ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 3
เวลากลางคืน กษิดิฐยืนด้อมๆมองๆอยู่ที่ข้างรั้ว ยศภัทรกับกมลาเดินออกมาจากบ้านแล้วมองลูกชายที่ชะเง้อมองไปทางบ้านนลิน ยศภัทรกระซิบกับกมลา
"ภาพนี้มันคุ้นๆนะแม่"
"ไม่คุ้นได้ยังไงล่ะพ่อ เวลาทำหนูบัวโกรธทีไร ก็มาดักรอเขาอย่างเนี่ย... อ่ะแฮ่ม"
กมลากระแอมให้ลูกชายได้ยิน กษิดิฐชะงักแล้วหันมายิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"คำถามเดิม กบมาทำอะไร"
"กบก็มา..."
ยศภัทรรีบพูดแทรก
"คำตอบเดิม ..ออกกำลังกาย"
กษิดิฐชะงักแล้วเฉไฉ
“ผมไม่ได้ออกกำลังกาย ผมมาดูพระจันทร์”
“คืนนี้เดือนมืด ไม่มีพระจันทร์” ยศภัทรบอก
ยศภัทรหันไปตบมือไฮไฟว์กับกมลา กษิดิฐเซ็ง
“ก็ได้ๆ ผมยอมรับก็ได้ว่าดักรอบัว”
กมลามองกษิดิฐอย่างรู้ทัน
“ยอมสารภาพไม่เหลือคมอย่างนี้ แปลว่าไปทำปัญหาให้หนูบัวโกรธอีกใช่ไหม”
ยศภัทรพูดล้อเลียนกษิดิฐ
“เอาน่าแม่ เดี๋ยวกบเอาของกินล่อ หนูบัวก็หายโกรธเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ... กษิดิฐ คอนเฟิร์ม”
“คราวนี้เอาของกินมาล่อเป็นถัง บัวก็ไม่สนแล้วล่ะพ่อ ไหนจะเรื่องแตงกวา ไหนจะเรื่องที่บัวต้องหาผู้ชายที่ไหนไม่รู้ไปโชว์เจ้านาย ทุกอย่างเป็นเพราะกบทั้งนั้น คราวนี้ นอกจากบัวจะไม่ยอมคุยกับกบ อาจจะเอาอีโต้มาฟันหัวกบเลยก็ได้”
นลินเดินเข้ามาหากษิดิฐด้วยหน้าตายิ้มแย้ม เรียกเสียงหวาน ลากเสียงยาว อย่างผิดคาด
“กบ”
พ่อ แม่ ลูกหันไปมองนลินอย่างแปลกใจ จนยศภัทรต้องกระซิบถามลูกชาย
“เรียกเสียงหวานขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะหนูบัวหายโกรธกบ ก็คงเพราะหนูบัวโกรธมากจนบ้า”
กมลาตีแขนยศภัทร นลินหันไปทางยศภัทร กมลา
“คุณลุง ลุงป้าขา บัวขอพากบไปออฟฟิศแป๊บนึงนะคะ ไปกันเถอะกบ เราเสียเวลามามากแล้ว”
นลินควงแขนกษิดิฐลากเขาไปที่รถของกษิดิฐ กมลาหันไปถามยศภัทร
“หนูบัวจะพาตากบไปไหนน่ะพ่อ”
กษิดิฐขับรถ นลินนั่งที่นั่งข้างคนขับ เขาขับรถไปและเหลือบมองเธอไป
“ถามจริงๆ บัวจะไปออฟฟิศกบทำไม”
“อยากรู้เหรอ”
กษิดิฐพยักหน้า
นลินยิ้มยียวน มีแต่คำสั่ง
“ไม่บอก ขับรถไป”
กษิดิฐทำหน้าเซ็งแล้วพึมพำกับตัวเอง
“ได้ที ข่มใหญ่เลยนะ ใครได้ไปเป็นเมีย...ซวยตาย”
อภิชาตินั่งรอแตงกวาอยู่ในบ้าน เธอเดินเข้าบ้านมาอย่างสบายใจ
“อ้าว คุณพ่อ ไหนว่าพรุ่งนี้มีประชุมที่สิงคโปร์ ไม่รีบเดินทางไปคืนนี้เหรอคะ”
“เลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นซะ”
แตงกวาเดินนิ่งไม่สนใจที่พ่อพูด อภิชาติดึงแขนลูกสาวไว้
“พ่อทนกับผู้ชายคนนี้มามากแล้ว พ่อเป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีนะ แต่มาโดนไอ้กระจอกที่ไหนไม่รู้ว่าตอกใส่หน้า ว่าไม่เอาลูกสาวตัวเอง เลิกกับมันซะ”
