เมื่อโจรใต้เด็ดขั้วหัวใจ พญ.นุสรัตน์ เบญราฮีม สังหารโหด ร.ต.ท.อนาวิลก่อนเข้าพิธีวิวาห์

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-สถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้กลับมาทวีความร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อเกิดความรุนแรงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เริ่มจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดภายในโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง 2 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อ วันที่ 10 กันยายน ทำให้ทหารชุดร้อย ร. 5033 ฉก.ยะลา 11 เสียชีวิต 2 นาย และเย็นวันเดียวกันทหารพรานสังกัดกรมทหารพรานที่ 46 ก็ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในรถยกระบะอีก 1 นาย ที่ตลาดนัดบ้านลาแป หมู่ 2 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

ถัดมาวันที่ 11 กันยายน คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนปราบปราบการค้าน้ำมันเถื่อน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ เสียชีวิต 5 นาย บนถนนทุ่งยางแดง-สายบุรี หมู่ 7 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี

และเมื่อวันที่ 12 กันยายน คนร้ายบุกยิงถล่มทหารพรานเสียชีวิตอีก 3 นาย ขณะก่อสร้างห้องน้ำให้กับชาวบ้านที่หมู่ 3 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ส่วนที่จ.ยะลา โชคดีที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 13 พบระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังน้ำยาแอร์ หนักประมาณ 20 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในท่อลอดใต้ถนน ขณะลาดตระเวนตามเส้นทางบ้านสะเอะใน ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา และเก็บกู้ได้ทัน ไม่เช่นนั้นคงเกิดความสูญเสียเกิดขึ้นอีก

รวม 3 วัน สูญเสียกำลังทหารไป 6 นายและตำรวจ 5 นาย

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่สะเทือนใจที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น เหตุการณ์ที่โจรใต้ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มตำรวจชุดปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อน ศูนย์ปฏิบัติการณ์ตำรวจชายแดนภาคใต้ เสียชีวิต 5 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ต.สันติชัย ศาสตรประดิษฐ์ ร.ต.ท.อนาวิล อาคุณชาดา ด.ต.มะสูดิง มีสา จ.ส.ต.มะรอนิง ยูโซ๊ะ และจ.ส.ต.สมโภชน์ สมประสงค์ บนถนนชนบท บ้านจะมือฆา หมู่ 7 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี

เหตุที่สะเทือนใจก็เพราะหนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้คือ ร.ต.ท.อนาวิล อาคุณชาดา มีกำหนดเข้าพิธีแต่งงานกับพญ.นุสรัตน์ เบญราฮีม วันที่ 27 ตุลาคมนี้ ที่โรงแรมปาร์ควิว รีสอร์ท อ.เมือง จ.ปัตตานี รวมทั้งกำหนดจัดงานต้อนรับเจ้าสาวที่บ้านนราธิวาสในวันที่ 28 ต.ค.2556 ซึ่งขณะนี้ทั้งบิดา-มารดา และแฟนสาว ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยงานแต่งงานของทั้งคู่ได้มีการจัดเตรียม และแจกการ์ดแต่งงานแล้วบางส่วน พร้อมสั่งของชำร่วยเพื่อเตรียมแจกจ่ายไว้ในงานแล้ว

ที่สำคัญคือ ในวันที่ 10 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ร.ต.ท.อนาวิล อาคุณชาดา จะมีอายุครบ 28 ปีบริบูรณ์ด้วย

สำหรับครอบครัวอาคุณชาดา มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน นายอับดุลฮะกิม อาคุณชาดา บิดา และนางกาญจนา อาคุณชาดา มารดา ทั้งสองอายุ 60 ปี มีบุตรทั้งหมด 6 คน ได้แก่ น.ส.ลักขณา, น.ส.รัชดา, น.ส.อนุสรา, และ ร.ต.ท.อนาวิล เป็นคนที่ 4 มีน้องชายอีก 2 คน คือ ส.ต.ต.โซเฟียน และนายมนัสวิน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 3

