xs
xsm
sm
md
lg

แฉ30ชายฉกรรจ์แฝงตัวเผารถตร. เติมเชื้อไฟม็อบ ขู่ใช้กม.พิเศษจัดการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - ตำรวจ-ชาวสวนยางปะทะเดือด! ยิงแก๊สน้ำตา มือมืดเผารถวอดกว่า 10 คัน ชาวบ้านยันชายฉกกรจ์แฝงตัววางเพลิงเสร็จเผ่นหนี สุดท้ายตร.ถอยร่นตั้งหลักห่างม็อบ 20 กม. ชาวบ้านถูกกระสุนเจ็บ 1 คน งัดหลักฐานแฉฝีมือเจ้าหน้าที่ก่อเหตุแล้วโยนความผิดชาวบ้าน พท.ชี้คนหน้าเดิม วอนหยุดป่วนยันให้ได้แค่ 90 บาท ส.ส.ปชป.นครศรีธรรมราช แถลงการณ์จวกรัฐบาลใช้ความรุนแรง "ปู" ลั่นรัฐบาลอดทนเต็มที่แล้ว "ธวัช" เผยเตรียมใช้กม.พิเศษจัดการม็อบยาง

เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้(16 ก.ย.) ที่แยกควนหนองหงษ์ ต.ควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมชาวสวนยาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น กับชุดควบคุมฝูงชน เมื่อกลุ่มวัยรุ่นยิงหนังสติ๊กใส่เจ้าหน้าที่ จึงถูกตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา สลับกับกลุ่มวัยรุ่นปาก้อนหินใส่เป็นระลอก ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายอยู่พักใหญ่ และนายจรูญ ยศชู อายุ 40 ปี ชาวหมู่ 2 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด ซึ่งสติไม่ดี ถูกตีที่ศีรษะจนบาดเจ็บ เนื่องจากเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว

โดยเหตุปะทะเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นระลอก ตำรวจต้องถอยร่นเข้าไปในสวนยางพารา จากนั้นมีการเผารถยนต์ 6 ล้อ รถคุมขังผู้ต้องขัง และรถยนต์ 191 รวมกว่า 10 คัน โดยชาวบ้านระบุว่าเป็นฝีมือของตำรวจ สร้างสถานการณ์ว่าเป็นฝีมือชาวบ้าน

ทั้งนี้ ช่วงชุลมุนมีการใช้อาวุธปืน และทำลายทรัพย์สินร้านเสริมสวย ตั้งอยู่ใกล้กับแยกควนหนองหงส์ โดยเจ้าหน้าที่ทุบทำลายรถจักรยานยนต์ มีกระบองปราบจลาจลที่หักแล้วทิ้งไว้เป็นหลักฐาน ยิงปืนเข้าไปในร้านจนประตูร้านและทรัพย์สินในร้านเสียหาย เก็บหัวกระสุนไว้ได้ และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อนายสมนาม ราชรงค์ ถูกกระสุนปืนบริเวณต้นขา ผู้ชุมนุมเก็บปลอกกระสุนปืนไว้ได้เช่นกัน

นอกจากนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่ามีชายฉกรรจ์กว่า 30 คน ใช้ผ้าปิดหน้าและโพกศีรษะ แต่งกายเหมือนชาวสวนยาง ซึ่งกลุ่มลูกขวานลอยลม ที่มาร่วมชุมนุมยืนยันว่าไม่รู้จัก โดยชายฉกรรจ์ได้ก่อเหตุเผารถ 3 คันที่จอดอยู่หน้าป้อมยาม หลังจากเผาเสร็จก็แทรกซึมไปกับมวลชนในพื้นที่และหายตัวไป

หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ถอยร่นไปรวมที่สภ.นาบอน ห่างจากพื้นที่ชุมนุมประมาณ 20 กิโลเมตร โดยมีตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายนาย เช่นเดียวกับฝั่งผู้ชุมนุมก็บาดเจ็บหลายรายเช่นกัน

พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวาณิช ผบช.ภ.8 กล่าวว่า กลุ่มวัยรุ่นใช้หนังสติ๊ก ขวดใส่น้ำมันจุดไฟ รวมทั้งน้ำกรด ขว้างใสเจ้าหน้าที่จึงต้องสั่งถอนกำลังออกมา ส่วนอาวุธนั้นกำลังสำรวจว่าสูญหายหรือไม่อย่างไร ขณะเดียวกันได้ตั้งด่านสกัดสิ่งของผิดกฎหมาย ตรวจยึดลูกแก้ว หัวน็อต ลูกเหล็ก ที่ใช้ยิงกับหนังสติ๊กได้จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้รถยนต์ของตำรวจ 11 คัน ถูกไฟไหม้ และรถกระบะอีก 1 คัน ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นของใคร ส่วนยอดผู้ชุมนุมช่วงค่ำ ณ เวลา 19.20 น. มีกว่า 3,500 คน

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 06.00 น. พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม รองผบช.ภ. 8 พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ และพ.ต.อ.ภิญโญ หวลกสินธ์ รองผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมชุดกองร้อยควบคุมฝูงชน และชุดปฏิบัติการพิเศษกว่า 200 นาย จู่โจมเข้าเคลียร์พื้นที่การชุมนุมปิดถนนเอเชียทั้งฝั่งขึ้นและล่อง บริเวณแยกควนหนองหงษ์ ต.ควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยรื้อถอนสิ่งกีดขวางการจราจรออกจนหมด และสามารถเปิดการจรจรได้แล้ว และเสริมกำลังรวมกว่า 1,000 นาย ขณะที่ชาวสวนยางและปาล์ม ได้ระดมพลเพื่อชุมนุมกันใหม่อย่างต่อเนื่อง

เวลา 10.00 น. ชุดปฏิบัติการของกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นำโดยพ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รองผกก.กก.สส. พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน สว.สส. และกำลังนอกเครื่องแบบ ได้จับกุมนายชญานิน คงสง หนึ่งใน 11 แกนนำที่ถูกออกหมายจับไว้ได้ ขณะยืนดูเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ชะอวด ดำเนินคดี

เวลาไล่เลี่ยกัน นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช แถลงถึงการเคลียร์พื้นที่เพื่อเปิดการจราจรในช่วงเช้าว่า สืบเนื่องจากมีการทำลายป้อมตำรวจสายตรวจควนหนองหงษ์ ซึ่งเป็นความผิดอาญา ขณะเดียวกันอีกส่วนได้ใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เข้าเปิดเส้นทางจราจร และดำเนินคดีทางอาญาไปพร้อมกัน ในฐานความผิดกระทำอันตรายใดๆแก่การจราจร โดยการนำเครื่องกีดขวางมาขวางเส้นทาง

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการแถลงนายวิโรจน์มีสีหน้าเคร่งเครียด กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้รัฐบาลแทรกแซงราคายางพาราว่าไม่สามารถแทรกแซงได้ และทำไม่ได้แล้ว เนื่องจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติช่วยเหลือเงินชดเชยไร่ละ 2,520 บาท นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า จ.นครศรีธรรมราช กำลังเข้าสู่ช่วงงานบุญสารทเดือนสิบ และพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการเป็นมรดกโลก รวมทั้งกำลังถูกประกาศเป็นจังหวัดท่องเที่ยว เมื่อมีปัญหาการชุมนุมจึงได้รับผลกระทบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมนั้น คือ ประกันราคายางพารา 90 บาทขึ้นไป โดยไม่ส่งผลกระทบต่อกลไกการตลาด กำหนดให้ตั้งจุดรับซื้อเป็นทางการ และให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน ขายยางได้ตามที่ผลิตได้ในราคาตลาด แล้วให้รัฐบาลชดเชยส่วนต่างให้ชาวสวนโดยตรง ซึ่งจะทำให้ทุกส่วนในกระบวนการผลิตยางพาราได้ประโยชน์เท่าเทียมกัน ทั้งที่มีเอกสารสิทธิ และไม่มีเอกสารสิทธิ ไม่ใช่เรียกร้องให้แทรกแซงราคา

ข่าวแจ้งว่า นายวิโรจน์ไม่สบายใจกับการเสนอข่าวของสื่อหลายสำนัก ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ชุมนุม พร้อมข้อเรียกร้อง จึงประสานอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้จัดส่งทีมและอุปกรณ์ทั้งโทรทัศน์ช่อง 11 และสถานีวิทยุในเครือข่าย ประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือ การขึ้นทะเบียน และนำเสนอข่าวสารของทางราชการเป็นหลัก พร้อมทั้งให้มีทีมข่าวติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด 1 ทีม เน้นข่าวเชิงบวกเรื่องการช่วยเหลือ เพิ่มพื้นที่ข่าวผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการชุมนุม ทั้งเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ลดพื้นที่การเสนอข่าวการชุมนุมให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดกระแสที่เป็นลบต่อกลุ่มผู้ชุมนุม

