ASTVผู้จัดการรายวัน - ทีวีบูรพา หัวอ่อน ยอมปรับปรุงเนื้อหารายการตามที่ อสมท สั่งตอน “ศศิน เฉลิมลาภ 388 ก.ม. จากป่าสู่เมือง” ออนแอร์เสาร์ 12 ต.ค.นี้ ด้าน“ผู้กองปูเค็ม” ประกาศตั้งกองทัพนิรนามที่นครสวรรค์ นำทัพชาวปากน้ำโพค้านเขื่อนแม่วงก์
วานนี้ (30ก.ย.) อสมท โดยนายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) พร้อมฝ่ายรายการอีก 1 ท่าน ได้นัดคุยกับทางตัวแทนของบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ในช่วง 15.00-16.00น. เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องของ รายการ ฅนค้นคน ตอน “ศศิน เฉลิมลาภ 388 ก.ม. จากป่าสู่เมือง” ที่ไม่ได้ออกอากาศ ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวเป็นการแนวทางปฎิบัติงานปกติของทางสถานีโทรทัศน์ในการตรวจสอบรายการก่อนออกอากาศ โดยตอน ศศิน เฉลิมลาภ 388 ก.ม. จากป่าสู่เมือง นั้น ถือเป็นประเด็นความขัดแย้งทางสังคมที่มีความละเอียดอ่อนและกระทบกับบุคคลหลายกลุ่มในวงกว้าง
สถานีจึงแจ้งให้มีการปรับปรุงการนำเสนอให้มีเนื้อหาครอบคลุมกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ก่อนจะนำมาออกอากาศในวันเสาร์ถัดไป คือเสาร์ที่ 12 ต.ค.นี้ เวลา14.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ เนื่องจากในวันเสาร์ที่ 5 ต.ค.ที่จะถึงนี้ สถานีฯจะมีการถ่ายทอดสดงานวันนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี2556 ซึ่งได้มีการประสานกันล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดเกิดกรณีนี้ขึ้น
“ทางสถานีฯขอยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่มีการเมืองมาแทรกแซงอย่างแน่นอน อสมท กับทีวีบูรพา ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมายาวนานและจะต้องร่วมงานกันอีกต่อไปในอนาคต” นายอเนกกล่าว
นายประสาน อิงคนันท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายผลิต บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด กล่าวต่อว่า ทางบริษัทยินดีปรับแก้ไขเนื้อหารายการตามที่สถานีฯแจ้งมา โดยเป็นการพบกันตรงกลางระหว่างทีวีบูรพาและสถานีฯ ซึ่งการที่อสมท ให้มีการออกอากาศใหม่เป็นทางออกที่ดีที่สุด ส่วนเรื่องที่มีการเชื่อมโยงกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นการเมืองนั้น
มองว่าเป็นปัญหาของสังคมขณะนี้ที่คนอาจตีความเชื่อมโยง เทป อ.ศศิน อาจเป็นกรณีศึกษาที่ดีที่ส่งเสริมความรู้สึก นึกคิดของคนที่จะต่อสู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยสันติวิธี
อย่างไรก็ตาม สำหรับการที่ นายสุทธิพงศ์ ธรรมวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ได้แสดงออกด้วยการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย ว่า มีการปิดตา ปิดปากปิดหู หลังจากที่เทปดังกล่าวโดนชะลอการออกอากาศนั้น ตนมองว่าเป็นความรู้สึกขณะนั้นของคนทำงานด้านสื่อสารมวลชนมากกว่า ที่รับทราบว่าเทปดังกล่าวได้รับการชะลอเผยแพร่ซึ่งไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงแต่อย่างใด
ปากน้ำโพรวมตั้ง “กองทัพนิรนาม”
รายงานข่าวจากจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งว่า กลุ่มเครือข่ายหน้ากากขาว และชาวปากน้ำโพ รวมกว่า 300 คน ได้รวมตัวกันบริเวณหน้าป้ายอุทยานสวรรค์ เขตเทศบาลเมืองนครสวรรค์ ช่วงเย็นถึงค่ำวานนี้ (29 ก.ย. 56) ก่อนประกาศหนุนการล้มล้าง “ระบอบทักษิณ” ให้หมดไปจากแผ่นดินไทย โดยมี ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม เดินทางร่วมชุมนุมพร้อมจัดตั้ง-ส่งมอบธงกองทัพนิรนาม เป็นจังหวัดที่ 10 แก่ตัวแทนกลุ่มหน้ากากขาวนครสวรรค์
