายจริง
รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์แทบทั้งคณะ จะไม่มีโอกาสให้สัมภาษณ์ผ่านทีวีช่อง 9 เพราะรัฐมนตรีแต่ละคนส่วนใหญ่พูดฝ่ายเดียว และ อสมท ก็นำเสนอข่าวฝ่ายเดียวมาตลอด
ไม่ว่าโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งสร้างความเสียหายหลายแสนล้านบาท การผลาญงบเดินทางไปต่างประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ โครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท การแก้กฎหมายเพื่อพวกพ้องตัวเอง หรือแม้แต่ปัญหาข้าวของราคาแพง
ช่อง 9 จะปล่อยให้นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีคนใดใช้ช่อง 9 เป็นกระบอกเสียงชี้แจงแก้ต่างแก้ตัวปัญหาใดๆ ไม่ได้ ถ้าไม่มีทัศนะของอีกฝ่ายมานำเสนอเพื่อถ่วงดุล
แต่ผู้บริหาร อสมท รู้อยู่แก่ใจว่า ต้องเปิดเวทีช่อง 9 ให้เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลชุดนี้ ผู้บริหาร อสมท รู้อยู่ในใจว่า ต้องทำงานรับใช้นางสาวยิ่งลักษณ์ จงอย่าแก้ตัวเหมือนเด็กไร้เดียงสาเลย
ส่วนรายการ “คนค้นฅน” ตอนอาจารย์ศศิน ซึ่งเลื่อนไปออกอากาศในวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคมนี้ ควรจะงดไปเลยดีกว่า เพราะกลายเป็นเทปรายการที่เน่าไปแล้ว
เทปรายการจริง เทปรายการต้นฉบับที่มีคุณภาพ และยังไม่ถูกรัฐบาลเซ็นเซอร์ตัดตอน ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกผ่านสังคมออนไลน์แล้ว
เหลือเพียงเทปรายการ “คนค้นฅน” เน่าๆ ฉบับเผด็จการครองเมือง ที่ อสมท สั่งตัดต่อ และรอวันเผยแพร่เพื่อประจานความเป็นสื่อขี้ข้าของช่อง 9 เท่านั้น
ล่าสุดรายการ “คนค้นฅน” ของบริษัท ทีวีบูรพา ทางช่อง 9 อสมท ก็ถูกแบนอีก โดยเทปรายการตอน “ศศิน เฉลิมลาภ” 388 กิโลเมตร จากป่าสู่เมือง ถูกระงับออกอากาศ
และไม่ใช่ครั้งแรกที่รายการดังทางโทรทัศน์ ซึ่งมีผู้ชมรายการจำนวนมาก ถูกระงับออกอากาศอย่างกะทันหัน เพราะก่อนหน้าละครชุด “เหนือเมฆ” ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ก็ถูกใบสั่งทางการเมืองปิดจอมาแล้ว ทั้งที่ละครยังไม่ทันจบ
นางสาวยิ่งลักษณ์จะลอยหน้าลอยตา โฆษณาชวนเชื่ออีกหรือว่า รัฐบาลชุดนี้ให้สิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนมากที่สุด ในเมื่อข้อเท็จจริงสื่อถูกแทรกแซงด้วยวิธีการที่น่าทุเรศที่สุด โดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชนดูเป็นล้านๆ คนทั่วประเทศ
การระงับออกอากาศรายการ “คนค้นฅน” เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ไม่ใช่ขั้นตอนปกติ และ อสมท ย่อมประเมินได้ว่า จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักแน่ แต่ก็ทำตามใบสั่ง
ข้ออ้างเนื้อหารายการตอน “ศศิน เฉลิมลาภ” 388 กิโลเมตรจากป่าสู่เมือง มีลักษณะฟังความข้างเดียว โดยนำเสนอแต่ทัศนะของฝ่ายอาจารย์ศศิน ซึ่งกำลังรณรงค์ต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์นั้น เป็นการบิดเบือนอย่างไร้ยางอาย
เพราะรายการ “คนค้นฅน” ออกอากาศมานับสิบปี ได้รับรางวัลมากมาย โดยจุดเด่นของรายการ มุ่งสะท้อนตัวตนของตัวบุคคล และถือเป็นรายการคุณภาพที่เป็นหน้าเป็นตาของช่อง 9 โดยไม่เคยถูกระงับออกอากาศ
แต่ตอนที่เกิดปัญหา เป็นการนำเสนอบทบาทของอาจารย์ศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร และกำลังเคลื่อนไหวรณรงค์ต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันโครงการอยู่
คนค้นฅน ไม่ใช่รายการข่าว และเสนอเพียงมุมมองเดียวคือ การสะท้อนตัวตนเฉพาะบุคคล จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีฝ่ายใดเข้ามาแสดงทัศนะเพื่อถ่วงดุล