“ไม่ แตงกวาไม่มีวันเลิกกับกบ”
“ไม่เห็นเหรอว่ามันไม่ยอมแต่งกับลูก มีศักดิ์ศรีซะบ้างสิ”
“พ่อไม่เข้าใจหรอก เอาเป็นว่าแตงกวายืนยันว่างานแต่งงานของกบกับแตงกวาจะต้องเกิดขึ้น กบไม่อยากทำอะไรก็ไม่ต้องทำ แตงกวาจะจัดการทุกอย่างเอง ขอบคุณคุณพ่อที่อุตส่าห์เสียสละ เวลาอันมีค่ามาพูดเรื่องนี้”
แตงกวาเดินขึ้นบันไดไป อภิชาติมองตามลูกสาวแล้วคิดบางอย่าง ก่อนกดโทรศัพท์หาอณุกา
“ฮัลโหล...คุณณุกา ผมอยากจะคุยกับคุณ เรื่องแตงกวากับคุณติณณ์”
กษิดิฐเปิดประตูออฟฟิศนำนลินเข้ามา ภายในห้องมีโต๊ะและเก้าอี้ทำงานวางระเกะระกะ ยังไม่ได้จัดให้เป็นระเบียบ เขาเดินไปเปิดไฟและเปิดแอร์แล้วมองอย่างอยากรู้ว่านลินต้องการอะไร
“มาถึงออฟฟิศกบแล้ว บอกได้รึยังว่าบัวอยากมาทำไม”
นลินไม่ตอบ แต่มองรอบๆออฟฟิศของกษิดิฐ
“ออฟฟิศกบกว้างดีเนอะ แต่กบเพิ่งกลับ แล้วมาเปิดออฟฟิศอย่างนี้จะมีลูกค้าเหรอ”
“พูดอย่างนี้ ดูถูกสถาปนิกมืออาชีพมาก ตอนกบเรียนอยู่ที่โน้น กบทำงานให้รุ่นพี่ไปด้วย พอเขารู้ว่ากบกลับมา เขาเลยจะส่งงานจากบริษัทเขาให้บริษัทกบทำ ทีนี้กบก็จะได้คอนเนกชันแล้วก็หาลูกค้าเอาเอง”
“อืม ฟังดูเกือบเป็นคนมีสาระแหละ แล้วคอมพิวเตอร์กับเครื่องปริ้น ใช้ได้รึยัง”
“เครื่องข้างนอกน่ะยังใช้ไม่ได้ แต่เครื่องในห้องทำงานกบน่ะใช้ได้ ตกลงบัวต้องการมาทำอะไรที่นี่เนี่ย”
กษิดิฐยิ่งสงสัย
“ทำการ์ด”
กษิดิฐชะงัก แล้วคิด
“การ์ด หมายถึงการ์ดแต่งงานที่จะเอาไปให้ เจ้านายบัวน่ะเหรอ”
นลินยิ้ม
“อือฮึ”
“นี่แปลว่าหาเจ้าบ่าวได้แล้วใช่ไหม” กษิดิฐพูดเสียงหงุดหงิด
“อือฮึ”
“ไปได้มาจากไหน”
นลินมองกษิดิฐอย่างหมั่นไส้
“ข้างถนน”
กษิดิฐประชด
“นี่จนตรอกต้องไปเอาคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าเป็นแฟนเลยเหรอ”
“ ใช่ เป็นพวกหยาบคาย ปากเสีย งี่เง่า หน้าตาก็ทุเรศ หาดีไม่ได้เลย”
กษิดิฐเห็นนลินลอยหน้าลอยตาแล้วยิ่งหงุดหงิด
“มันเป็นใคร”
“ถ้าอยากรู้ก็รีบทำการ์ดสิ เดี๋ยวตอนใส่ชื่อเจ้าบ่าว บัวจะบอกว่าใคร”
กษิดิฐหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล เดินปึงปังเข้าห้องทำงานตัวเองไป นลินมองตามอย่างหมั่นไส้
กษิดิฐนั่งวาดแบบการ์ดแต่งงานในคอมพิวเตอร์อยู่ที่โต๊ะทำงาน นลินยืนคุยมือถือกับนันทิดา
“ค่ะแม่ มันเป็นงานด่วนจริงๆ เจ้านายบัวจะกลับมาพรุ่งนี้แล้ว บัวต้องรีบทำให้เสร็จ บอกพ่อให้นอนเถอะค่ะ ไม่ต้องรอบัวหรอก ...ค่ะแม่”
นลินกดวางสาย กษิดิฐกับมาถาม น้ำเสียงเหวี่ยง
“ตกลงเจ้าบ่าวชื่ออะไร”
“จะรีบรู้ชื่อเจ้าบ่าวไปทำไม ลายการ์ดยังเลือกไม่ได้เลย”
กษิดิฐหงุดหงิด
“จะเอาลายไหนก็มาเลือกสิแม่คุณ นั่งเล่นเกมส์อยู่ได้”
นลินยังเล่นเกมส์ต่อ
“กบชอบลายไหน ก็เอาลายนั้นแหละ”