นายอับดุลฮะกิม อาคุณชาดา บิดา บอกว่าถึงความสูญเสียครั้งนี้ว่า เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว เพราะอนาวิล เองเป็นที่รักของครอบครัวมาก เป็นเด็กดีไม่เคยทำให้ครอบครัวเสียใจ และการเข้ารับราชการตำรวจนี้ถือว่าเป็นความมุ่งมั่นที่อนาวิลตั้งใจทำให้พ่อแม่ การก่อเหตุของกลุ่มก่อความไม่สงบถือเป็นการก่อเหตุที่โหดร้าย ไร้ศาสนา ซึ่งหากขอได้ไม่อยากให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวไหนอีก

ด้านนางกาญจนา อาคุณชาดา มารดา กล่าวถึง ร.ต.ท.อนาวิล ว่า เป็นเด็กที่ดีมาก ทำอะไรจะนึกถึงพ่อแม่ตลอด ปกติจะโทรศัพท์มาเล่าถึงการทำงานทุกครั้ง ซึ่งครอบครัวเองก็เป็นห่วงมาก แต่อนาวิลจะพูดตลอดเวลาว่าไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ตาย เพราะความตายเป็นเรื่องของพระเจ้ากำหนด ส่วนการกระทำครั้งนี้ถือว่าเป็นการกระทำของกลุ่มคนที่ไร้ศาสนาที่โหดร้ายมาก

ขณะที่ น.ส.ลักขณา อาคุณชาดา พี่สาวคนโต กล่าวถึงนิสัยส่วนตัวของ ร.ต.ท.อนาวิล ว่า เป็นน้องชายที่เป็นห่วงครอบครัวมาก โดยเฉพาะพ่อแม่ อนาวิลจะเป็นห่วงที่สุด ทุกครั้งจะย้ำให้พี่น้องดูแลพ่อแม่ให้ดี และเมื่ออนาวิล ว่างก็จะเดินทางกลับบ้านมาอยู่กับครอบครัวเท่านั้น โดยไม่เคยทำตัวให้พ่อแม่เสียใจแม้แต่น้อย และทุกครั้งที่กลับมาบ้านก็จะยังคงนอนกับพ่อกับแม่ ส่วนการทำงานในบทบาทหน้าที่ตำรวจ อนาวิลก็ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี ซึ่งการย้ายสายงานจากงานสอบสวนไปงานสืบสวนเป็นความตั้งใจของอนาวิลที่อยากหาประสบการณ์ และทำแล้วก็จะบอกกับพี่ๆ ทุกครั้งว่าชอบ และสนุกที่ได้ลงพื้นที่ สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นกับน้องชาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 5 นายในครั้งนี้ ครอบครัวเชื่อว่าทางผู้ก่อเหตุมีการวางแผนมาอย่างดี ซึ่งอาจจะเป็นการล่อเจ้าหน้าที่ให้เข้าพื้นที่เพื่อก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะน้องชายเองรับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ ทั้งน้ำมันเถื่อน บุหรี่ และยาเสพติด

นอกจากนี้ ส.ต.ต.โซเฟียน อาคุณชาดา น้องชาย กล่าวว่า การเป็นตำรวจของตนเองนั้นถือว่าส่วนหนึ่งได้แรงใจสำคัญจากพี่ชาย และถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี ก่อนที่พี่ชายจะจากไปในครั้งนี้ได้ฝากฝังให้ตนเองดูแลพ่อกับแม่ ให้กลับบ้านมาดูแล ซึ่งหลังจากนี้ตนเองจะทำหน้าที่ลูกชายที่ดีของพ่อกับแม่ และทำตามที่พี่ชายฝากไว้

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ให้ข้อมูลว่า เหตุสังหารเกิดจากภัยแทรกซ้อน เป็นกลุ่มค้าน้ำมันเถื่อน ยาเสพติด และค้าของเถื่อน ที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อความไม่สงบอยู่ แต่คงไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบีอาร์เอ็นโดยตรง เพียงแต่ผู้ปฏิบัติการอาจเอากองกำลังมาใช้ เพราะพร้อมที่รับงานเพื่อหารายได้