แต่ อสมท กำลังเข้ามาทำลายเอกลักษณ์รายการที่มีคุณภาพรายการหนึ่งในช่อง ของตัวเอง โดยสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ ขอให้รายการสัมภาษณ์กลุ่มที่สนับสนุนการสร้างเขื่อนแม่วงก์นำเสนอด้วย
และเมื่อไม่มีทางเลือก ทีวีบูรพาจึงจำใจต้องจัดให้ตามใบสั่งของผู้บริหาร อสมท โดยตัดต่อปรับปรุงเทปรายการใหม่
ถ้าไม่ใช่อาจารย์ศศิน ถ้าไม่ใช่การเดินเท้า 388 กิโลเมตร เพื่อต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ รายการคนค้นฅนคงไม่มีปัญหา
แต่เพราะการนำเสนอบทบาทของอาจารย์ศศิน เป็นประเด็นสร้างเขื่อนแม่วงก์โดยตรง และกระแสต่อต้านของภาคประชาชนกำลังแรง รัฐบาลจึงปล่อยให้ออกอากาศไม่ได้ เพราะจะขยายกระแสต่อต้านให้ลุกลามในวงกว้างมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีใบสั่ง “แบน” ด่วน
เพราะกระแสต่อต้านที่มีอยู่ก็มากพอจนรัฐบาลแทบรับมือไม่ไหวแล้ว
โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ประกาศตัวชัดว่า รัฐบาลดึงดันสร้างให้ได้ ใครจะค้านก็ไม่ฟัง
งบการดำเนินโครงการอยู่ในส่วนเงินกู้บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และเชื่อกันว่า นักการเมืองจ้องเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์กัน
แต่กรณีเขื่อนแม่วงก์ อาจารย์ศศินลุกขึ้นมาขัดขวาง และปลุกกระแสต่อต้านติดเสียด้วย เพราะมีประชาชนกลุ่มต่างๆ ลุกฮือขึ้นมาคัดค้าน จนรัฐบาลต้องทบทวนโครงการ แต่ยังไม่ยอมยกเลิก
การรณรงค์ต่อต้านจึงต้องดำเนินต่อไป และแนวโน้มว่า ประชาชนจะร่วมเคลื่อนไหวคัดค้านมากขึ้น จนยกระดับเป็นกระแสหลักของสังคม
อาจารย์ศศินกลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ไปแล้ว รัฐบาลจึงพยายามจำกัดพื้นที่การเคลื่อนไหว เมื่อรู้ว่า รายการ “คนค้นฅน” กำลังเปิดเวทีให้ จึงสั่งจัดการทันที ด้วยข้ออ้างที่น่าสะอิดสะเอียน
อสมท ต้องการความเป็นกลาง ไม่ต้องการเห็นการนำเสนอเพียงฝ่ายเดียว
ถ้า อสมท ยึดมั่นความเป็นกลางจริง ต้องการรูปแบบนำเสนอที่สมดุล ไม่ใช่ฟังความข้างเดียว ต้องการมีความเห็นต่าง รับฟังเสียงสะท้อนของอีกฝ่ายจริง
รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์แทบทั้งคณะ จะไม่มีโอกาสให้สัมภาษณ์ผ่านทีวีช่อง 9 เพราะรัฐมนตรีแต่ละคนส่วนใหญ่พูดฝ่ายเดียว และ อสมท ก็นำเสนอข่าวฝ่ายเดียวมาตลอด
ไม่ว่าโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งสร้างความเสียหายหลายแสนล้านบาท การผลาญงบเดินทางไปต่างประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ โครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท การแก้กฎหมายเพื่อพวกพ้องตัวเอง หรือแม้แต่ปัญหาข้าวของราคาแพง
ช่อง 9 จะปล่อยให้นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีคนใดใช้ช่อง 9 เป็นกระบอกเสียงชี้แจงแก้ต่างแก้ตัวปัญหาใดๆ ไม่ได้ ถ้าไม่มีทัศนะของอีกฝ่ายมานำเสนอเพื่อถ่วงดุล
แต่ผู้บริหาร อสมท รู้อยู่แก่ใจว่า ต้องเปิดเวทีช่อง 9 ให้เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลชุดนี้ ผู้บริหาร อสมท รู้อยู่ในใจว่า ต้องทำงานรับใช้นางสาวยิ่งลักษณ์ จงอย่าแก้ตัวเหมือนเด็กไร้เดียงสาเลย
ส่วนรายการ “คนค้นฅน” ตอนอาจารย์ศศิน ซึ่งเลื่อนไปออกอากาศในวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคมนี้ ควรจะงดไปเลยดีกว่า เพราะกลายเป็นเทปรายการที่เน่าไปแล้ว
เทปรายการจริง เทปรายการต้นฉบับที่มีคุณภาพ และยังไม่ถูกรัฐบาลเซ็นเซอร์ตัดตอน ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกผ่านสังคมออนไลน์แล้ว
เหลือเพียงเทปรายการ “คนค้นฅน” เน่าๆ ฉบับเผด็จการครองเมือง ที่ อสมท สั่งตัดต่อ และรอวันเผยแพร่เพื่อประจานความเป็นสื่อขี้ข้าของช่อง 9 เท่านั้น