“กบไม่ชอบเลยสักลาย การ์ดแต่งงานมีแต่ลายไทย ลายดอกไม้ สีหวานเลี่ยน..จะอ้วก”
นลินเหลือบมองกษิดิฐ
“หงุดหงิดอะไรนักหนา แค่ขอให้ช่วยทำการ์ดเองนะ กบสร้างปัญหาให้บัวต้องมาทำอย่างนี้นะ” นลินแกล้งจิ้มไปที่หน้าผากของกษิดิฐแล้วบอก
“เจียมตัวซะบ้าง”
กษิดิฐชะงักเถียงไม่ออก
“บัวคิดว่าทำอย่างนี้ แล้วเรื่องทุกอย่างจะจบเหรอ ถ้าเกิดเจ้านายบัวจะไปร่วมงานแต่งด้วย บัวไม่ต้องแต่งงานกับผู้ชายที่บัวไปคว้าจากข้างถนนจริงๆเหรอ”
“บัวก็บอกคุณอณุกาไว้ก่อนสิว่า บัวจัดงานเล็กๆ เชิญเฉพาะคนในครอบครัว คุณอณุกาไม่ไปยุ่งด้วยหรอก กบไม่ต้องถามมากหรอก รีบๆไปทำเถอะ นี่มันสี่ทุ่มกว่าแล้วนะ”
กษิดิฐประชด
“จะรีบไปไหน ตึกนี้ปิดไฟตอนเที่ยงคืน”
“จะบ้าเหรอ นี่มันตึกใจกลางเมืองนะยะ มีไฟเปิดทั้งคืน”
เวลาเดียวกัน แตงกวานั่งอยู่ที่โซฟากลางบ้านอยู่คนเดียว เธอนั่งคิดถึงกษิดิฐกับนลินที่ล้มทับกันอยู่ในระยะประชิด
แตงกวาปาหมอนอิงอย่างหงุดหงิด หันไปหยิบมือถือ
“ฮัลโหล ...สวัสดีค่ะพี่ต๋อง แตงกวาอยากปรึกษาเรื่องจัดงานแต่งค่ะ”
กษิดิฐนั่งเลือกแบบการ์ดอย่างเซ็งๆ
“กบว่าแบบนี้น่ะดีสุดแล้ว สีขาว เรียบๆ กบลืมไปว่างานแต่งในฝันของบัวต้องเป็นแบบเจ้าหญิง งั้นเอาการ์ดสีชมพู ลายฟู่ฟ่านี่ไหม”
ไม่ได้ยินเสียงตอบ เพราะนลินหลับอยู่บนโซฟาตัวเล็ก
“อ้าว ! ว่าแล้วเชียวว่าทำไมเงียบๆไป”
กษิดิฐลุกขึ้นไปยืนมองนลิน แล้วพึมพำ
“งานของตัวเองแท้ๆ แต่ดันมาหลับ”
กษิดิฐยืนเท้าเอวแล้วทำท่าชี้ที่ตัวนลินซึ่งกำลังหลับ แล้วทำท่าอาเรื่อง แต่พูดเสียงเบาเพราะ กลัวนลินตื่น
“ตกลงไอ้เจ้าบ่าวกำมะลอเป็นใคร กบอยู่ทั้งคน ทำไมไม่เอากบ แน๊ะ! ถามแล้วไม่ตอบ เดี๋ยวปั๊ดโบก” กษิดิฐพูดเสียงเบาทำมือเหมือนจะตบโบก
นลินขยับตัวเล็กน้อย กษิดิฐรีบพุ่งไปนั่งเก้าอี้ทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอยังคงหลับต่อ
กษิดิฐแอบมองนลินที่นอนหลับต่อ แล้วมองหาของบนโต๊ะเพื่อไปแกล้งเธอ เขาคิดบาง อย่างออก แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าของเธอมาเปิดดู แล้วหยิบถุงเครื่องสำอางค์ที่มีตลับอายแชโดว์ ออกมา เขาพยายามแปะอายแชโดว์สีเข้มๆที่ปลายนิ้วของเธอ แล้วเอาดินสอเขี่ยปลายจมูก
นลินเอามือที่เปื้อนอายแชโดว์ปัดหน้าตัวเอง ทำให้หน้าเธอเปื้อนอายแชโดว์เป็นริ้วตามรอยนิ้ว เขาปิดปากขำกองกับพื้น แล้วลุกขึ้นมาใช้ดินสอเขี่ยจมูกอีก
นลินลืมตาตื่น มองกษิดิฐที่ปิดปากขำอยู่
กษิดิฐมองเธอแล้วชะงัก แล้วแถเป็นปิดปากหาว
“กี่โมงแล้วน่ะกบ”
“จะเที่ยงคืนแล้ว”
นลินตาโต รีบลุกไปหากษิดิฐ
“เที่ยงคืน กบทำการ์ดเสร็จรึยัง”
“เกือบเสร็จ เหลือแค่ชื่อเจ้าบ่าว จะบอกได้รึยังว่าชื่ออะไร”
นลินยิ้มกรุ่มกริ่ม
“ชื่อเจ้าบ่าว นาย...”
