“วิสาร” แจงประสาน ส.ส.ปชป.แก้ม็อบยางแล้ว คาดวันนี้คุยกันที่สภา เผยข่าวดีผู้ชุมนุมพร้อมเจรจา ยันไม่ใช่กำลังสลายเหตุนายกฯไม่ให้รุนแรง พร้อมจัดจุดลงทะเบียนชดเชยเพิ่ม แบ่งประโยชน์ผู้กรีดและเจ้าของสวนต้องคุยกัน ยัน รมต.ไม่ต้องลงพื้นที่ อ้างการเมืองท้องถิ่นหนุนไม่ได้ว่า ปชป. แจงตั้งทีมเจรจามีผู้นำท้องถิ่น 9 คนฟังปัญหา ห่วงผู้กองปูเค็ม-วิทยุชุมชนปลุกระดม แนะรถ ขรก.-จนท.รัฐอย่าเข้าที่ชุมนุม เตรียมส่งคนพื้นที่เจรจาปัดม็อบชนม็อบ ขู่ทำผิดต้องรับผิดชอบ
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ว่าได้ประสานกับ ส.ส.ประชาธิปัตย์ในการแก้ปัญหาแล้ว โดยล่าสุดนายวิทยา แก้วภราดัย นายถาวร เสนเนียม ส.ส.นครศรีธรรมราช นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ได้ลงพื้นที่ช่วยเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว และคาดว่าในวันเดียวกันนี้จะได้มีการพูดคุยกับ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่รัฐสภาด้วย ล่าสุดได้มีข่าวดี เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมเจรจากับฝ่ายปกครอง โดยติดผ่านทางนายอำเภอชะอวดมาแล้ว และได้ยกเต็นท์ออกแล้ว โดยในช่วงเช้ามีผู้ชุมนุมอยู่เพียง 40 คน แต่เจ้าหน้าที่จะไม่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม เพราะนายกรัฐมนตรีได้กำชับไว้ว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง และให้เกียรติซึ่งกันและกัน แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บเป็น 100 คน แล้วก็ตาม ทั้งนี้ทางหน่วยงานรัฐได้มีการตั้งจุดเปิดให้กลุ่มเกษตรกรได้ลงทะเบียนขอรับการชดเชยแล้ว โดยมีการแยกจัดลงทะเบียนระหว่างกลุ่มผู้มีเอกสารสิทธิ และผู้ไม่มีเอกสารสิทธิ ซึ่งล่าสุดมีเกษตรกรมาลงทะเบียนแล้ว 50,000 กว่าราย ส่วนการแบ่งผลประโยชน์กันระหว่างผู้กรีดยางและเจ้าของสวนยางก็เป็นเรื่องที่ต้องไปคุยกันเอง ทั้งนี้ฝ่ายบริหารระดับรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่ดูแลปัญหา โดยจะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชดูแลเป็นหลัก
ส่วนปัญหาเรื่องมีการเมืองหนุนหลังกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น นายวิสารกล่าวว่า ได้สอบถามรองโฆษกพรรคเพื่อไทย และพล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้หมายถึงพรรคฝ่ายค้าน แต่การเมืองมีหลายระดับทั้งระดับท้องถิ่นและ อบต.ที่มีการกระทบกระทั่งกัน แต่สิ่งที่ห่วงคือจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เพราะมี ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม พากลุ่มหน้ากากขาว 5-6 คนไปร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมและแจกเอกสารต่างๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเจ้าหน้าที่ทำร้ายม็อบ นอกจากนี้ วิทยุท่าข้ามเรดิโอ ที่ปลุกระดมเกรงว่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์เหมือนตอน 14 ต.ค. 16 ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลให้การเยียวยาทุกฝ่ายจนเป็นที่พอใจแล้ว และเมื่อผู้ชุมนุมไม่ไว้ใจราชการก็ได้มีการตั้งคณะผู้เจรจาไกล่เกลี่ยกรณีชุมนุมสาธารณะ ต.ควนหนองหงส์ มีกรรมการจากผู้นำท้องถิ่นรวม 9 คน เพื่อรับฟังปัญหาจากกลุ่มผู้ชุมนุม และจะแจ้งมายังหน่วยงานรัฐต่อไป โดยมีการรายงานมาในช่วง 04.00 น. ถึงปัญหาอุปสรรค 3 ประเด็น คือ การเคลื่อนไหวปลุกปั่นของผู้กองปูเค็ม กลุ่มวัยรุ่น และการปลุกปั่นของสถานีวิทยุท้องถิ่นท่าข้ามเรดิโอ จึงเสนอให้ไม่ควรนำรถที่มีตราโล่ราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่แต่งเครื่องแบบไม่ควรเข้าไปบริเวณพื้นที่ชุมนุม
“ผู้กองปูเค็มตั้งใจไปบิดเบือนปลุกระดมให้ข้อมูลผิดๆ โดยที่ไม่เกี่ยวกับความเดือดร้อนของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งผมได้คุยกับทางปลัดจังหวัดและนายอำเภอแล้วว่า ถ้าม็อบยังไม่ยอมเปิดทางให้สัญจรไปมาก็จะให้เด็กนักเรียน พี่น้องในพื้นที่เข้าไปช่วยเจรจาไม่ได้หมายความว่าจะทำม็อบชนม็อบ แต่อยากให้รู้ว่ามีคนเดือดร้อนจากการกระทำของเขา ทั้งนี้ไม่ทราบข่าวที่ว่ามีการขู่ว่าจะมีการบุกเชือดผู้ว่าฯด้วย แต่ใครทำผิดกฎหมายก็คงจะช่วยไม่ได้ เราจะดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดโดยได้กำชับกับผู้ว่าฯไปแล้วให้เร่งดำเนินการอย่างรวดเร็วหากผู้กองปูเค็มซึ่งไม่ได้มีส่วนเดือดร้อนเข้าไปปลุกระดมในพื้นที่ ก็อาจจะถูกจับ เพราะเข้าข่ายกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีความผิด ปรับ 6,000 บาท จำคุก 2 เดือน และหากมีใครกระทำการอื่นที่รุนแรงก็อาจเข้าข่ายความผิดฐานก่อการร้าย เจตนาฆ่า โดยเรามีคลิปวิดีโอ สายสืบในพื้นที่มีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้วในการดำเนินการดังกล่าว เพราะเราไม่ต้องการให้คนไทยรบกันเหมือนซีเรีย ผมเตือนแล้วใครทำผิดก็ต้องรับผิดชอบ” นายวิสารกล่าว
