ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ส.ส.ประชาธิปัตย์ พบปะผู้ชุมนุมชาวสวนยาง วอนเปิดพื้นที่ให้สื่อมวลชนเข้ามาทำข่าว พร้อมจี้รัฐตอบจะดำเนินการอย่างไรกับเหตุ ตร.ทำร้ายประชาชน รวมทั้งเงื่อนไขที่รับปากจะประกันราคา กก.ละ 90 บาท แต่กลับพลิกลิ้นทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน
วันนี้ (18 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส. ประชาธิปัตย์ จ.พัทลุง นายวิทยา แก้วภราดัย นายเทพไท เสนพงศ์ และ ดร.อภิชาติ การิกาญจน์ ส.ส.ประชาธิปัตย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางมายังจุดชุมนุมเรียกร้องราคายางพารา และปาล์มน้ำมัน ที่แยกควนหนองหงษ์ ต.หนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเยี่ยมเยือนให้กำลังใจ และพบปะเกษตรกรผู้ชุมนุม
โดยมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ขอให้เปิดพื้นที่ให้สื่อมวลชนเดินทางเข้ามาทำข่าวการชุมนุม เนื่องจากขณะนี้ข่าวการชุมนุมที่เผยแพร่ออกไปส่วนใหญ่เป็นข่าวจากฝ่ายรัฐบาล และมีการนำเสนอด้านเดียว จึงขอให้เปิดพื้นที่ให้สื่อมวลชนเข้ามาทำข่าว และขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมช่วยดูแลสื่อมวลชนด้วย
ส่วนความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพารา และปาล์มนำมันนั้น ให้กลุ่มผู้ชุมนุมหารือกัน และนำข้อสรุปมาแจ้งแก่ ส.ส. ประชาธิปัตย์ในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยกันหาทางแก้ไขต่อไป
ทั้งนี้ จากข้อตกลงล่าสุดของรัฐบาลกับกลุ่มชาวสวนยางพารา ที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รับปากไว้ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะยอมสลายตัวเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยรับปากว่าจะประกันราคายางพาราที่ กก.ละ 90 บาท แต่ต่อมาภายหลัง รัฐบาลกลับพลิกลิ้นเป็นสนับสนุนปัจจัยการผลิต หรือค่าปุ๋ยแทน โดยให้ราคาไร่ละ 2,520 บาท รายละไม่เกิน 25 ไร่ กลุ่มผู้ชุมนุมรู้สึกว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจ โดยยืนยันให้ประกันราคาที่ กก.ละ 90 บาท
สำหรับแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ขณะนี้ไม่มีแกนนำ หรือผู้ประสานงานชัดเจน และทางฝ่ายรัฐบาลเองก็ยังไม่มีตัวแทนที่จะเข้ามาพูดคุยกับชาวบ้านเช่นกัน
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะส่งตัวแทนมาพบกับ ส.ส.ประชาธิปัตย์ในพื้นที่ นั้น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่มาลงพื้นที่พบปะผู้ชุมนุมในวันนี้เพื่อมาหาข้อมูลความเดือดร้อนของเกษตรกร ซึ่งหลังจากนี้ ถ้ารัฐบาลอยากหารือเพื่อรับทราบข้อมูลก็สามารถติดต่อมาได้ แต่ยืนยันว่า ส.ส.ไม่ใช่แกนนำของผู้ชุมนุม ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงเรื่องคดีความที่มีการฟ้องร้องกลุ่มผู้ชุมนุม แต่อย่างไรก็ตาม สภาทนายความได้เข้ามาช่วยดูแลชาวบ้านที่ถูกออกหมายจับแล้ว
นายวิทยา แก้วภราดัย กล่าวว่า มี 2 เรื่องที่อยากฝากไปถึงรัฐบาลคือ 1.จากเหตุการณ์ที่ตำรวจทำร้ายประชาชน และเกิดการปะทะกับประชาชน รัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร และ 2. จากเงื่อนไขที่ตัวแทนรัฐบาลได้รับปากไว้กับพี่น้องเกษตรกรว่าจะประกันราคาที่ กก.ละ 90 บาท จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ส่วนที่ “ผู้กองปูเค็ม” หรือ ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล นัดแนะกับชาวบ้านจะลากซากรถไปทวงถามตำรวจ สภ.ชะอวด ถึงเหตุจุดไฟเผานั้น ปรากฏว่า ไม่มีกิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากรถคันดังก่าวเป็นของกลาง ชาวบ้านไม่อยากเคลื่อนย้ายไปไหน ประกอบกับชาวบ้านรู้สึกว่าไม่อยากตกเป็นเครื่องมือของใครอีกต่อไป เพราะได้บทเรียนจากการชุมนุมที่ผ่านมา เนื่องจากมีหลายกลุ่มที่อาสามาเป็นตัวแทนชาวบ้าน และหลังจากได้ข้อตกลงกลุ่มคนดังกล่าวก็หายไป ทิ้งชาวบ้านที่ชุมนุมให้โดดเดี่ยว นอกจากนี้ ผลประโยชน์จากการตกลงกันก็ไม่ใช่ผลประโยชน์ที่ชาวบ้านได้รับอย่างแท้จริง