ไฟทั้งออฟฟิศดับ พรึ่บ ! นลินคว้ามือถือมากดหน้าจอให้มีไฟขึ้นมา
“เฮ้ย ! ไฟดับได้ยังไงอ่ะกบ”
กษิดิฐยียวน
“สงสัยก็อตซิล่าบุกกรุงเทพฯมั้ง”
“นายกบ”
“กบเป็นสถาปนิกนะ ไม่ใช่การไฟฟ้า กบจะไปรู้เหรอ กบว่าเราออกไปข้างนอกดีกว่า พอไฟดับแล้วไม่มีแอร์อย่างนี้ มันจะหายใจไม่ค่อยออก”
กษิดิฐลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงาน นลินรีบเดินตามมาที่ประตูออฟฟิศ เขาเปิดประตู แต่เขาทำท่าเปิดเหมือนประตูไม่ออก นลินตกใจ
“อย่าบอกนะว่าประตูล็อก”
กษิดิฐทำหน้าเครียด แล้วค่อยๆหัวเราะ
“บัวนี่อำง่ายเหมือนเดิมเด๊ะ นี่มันชีวิตจริงนะ ไม่ใช่ละคร ไฟดับแล้วประตูล็อกให้เราอยู่ด้วยกันน่ะ”
กษิดิฐเปิดประตู แต่เปิดไม่ออก นลินมองกษิดิฐเซ็งๆ
“มุกนี้ ไม่ได้ผลแล้วล่ะกบ”
“อันนี้กบไม่ได้มุก ประตูล็อกจริงๆ”
นลินชะงัก
“จริงเหรอ”
นลินเข้าไปช่วยกษิดิฐเปิดประตู แต่เปิดไม่ออก
“ใครมาปิดประตูเนี่ย ไม่เห็นรึไงว่ามีคนอยู่”
ยามคนที่ 1 นั่งที่เคาน์เตอร์ ยามคนที่ 2 วิ่งกระหืดกระหอบมาจากในตัวตึกพลางบ่น
“ดีนะที่ฉันล็อกประตูออฟฟิศทุกบานเสร็จก่อนไฟดับ อยู่ๆจะมาปรับปรุงระบบไฟอะไรคืนวันพระก็ไม่รู้”
“แล้วก่อนล็อก แกดูรึเปล่าว่ามีคนอยู่ไหม”
ยามคนที่ 2 ชะงักบอก
“ไม่ได้ดู”
“อ้าว งั้นขึ้นไปดูเลย”
“แกไปด้วยกันสิ ฉันกลัวผี”
ยามคนที่ 1 ทำหน้าเซ็งแล้วเดินถือกระบอกไฟฉายไปกับยามคนที่ 2
ท่ามกลางความมืด ในออฟฟิศกษิดิฐ นลินหยิบมือถือมาจะกดโทร
“เดี๋ยวบัวโทรบอกยามให้มาเปิดประตู ดีนะที่มือถือไม่ได้แบตหมดเหมือนในละคร”
นลินกดมือถือ แล้วขาสะดุดกับขาเก้าอี้ จนถลาจะล้มลง กษิดิฐรั้งเอวเธอไว้ทัน แต่มือถือในมือเธอหลุดมือกระแทกพื้นจังๆ
“เฮ้ย”
นลินรีบเก็บมือถือมากดดู ไฟขึ้นที่หน้าจอปกติ เธอกดมือถือ
“นึกว่าเสียซะแล้ว ทำไมไม่มีสัญญาณล่ะ”
นลินยกมือถือหาสัญญาณ แต่ไม่มีสัญญาณ แล้วหันดูมือถือว่ามีอะไรผิดปกติ
“เฮ้ย ซิมหาย”
“ชีวิตต้องไม่ราบรื่นอย่างนี้แหละ สนุกแท้”
นลินเอามือถือส่องไฟหาซิมการ์ดมือถือ
“สงสัยตอนหล่น ซิมกระเด็นหลุดไปแน่เลย”
“ใช้มือถือกบก็ได้ ชาร์ตไว้นั่นน่ะ รับรองแบตไม่หมด ซิมไม่หาย”