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากความสะเทือนใจดังกล่าวแล้ว ในช่วงเวลาเดียวก็เกิดเหตุการณ์ที่ต้องจับตาไม่แพ้กัน เมื่อเว็บไซต์โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ รายงานการเปิดเผยจากแหล่งข่าวประเทศมาเลเซียว่า นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำบีอาร์เอ็น แจ้งกับแหล่งข่าวว่า รัฐบาลไทยตอบรับข้อเสนอ 4 ข้อ จาก 5 ข้อ แต่ยังไม่ได้ส่งเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรมายังบีอาร์เอ็น สำหรับข้อเสนอที่รัฐบาลไทยยังไม่ตอบรับ คือ ข้อที่ 4 ต้องยอมรับว่าชาวมลายูปาตานี มีสิทธิความเป็นเจ้าของเหนือดินแดนปาตานี

แหล่งข่าว กล่าวว่า นายฮัสซัน ตอยิบ บอกด้วยว่าการพูดคุยสันติภาพครั้งต่อไป จะเกิดขึ้นหลังวันอีดิ้ลอัฎฮาหรือวันอิดใหญ่(วันฉลองการเสร็จสิ้นพิธีฮัจญ์) วันที่ 20-21 ตุลาคม โดยที่ผ่านมามีทั้งเจรจาบนโต๊ะ และเจรจาแบบลับซึ่งมี 2 รูปแบบ คือ พูดคุยผ่านผู้อำนวยความสะดวก และผู้อำนวยความสะดวก เรียกตัวแทนบีอาร์เอ็นมาคุย จากนั้นจึงไปคุยกับตัวแทนฝ่ายไทย

ขณะที่ พล.ท.ภราดร แถลงภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปก.กปต.)ว่า สมช.ได้รายงานข้อเสนอ 5 ข้อของบีอาร์เอ็นให้ที่ประชุมทราบ ขณะนี้อยู่ระหว่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 4 ส่วนหน้า และกอ.รมน.ส่วนกลางศึกษาข้อเสนอ ขณะเดียวกันศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) จะหารือกับภาคประชาสังคม นักวิชาการ และนำเข้าสู่ที่ประชุมศปก.กปต.อีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปก่อนวันพูดคุยสันติภาพวันที่ 20 ตุลาคม

ทั้งนี้ พล.ท.ภราดรยอมรับว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีแนวโน้มที่จะรับข้อเสนอทั้ง 4 ข้อของบีอาร์เอ็นจริง เพียงแต่ยังไม่ได้ตอบรับอย่างเป็นทางการ เพราะอยู่ระหว่างการแสวงหาคำตอบ

“ข้อที่ 4 เรียกร้องสิทธิชาวมาลายูปัตตานีนั้น ยังต้องวิเคราะห์ให้ชัดเจนก่อน ส่วนข้อที่ 5 ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาคดีความมั่นคงทั้งหมด ก็มีปัญหาอยู่เช่นกัน เพราะต้องยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม และเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย เช่น ตำรวจ อัยการ ศาล เพราะเมื่อถึงศาลแล้วรัฐบาลไม่สามารถแทรกแซงได้ ต้องพูดคุยในกระบวนการยุติธรรม”เสธ.แมวอธิบาย

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ยืนยันเช่นกันว่า ว่า ทางการไทยยังไม่รับข้อเสนอ ซึ่งจะติดตามว่าที่มาของข่าวนี้เป็นอย่างไร ทั้งนี้อยากให้เน้นประเด็นพูดคุยจะสำเร็จมากน้อยเพียงใดจะดีที่สุด ขณะที่สื่อมวลชนควรระมัดระวังการนำเสนอข่าว เพื่อลดความขัดแย้ง และเพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ ส่วนการจะเกิดสันติภาพนั้นต้องใช้เวลา เพราะพูดคุยกันยังไม่ถึง 1 ปี จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจกระบวนการด้วย