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองเลขานุการคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา กล่าวว่า สาเหตุที่ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา เนื่องจากผู้ชุมนุมล้อมและทำร้ายเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบกลุ่มคนนี้ไม่ใช้เกษตรกร แต่มีนักการเมืองและนายทุนอยู่เบื้องหลัง นายทุนพวกนี้ต้องการให้รัฐบาลแทรกแซงหรือประกันราคา เพราะจะได้ประโยชน์ แต่เมื่อรัฐบาลไม่ทำตามก็เคลื่อนไหว

นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังผู้ที่มีความคิดปิดถนน หรือรุนแรงถึงขั้นเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ขอให้ยุติ ควรใช้เวทีพูดคุยมากกว่า เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้ตอบสนองข้อเรียกร้องชาวสวนยางในระดับที่เชื่อว่าเป็นที่พอใจของคนส่วนใหญ่แล้ว ที่เหลือน่าจะรับได้

"เรายืนยันแล้วราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 90 บาท ข้อเรียกร้อง 120 บาทต่อกิโลกรัมคงเป็นไปไม่ได้"

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้จบแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ทุกคนทราบดีถึงสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำจนเป็นที่พอใจของชาวสวนยางส่วนใหญ่ แต่ที่ยังมีประเด็นอยู่ไม่ใช่ด้านเศรษฐกิจ คงต้องขอให้ฝ่ายอื่นรับไปดูแล อย่างไรก็ตามขณะนี้แนวโน้มราคายางเป็นไปด้วยดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า การปิดถนนสร้างความเดือดร้อน และกระทบธุรกิจในภาคใต้ จะดำเนินการอย่างไร นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ต้องว่าไปตามกฎหมาย รัฐบาลมีหน้าที่คุ้มครองสิทธิของทุกคนในภาคอื่นด้วย

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพรรคเพื่อไทย เข้าใจความเดือดร้อนของชาวสวนยาง แต่ก็อยากให้พี่น้องเข้าใจรัฐบาลบ้าง หากราคาที่เรียกร้องมา 100 บาทนั้นให้ได้ คงให้ไปนานแล้ว คงไม่ปล่อยให้ปิดถนน ปิดทางรถไฟ ส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจ และสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน

"น่าสงสัยว่าทำไมกลุ่มสวนยางที่เหลือส่วนน้อยจึงไม่พอใจ ทั้งที่ส่วนใหญ่เขาพอใจหมดแล้ว แต่มายึดติดตัวบุคคลที่ส่งพล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาลงนาม แทนที่จะเป็นพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี อยากขอร้องว่า หากไม่อยากให้สังคมมองว่าการเมืองอยู่เบื้องหลัง ก็ขอให้รับข้อเสนอของรัฐบาล ที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ไม่ควรบิดเบือนว่ารัฐบาลไม่ใส่ใจ เพราะที่ผ่านมาถือว่าให้เกินกว่าความต้องการพื้นฐานมากแล้ว"

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า กลุ่มที่ปิดถนนและใช้ความรุนแรงรอบใหม่ พบว่า เป็นก๊วนเดิมแต่เพิ่มความรุนแรง แกนนำหลายคนถูกออกหมายจับ และส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นนอกพื้นที่ ดื่มสุรา หรือสารเสพติดระหว่างชุมนุม ทำให้คึกคะนอง ขับจักรยานยนต์วนเวียนไปมา มีการใช้อาวุธปืน แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งต้องแยกให้ชัดว่า คนที่ทำความผิด ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ใครเข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุ จะร่วมหรือไม่ร่วมกันปิดถนนก็ต้องรับผิดชอบในกรณีฝ่าฝืนกฎหมาย

นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพล.ต.ต.ธวัช ระบุว่าเป็นม็อบที่มีการเมืองหนุนหลังว่า ในฐานะที่พรรคพื้นที่ ขอปฏิเสธว่าพรรคและส.ส.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เพราะพี่น้องชาวสวนยางเดือดร้อน และไม่พอใจความช่วยเหลือไร่ละ 2,520 บาท เพราะเขาขอให้แทรกแซงราคายางให้สูงขึ้น อีกทั้งเป็นการแสดงออกของชาวบ้านบางพื้นที่ และบางพื้นที่เคยจับอาวุธต่อสู้อำนาจรัฐในยุคถูกกดขี่ข่มเหงมาแล้ว จึงไม่แปลกที่จะแสดงออก