กษิดิฐเดินไปหยิบมือถือที่เสียบสายชาร์ตอยู่ เขากดมือถือแต่ไม่มีแสง
“อ้าว ..ทำไมไม่มีแบตล่ะ”
นลินมองตามสายชาร์ตแล้วเห็นว่า กษิดิฐไม่ได้เสียบสายชาร์ตกับปลั๊กไฟ
“ก็กบไม่ได้เสียบปลั๊ก ! จะติดต่อใครยังไงล่ะเนี่ย”
กษิดิฐมองไอแพคของนลินแล้วคิดได้
“ไอแพดของบัวเปิดเฟสบุ๊กได้รึเปล่า”
“ได้สิ แบตยังมีอยู่”
“งั้นบัวก็แชตบอกเพื่อนที่ออนไลน์อยู่สิ ว่าให้มาช่วยเราหน่อย”
“เออ จริงด้วย ฉลาดสมไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา”
นลินเปิดไอแพคเพื่อหาว่าเพื่อนคนไหนออนไลน์ในช่องแชตอยู่บ้าง
“ให้มันได้อย่างนี้สิ ทีตอนไม่มีอะไรจะคุย ก็ออนไลน์กันทั้งคืน แต่ทีอยากคุย กลับไม่มีใคร ออนไลน์เลย”
กษิดิฐชะโงกหน้าไปมองหน้าจอไอแพค
“มีออนไลน์อยู่คนนึง นี่ไง”
นลินมองหน้าจอไอแพดอย่างเซ็งๆ
“นี่มันคุณอณุกา เขาอยู่สิงคโปร์ช่วยเราไม่ได้หรอก”
“ถ้าเราส่งข้อความไปบอกว่าติดอยู่ในตึก กบเชื่อว่าเจ้าของบริษัทใหญ่โตขนาดนี้ ต้องทำอะไรได้”
นลินมองหน้าจอไอแพดอย่างลังเลว่าจะรบกวนอณุกาดีไหม สุดท้ายนลินพิมพ์ข้อความจะส่งให้อณุกา
บรรยากาศสิงคโปร์ยามค่ำคืน ไอแพดของอณุกาวางอยู่บนโซฟาข้างๆกับกระเป๋า แล้วไฟหน้าจอไอแพดก็ดับ อณุกา ปราณนั่งคุยกับอภิชาติอยู่
“ความจริงท่านคุยทางโทรศัพท์ก็ได้นะคะ”
“ไม่เป็นไร ผมมีประชุมที่นี่อยู่แล้ว แล้วเรื่องนี้ผมก็ไม่อยากคุยทางโทรศัพท์ ผมอยากคุยเป็นจริงเป็นจัง ตกลงคุณติณณ์จะกลับมาเมื่อไหร่”
“อีก 3 เดือนค่ะ”
อภิชาติถอนใจด้วยความหนักใจ
“นี่ถ้าแตงกวาไม่มัวตามนายกษิดิฐ ผมคงส่งแตงกวาไปเกาหลีแล้ว จะได้รู้จักกับคุณติณณ์สักที”
“ขอโทษนะครับท่าน กษิดิฐนี่ใครเหรอครับ” ปราณถาม
“อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนของน้องแตงกวา”
อภิชาติถอนใจอย่างไม่ค่อยพอใจเมื่อนึกถึงกษิดิฐ
“ผมไม่ยอมรับผู้ชายห่วยๆคนนั้นเป็นอะไรกับลูกสาวผมหรอก มันไม่มีอะไรคู่ควร ผมอยากให้มันออกไปจากชีวิตแตงกวาสักที”
“ใจเย็นๆนะคะ ถ้ามีอะไรที่ณุกาช่วยได้ ท่านก็บอกเลยค่ะ เพราะท่านก็ช่วยบริษัทของณุกาไว้มากจนณุกาไม่รู้จะตอบแทนยังไง”
“ผมอยากให้แตงกวารู้จักกับคุณติณณ์เร็วๆ”
“ท่านหมายความว่า...”