จากนั้นผู้กองปูเค็มได้นำกองทัพนิรนามร้องเพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมีหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ก่อนที่แกนนำจะผลัดกันขึ้นปราศรัยถึงการก่อตั้งกองทัพนิรนาม ว่ามุ่งมั่นสร้างความปรองดองให้ประชาชนทั้งประเทศได้เกิดความรัก และความสามัคคีกัน แต่ด้วยกำลังคนที่น้อยกว่าจึงให้มีการรวมตัวกันของกองทัพนิรนามทุกจังหวัด หนุนการล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดไปจากแผ่นดินไทย ซึ่งนครสวรรค์เป็นจังหวัดที่ 10 ที่มีการจัดตั้งขึ้น และจะเดินหน้าจัดตั้งทุกจังหวัดต่อเนื่องต่อไป
ผู้กองปูเค็มกล่าวว่า การล้มล้างระบอบทักษิณจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันจัดกิจกรรมและอาศัยระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ในการขับเคลื่อน สำหรับจังหวัดนครสวรรค์ขณะนี้กำลังมีกระแสเขื่อนแม่วงก์ ซึ่งรัฐบาลพยายามเดินหน้าโครงการนี้ให้สำเร็จ อยู่ในงบบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ในส่วนตัวหากชาวนครสวรรค์จะคัดค้านไม่ให้เกิดการสร้างเขื่อนตนเองจะอาสานำทัพในการเดินหน้าค้านเขื่อนแม่วงก์พร้อมกับชาวปากน้ำโพด้วย
“ปลอด” ใบ้กิน
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีรายการ “คนค้นฅน” ตอน ศศิน เฉลิมลาภ 388 กม. จากป่าสู่เมือง ถูกระงับการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 อสมท. ว่า เป็นการดำเนินการของกองเซ็นเซอร์ ของ อสมท. รัฐบาลไม่ได้ไปก้าวก่ายแต่อย่างใด โดยนายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ ผู้อำนวยการ อสมท. จะต้องเป็นผู้ชี้แจงในส่วนนี้ และ นายกรัฐมนตรี ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้มอบหมายให้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เป็นผู้ชี้แจงให้รายละเอียดแก่ประชาชน เกี่ยวกับการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์
ขณะที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการระงับออกอากาศรายการคนค้นฅน ว่า ตนไม่เกี่ยว ขอหย่าขาดจากกรณีนี้
ฝ่ายค้านชี้เขื่อนแม่วงก์อาจพึ่งศาล
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้มีหลายฝ่ายที่บอกว่า เรื่องนี้ไม่ถูกต้อง จึงอาจจะดำเนินการทางศาล แต่สะท้อน 2 ประเด็นใหญ่ คือ
1. ขณะที่รัฐบาลอยู่ในขั้นตอนที่ศาล และหลายฝ่ายเรียกร้องว่าจะต้องรับฟังประชาชนให้มาก แต่เมื่อมีการเสนอข้อมูลที่ไม่ตรงกับความต้องการรัฐบาล กลับถูกปิดกั้น ถ้าเป็นแบบนี้เป็นเรื่องยากที่จะมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็น ที่สมเหตุสมผล ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ
2.ประเด็นทั่วไปเกี่ยวกับปัญหาใช้คำว่า แทรกแซง หรือควบคุม หรือ ครอบงำสื่อ ดูเหมือนจะไม่ยอมรับแนวทางเปิดให้มีสิทธิเสรีภาพ ซึ่งเกี่ยวกับประชาธิปไตย เรื่องของความปรองดองด้วย จึงน่าเป็นห่วง และไม่เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลไม่กระตือรือร้นชี้แจง หรือแก้ไขปัญหา แต่พยายามสร้างประเด็นเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทป รายการ ฅนค้นคน ตอน “ศศิน เฉลิมลาภ 388 ก.ม. จากป่าสู่เมือง” ของทีวีบูรพา ที่ไม่ได้ออกอากาศทางช่องโมเดิร์นไนน์ตามผังรายการเดิมนั้น ได้ออกอากาศผ่านทางช่องเอเอสทีวีนิวส์วันแล้วเมื่อเวลา 15.00 - 16.00 น. ของวานนี้ (30 ก.ย.) และจะออกอากาศอีกครั้งในวันนี้ ( 1 ต.ค.) เวลา 22.00 - 23.00 น.