การที่คนในรัฐบาลท่องสูตรเดิมว่ามีนักการเมืองหนุนหลัง อีกทั้งไม่เต็มใจให้ความช่วยเหลือชาวสวนยาง เป็นการใช้คำพูดที่ดูถูกประชาชน ซึ่งส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะตัวแทนชาวบ้านจำเป็นต้องลงไปรับฟัง และโดยหน้าที่ของรัฐบาล คือ การแก้ไขปัญหา ไม่ใช่แก้ตัว ปัดสวะให้พ้นตัว

"ผมขอให้พล.ต.ต.ธวัช และนายกรัฐมนตรีปรับเปลี่ยนวิธีคิด ตั้งใจรับฟังปัญหา ไม่ใช่ตั้งธงและใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นว่าอยู่เบื้องหลัง การที่ม็อบยอมเปิดทางหลังการเจรจาก็ชัดเจนว่า เขาเพียงต้องการแสดงออกถึงความไม่พอใจ รัฐบาลไม่รู้ปัญหา หรือแกล้งโง่กันแน่"

ด้านส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องดังนี้ 1.ให้นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ตำรวจยุติการเผชิญหน้าทุกรูปแบบ กับประชาชนและเกษตรกร เพื่อลดความตึงเครียดและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย 2.ให้รัฐบาลใช้ความพยายามพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้อง ให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว 3.ให้รัฐบาลทบทวนท่าที และกรอบการแก้ปัญหาราคายางพารา เพราะรัฐบาลยืนยันในวิธีการที่เชาวสวนยางจำนวนมากไม่ยอมรับ ดังนั้นรัฐบาลต้องมีกลไกเจรจาต่อไป เพราะจะคลี่คลายปัญหาได้ 4.ให้รัฐบาลยุติการใช้กลไกของตนเอง ใส่ร้ายป้ายสีเกษตรกรผู้เดือดร้อน โดยเฉพาะมีนักการเมืองโพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลัง เพราะบิดเบือนข้อเท็จจริง ฉวยโอกาสใส่ร้ายเพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเงื่อนไขของผู้ชุมนุมชาวสวนยาง ที่ระบุว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลังว่า ฝ่ายที่ติดตามและความมั่นคงทราบข้อเท็จจริงแล้ว โดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา ที่มีพล.ต.อ.ประชา เป็นประธาน ได้ทำข้อตกลงกับตัวแทนเกษตรกรแล้ว จึงขอความร่วมมือว่าควรทำตามที่ได้ทำข้อตกลงกันไว้

"วันนี้เราต้องพยายามใช้ความอดทนอย่างเต็มที่ และขอร้องว่ารัฐบาลไม่อยากเห็นการใช้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรมาเป็นเงื่อนไขจนเกิดผลกระทบจากการชุมนุม ที่ผ่านมารัฐบาลก็พร้อมแก้ปัญหาร่วมกัน การพูดคุยและตกลงกัน น่าจะเป็นทางออกมากกว่า รัฐบาลไม่ต้องการใช้ขั้นตอนของกฎหมาย จึงพยายามใช้วิธีอะลุ่มอะล่วยมากที่สุด"

เวลา17.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมทำการเผารถ และมีผู้บาดเจ็บจากการปะทะกว่า 70 คนแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี สั่งให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษหรือไม่นั้น อยู่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะรวบรวมหลักฐาน และประเมินสถานการณ์ เสนอมายังรัฐบาล เพื่อขอใช้กฎหมายพิเศษ เข้าไปควบคุมสถานการณ์ ซึ่งตนยอมรับว่าสถานการณ์ขณะนี้ ไม่สามารถใช้กฏหมายปกติได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ยกเลิกภารกิจเป็นประธานพิธีเปิดโครงการส่งเสริมศักยภาพคนพิการขาขาด ที่ศูนย์สิรินทร เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพการแพทย์แห่งชาติ ที่กระทรวงสาธารณสุข เวลา 15.30 น. เพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมอย่างใกล้ชิด
กำลังโหลดความคิดเห็น