นลินกับกษิดิฐเดินสวนกันไปมาในความมืดจนเดินชนกัน ทั้งคู่ร้องขึ้นพร้อมกัน
“โอ้ย”
“เมื่อไหร่เจ้านายบัวจะตอบข้อความเนี่ย”
“เมื่อไหร่ไฟจะมาเนี่ย”
กษิดิฐกับนลินนั่งที่โซฟาอย่างเซ็งๆ แล้วดึงเสื้อขึ้นโบกลมให้ตัวเอง
“ไฟก็ดับ แอร์ก็ไม่มี ช่วงนี้ชีวิตบัวเป็นอะไรเนี่ย มีแต่เรื่องซวย รู้แล้วว่าความซวยมาจากอะไร"
กษิดิฐเซ็ง แล้วลุกขึ้นถอดเสื้อ นลินตกใจ
"กบถอดเสื้อทำไม"
กษิดิฐมองนลินด้วยสายตาหื่น
"ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ในที่มืดสองคนลำพัง คิดว่ากบถอดเสื้อทำไมล่ะ"
นลินถอยกรูดไปคว้าเก้าอี้เตรียมตีกษิดิฐหากมีอะไรเกิดขึ้น
"ลองทำอะไรบ้าๆสิ บัวจะฟาดให้หัวแตกเลย"
กษิดิฐหัวเราะ
"อย่างบัว กบไม่ทำหรอก"
"ดี ที่ยังรู้จักผิดชอบชั่วดี"
"ที่ไม่ทำ เพราะเห็นแล้วไม่รู้สึกสยิว ก็อากาศมันร้อน ถ้าบัวร้อน จะถอดเสื้อบ้างก็ได้นะ"
"จะบ้าเหรอ"
"โธ่ มืดขนาดนี้ ใครจะไปมองเห็นอะไร"
"ทำไมจะไม่เห็น บัวยังเห็นของกบเลย"
นลินเหลือบมองหน้าอกเปลือยเปล่าของกษิดิฐ แล้วรู้สึกเขินจนต้องหันหน้าไปทางอื่น
"มืดๆอย่างนี้ เรามาหาอะไรทำฆ่าเวลาดีกว่า" กษิดิฐแกล้งทำเสียงคราง...ฮือ... ใส่
นลินตีกษิดิฐ
"ทะลึ่งอีกแล้วนะกบ"
"กบหมายถึงเล่าเรื่องผี บัวนี่คิดแต่เรื่องทะลึ่ง เอ๊ะ ! นี่บัวคิดจะปล้ำกบรึเปล่า"
"นายกบ"
เสียงกรุ๊งกริ๊งเหมือนเสียงกุญแจดังเข้ามาในออฟฟิศ กษิดิฐได้ยินเสียงแล้วจุ๊ปาก
"บัวได้ยินเสียงอะไรไหม"
ยาม 2 คนเดินส่องไฟฉายตรวจดูออฟฟิศในตึก ยามคนที่ 2 เดินชิดยามคนที่ 1 เพราะกลัวผี
"แกจะเดินเบียดฉันทำไมเนี่ย"
"ก็มันมืด มันเงียบ มันวังเวง"
"มันไม่มีอะไรหรอกน่า"
ยามคนที่ 2 ได้ยินเสียงเหมือนมีคนคุยกันแล้วชะงัก
"เฮ้ย ! แกได้ยินเสียงอะไรไหมวะ"
กษิดิฐกับนลินพยายามจะฟังเสียง แต่แกล้งทำท่าตกใจ
"หรือว่าเรื่องที่เจ้าของเก่าเล่าจะเป็นเรื่องจริง"
"เรื่องอะไร"
กษิดิฐทำเสียงเล่าเนือยๆช้าๆ
"เขาบอกว่าชั้นนี้มีผียาม"
"จะบ้าเหรอกบ"
"จริงๆนะ เขาบอกว่าช่วงเที่ยงคืนกว่าๆ จะได้ยินเสียงคนเดินแล้วก็จะได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งๆเหมือนกุญแจ"
เสียงฝีเท้าคนเดินพร้อมเสียงกรุ๊งกิ๊งของกุญแจกระทบกันดังแว่วๆเข้ามา นลินได้ยินเสียงก็ชะงัก แล้วขยับมานั่งข้างกษิดิฐทันที
กษิดิฐแกล้งหลอกเสียงดัง
"แฮ่ !"
นลินตกใจถีบกษิดิฐกระเด็นจนหัวไปโขลกโต๊ะ
"โอ๊ย !"