วานนี้ (30ก.ย.) อสมท โดยนายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) พร้อมฝ่ายรายการอีก 1 ท่าน ได้นัดคุยกับทางตัวแทนของบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ในช่วง 15.00-16.00น. เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องของ รายการ ฅนค้นคน ตอน “ศศิน เฉลิมลาภ 388 ก.ม. จากป่าสู่เมือง” ที่ไม่ได้ออกอากาศ ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวเป็นการแนวทางปฎิบัติงานปกติของทางสถานีโทรทัศน์ในการตรวจสอบรายการก่อนออกอากาศ โดยตอน ศศิน เฉลิมลาภ 388 ก.ม. จากป่าสู่เมือง นั้น ถือเป็นประเด็นความขัดแย้งทางสังคมที่มีความละเอียดอ่อนและกระทบกับบุคคลหลายกลุ่มในวงกว้าง
สถานีจึงแจ้งให้มีการปรับปรุงการนำเสนอให้มีเนื้อหาครอบคลุมกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ก่อนจะนำมาออกอากาศในวันเสาร์ถัดไป คือเสาร์ที่ 12 ต.ค.นี้ เวลา14.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ เนื่องจากในวันเสาร์ที่ 5 ต.ค.ที่จะถึงนี้ สถานีฯจะมีการถ่ายทอดสดงานวันนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี2556 ซึ่งได้มีการประสานกันล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดเกิดกรณีนี้ขึ้น
“ทางสถานีฯขอยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่มีการเมืองมาแทรกแซงอย่างแน่นอน อสมท กับทีวีบูรพา ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมายาวนานและจะต้องร่วมงานกันอีกต่อไปในอนาคต” นายอเนกกล่าว
นายประสาน อิงคนันท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายผลิต บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด กล่าวต่อว่า ทางบริษัทยินดีปรับแก้ไขเนื้อหารายการตามที่สถานีฯแจ้งมา โดยเป็นการพบกันตรงกลางระหว่างทีวีบูรพาและสถานีฯ ซึ่งการที่อสมท ให้มีการออกอากาศใหม่เป็นทางออกที่ดีที่สุด ส่วนเรื่องที่มีการเชื่อมโยงกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นการเมืองนั้น
มองว่าเป็นปัญหาของสังคมขณะนี้ที่คนอาจตีความเชื่อมโยง เทป อ.ศศิน อาจเป็นกรณีศึกษาที่ดีที่ส่งเสริมความรู้สึก นึกคิดของคนที่จะต่อสู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยสันติวิธี
อย่างไรก็ตาม สำหรับการที่ นายสุทธิพงศ์ ธรรมวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ได้แสดงออกด้วยการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย ว่า มีการปิดตา ปิดปากปิดหู หลังจากที่เทปดังกล่าวโดนชะลอการออกอากาศนั้น ตนมองว่าเป็นความรู้สึกขณะนั้นของคนทำงานด้านสื่อสารมวลชนมากกว่า ที่รับทราบว่าเทปดังกล่าวได้รับการชะลอเผยแพร่ซึ่งไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงแต่อย่างใด
ปากน้ำโพรวมตั้ง “กองทัพนิรนาม”
รายงานข่าวจากจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งว่า กลุ่มเครือข่ายหน้ากากขาว และชาวปากน้ำโพ รวมกว่า 300 คน ได้รวมตัวกันบริเวณหน้าป้ายอุทยานสวรรค์ เขตเทศบาลเมืองนครสวรรค์ ช่วงเย็นถึงค่ำวานนี้ (29 ก.ย. 56) ก่อนประกาศหนุนการล้มล้าง “ระบอบทักษิณ” ให้หมดไปจากแผ่นดินไทย โดยมี ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม เดินทางร่วมชุมนุมพร้อมจัดตั้ง-ส่งมอบธงกองทัพนิรนาม เป็นจังหวัดที่ 10 แก่ตัวแทนกลุ่มหน้ากากขาวนครสวรรค์