"สมน้ำหน้า ดันมาแกล้งบัว"
กษิดิฐคลำหัวตัวเอง
"โดนมุมโต๊ะด้วย ไม่รู้หัวแตกรึเปล่า"
นลินจำใจเข้าไปคลำหัวของกษิดิฐ เพราะดูแผลที่หัวไม่ได้เพราะไฟดับ มองไม่เห็น
"ไหน ขอบัวจับหน่อยสิ"
นลินแกล้งคลำหัวแรงๆ กษิดิฐครวญคราง
"โอ๊ย อูย"
ยาม 2 คนพยายามฟังเสียง แล้วได้ยินเสียงครวญครางแว่วๆ
"เหมือนเสียงคนนะ หรือว่ามีคนติดอยู่ในออฟฟิศ"
ยาม 2ดึงเสื้อยาม 1 อย่างกลัวๆ
"ถ้าเสียงคน ก็น่าจะตะโกนให้รู้เรื่อง แต่นี่มาเป็นเสียงครวญคราง ฉันว่าไม่ใช่เสียงคนหรอก ไปเถอะ"
ยาม 2 ดึงยาม 1 วิ่งเข้าประตูหนีไฟไป
กษิดิฐคลำหัวปอยๆ แล้วพยายามฟัง
"คงเป็นเสียงยาม เสียงหายไปแล้ว สงสัยยามไปแล้วล่ะ"
นลินตีกษิดิฐ
"เพราะกบคนเดียว ! เล่นอยู่ได้ แทนที่จะได้ตะโกนเรียกยาม ดูสิ ! คืนนี้คงได้ติดที่นี่กันแน่ๆ การ์ดก็ยังทำไม่เสร็จ"
นลินนั่งอย่างเซ็งๆแล้วหาวอย่างเหนื่อยๆ กษิดิฐมองเห็นใจ
"เอาน่า เดี๋ยวไฟมาแล้วกบจะรีบทำการ์ดให้"
"ตกลงชื่อเจ้าบ่าวชื่ออะไร"
"เดี๋ยวไฟมาแล้วจะบอก"
"ท่าทางจะอีกนาน งั้นบัวก็นอนไปก่อนเลย เดี๋ยวไฟมาแล้วกบจะเรียก"
นลินเดินเข้าไปในห้องทำงานกษิดิฐ
นลินนอนที่โซฟาแต่อากาศร้อนจึงพลิกตัวไปมา เขาค่อยๆย่องเข้ามาแอบดูว่า เธอหลับรึยัง ก่อนจะเดินไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่วางบนโต๊ะมาโบกลมให้นลิน
เธอลืมตามามองเขาอย่างแปลกใจ
"มองอะไร ถ้าไม่อยากให้พัดก็ถอดเสื้อสิ จะได้ไม่ร้อน"
"ตาบ้า"
นลินนอนหันหลังให้ กษิดิฐใช้หนังสือพิมพ์โบกลมให้นลิน
"บัวหลับรึยัง"
นลินไม่ตอบอะไร
"สงสัยหลับแล้ว งั้นถอดกางเกงนอนดีกว่า"
นลินรีบพูด
"ยังไม่หลับ !"
กษิดิฐมองนลินขำๆ แล้วมองยังท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านหน้าต่าง
อ่านต่อหน้า 2
ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 3 (ต่อ)
บรรยากาศท้องฟ้ายามเช้าสดใส ในที่พัก เมืองเกาหลี ติณณ์ถอดเสื้อเปลือยอกเห็นหน้าอกล่ำกำลังวิ่งออกกำลังกายบนเครื่องลู่วิ่ง มือถือของติณณ์ดัง เขาหยุดวิ่งแล้วเดินไปหยิบมือถือมากดรับสาย เสียงอณุกาดังทักทาย
"มอร์นิ่งจ้ะ...ติณณ์"
"สวัสดีครับพี่ณุกา ไม่ยุ่งครับ พี่ณุกามีอะไรเหรอครับ"
อณุกาเดินคุยมือถือมาที่รถแวนคันหรูที่จอดรออยู่ ปราณเดินตามอณุกา
"พี่อยากถามว่างานที่นั่นเป็นยังไงบ้าง ทุกอย่างโอเคไหม ถ้าไม่มีปัญหาอะไร พี่อยากจะ..."