จากนั้นผู้กองปูเค็มได้นำกองทัพนิรนามร้องเพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมีหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ก่อนที่แกนนำจะผลัดกันขึ้นปราศรัยถึงการก่อตั้งกองทัพนิรนาม ว่ามุ่งมั่นสร้างความปรองดองให้ประชาชนทั้งประเทศได้เกิดความรัก และความสามัคคีกัน แต่ด้วยกำลังคนที่น้อยกว่าจึงให้มีการรวมตัวกันของกองทัพนิรนามทุกจังหวัด หนุนการล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดไปจากแผ่นดินไทย ซึ่งนครสวรรค์เป็นจังหวัดที่ 10 ที่มีการจัดตั้งขึ้น และจะเดินหน้าจัดตั้งทุกจังหวัดต่อเนื่องต่อไป
ผู้กองปูเค็มกล่าวว่า การล้มล้างระบอบทักษิณจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันจัดกิจกรรมและอาศัยระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ในการขับเคลื่อน สำหรับจังหวัดนครสวรรค์ขณะนี้กำลังมีกระแสเขื่อนแม่วงก์ ซึ่งรัฐบาลพยายามเดินหน้าโครงการนี้ให้สำเร็จ อยู่ในงบบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ในส่วนตัวหากชาวนครสวรรค์จะคัดค้านไม่ให้เกิดการสร้างเขื่อนตนเองจะอาสานำทัพในการเดินหน้าค้านเขื่อนแม่วงก์พร้อมกับชาวปากน้ำโพด้วย
“ปลอด” ใบ้กิน
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีรายการ “คนค้นฅน” ตอน ศศิน เฉลิมลาภ 388 กม. จากป่าสู่เมือง ถูกระงับการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 อสมท. ว่า เป็นการดำเนินการของกองเซ็นเซอร์ ของ อสมท. รัฐบาลไม่ได้ไปก้าวก่ายแต่อย่างใด โดยนายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ ผู้อำนวยการ อสมท. จะต้องเป็นผู้ชี้แจงในส่วนนี้ และ นายกรัฐมนตรี ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้มอบหมายให้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เป็นผู้ชี้แจงให้รายละเอียดแก่ประชาชน เกี่ยวกับการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์
ขณะที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการระงับออกอากาศรายการคนค้นฅน ว่า ตนไม่เกี่ยว ขอหย่าขาดจากกรณีนี้
ฝ่ายค้านชี้เขื่อนแม่วงก์อาจพึ่งศาล
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้มีหลายฝ่ายที่บอกว่า เรื่องนี้ไม่ถูกต้อง จึงอาจจะดำเนินการทางศาล แต่สะท้อน 2 ประเด็นใหญ่ คือ
1. ขณะที่รัฐบาลอยู่ในขั้นตอนที่ศาล และหลายฝ่ายเรียกร้องว่าจะต้องรับฟังประชาชนให้มาก แต่เมื่อมีการเสนอข้อมูลที่ไม่ตรงกับความต้องการรัฐบาล กลับถูกปิดกั้น ถ้าเป็นแบบนี้เป็นเรื่องยากที่จะมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็น ที่สมเหตุสมผล ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ
2.ประเด็นทั่วไปเกี่ยวกับปัญหาใช้คำว่า แทรกแซง หรือควบคุม หรือ ครอบงำสื่อ ดูเหมือนจะไม่ยอมรับแนวทางเปิดให้มีสิทธิเสรีภาพ ซึ่งเกี่ยวกับประชาธิปไตย เรื่องของความปรองดองด้วย จึงน่าเป็นห่วง และไม่เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลไม่กระตือรือร้นชี้แจง หรือแก้ไขปัญหา แต่พยายามสร้างประเด็นเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทป รายการ ฅนค้นคน ตอน “ศศิน เฉลิมลาภ 388 ก.ม. จากป่าสู่เมือง” ของทีวีบูรพา ที่ไม่ได้ออกอากาศทางช่องโมเดิร์นไนน์ตามผังรายการเดิมนั้น ได้ออกอากาศผ่านทางช่องเอเอสทีวีนิวส์วันแล้วเมื่อเวลา 15.00 - 16.00 น. ของวานนี้ (30 ก.ย.) และจะออกอากาศอีกครั้งในวันนี้ ( 1 ต.ค.) เวลา 22.00 - 23.00 น.