ติณณ์หยิบขวดน้ำมาดื่มพร้อมคุยมือถือกับอณุกาไปด้วย ติณณ์ชะงัก
"อะไรครับ ...พี่ณุกาอยากให้ผมกลับก่อนกำหนดเหรอครับ"
ติณณ์นิ่ง ยังไม่ให้คำตอบ
กษิดิฐเปลือยท่อนบนนั่งทำการ์ดต่ออยู่ที่โต๊ะทำงาน นลินยืนดูงานอยู่ข้างๆ แล้วเหลือบมองมัดกล้ามของเขา
"นี่กบ แอร์มันเย็นแล้วนะ ใส่เสื้อได้แล้ว"
กษิดิฐมองนลินอย่างกรุ่มกริ่ม
"หวั่นไหวกับซิกแพกของกบล่ะสิ"
"อุจาดตาต่างหาก ใส่เสื้อเร็ว เดี๋ยวใครมาเห็นจะคิดเลยเถิด ภาพมันยิ่งให้อยู่ด้วย"
กษิดิฐหัวเราะ
"สมกับเป็นครีเอทีฟจริงๆ คิดอะไรสร้างสรรค์เกินจริง เดี๋ยวค่อยใส่ เสื้อมันเหม็นเหงื่อ" กษิดิฐมองหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วบอก
"เอาล่ะ... เกือบเสร็จแล้ว เหลือแค่ใส่ชื่อเจ้าบ่าวข้างถนน ชื่ออะไร"
นลินยิ้ม
"พิมพ์ชื่อตามนะ เจ้าบ่าวชื่อ ...ชื่ออะไรนะ"
กษิดิฐเซ็ง แล้วลุกจะไปนอนที่โซฟา
"นึกได้แล้วบอกนะ จะนอนต่อ"
นลินดึงแขนกษิดิฐไว้
"นึกออกแล้ว"
กษิดิฐทำหน้าเซ็งถาม
"ตกลงไอ้หมอนั่นมันชื่ออะไร"
"นาย กษิดิฐ เกียรติโยธา"
กษิดิฐจะกดแป้นพิมพ์แล้วชะงัก หันไปมองหน้านลิน
"เมื่อกี้บัวพูดชื่อใครนะ"
นลินยิ้ม
"เป็นเจ้าบ่าวให้บัวนะ"
เอ็ดดี้เดินนำแม่บ้านออกมาจากลิฟท์
"ขอโทษนะป้า ที่ผมไปตามป้ามาทำความสะอาดออฟฟิศแต่เช้า แต่ผมเป็นคนรักสะอาด ทำงานที่ที่มีฝุ่นเยอะๆไม่ได้ อี๋ ..ขยะแขยง"เอ็ดดี้คุยพร้อมทำท่าขนลุก
"ให้ป้าทำความสะอาดตอนนี้ ไม่รบกวนพนักงานคนอื่นเหรอ"
"อูย เช้าอย่างนี้ เฮียยังไม่มาทำงานหรอก"
กษิดิฐมองนลินอย่างอึ้งๆ
"บัวจะให้กบเป็นเจ้าบ่าวของบัวเหรอ"
นลินยิ้มประจบ
"อือหือ"
"แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก"
"เอ้า ถ้าบอกแต่แรกก็ไม่หนุกน่ะสิ ตกลงเป็นเจ้าบ่าวให้บัวนะ"
"ไม่"
กษิดิฐลุกเดินออกจากห้องทำงานไป นลินรีบตาม
กษิดิฐแอบทำหน้ายิ้มเดินออกจากห้องทำงาน นลินรีบวิ่งมาขวางหน้า
"กบต้องเป็น ที่บัวต้องเดือดร้อนอยู่นี่ ก็เพราะกบ กบต้องรับผิดชอบ"
กษิดิฐแกล้งยียวน
"คิดดูก่อน"
"ไม่ต้องคิดแล้ว เราแค่แต่งหลอกๆเหมือนตอนแต่งครั้งแรกไง พอคุณอณุกายอมให้บัวกลับไปทำงานทุกอย่างก็จบ"
กษิดิฐแกล้งทำท่าคิด
"จะยอมเสี่ยงเสียชื่อเสียงดีไหมหนอ"
นลินเซ็ง
"มันไม่ใช่เวลามาเล่นตัวนะกบ นี่มันเจ็ดโมงกว่า คุณอณุกากำลังจะมาแล้ว"
กษิดิฐกอดอกมองนลินอย่างผู้เหนือกว่า
"คนเรา...จะขอใครแต่งงาน เขาทำกันอย่างนี้เหรอ"
"จะเล่นอะไรอีกเนี่ย"
กษิดิฐทำหน้าเพ้อฝัน
"กบจำได้นะว่าบัวฝันว่าอยากให้ผู้ชายคุกเข่า จับมือแล้วพูด แต่งงานกับผมนะครับ เก๊าอยากได้แบบนั้นบ้าง"
"ไม่มีทาง !"
กษิดิฐเดินลอยหน้าลอยตา
"กลับบ้านดีกว่า"
นลินรีบขวาง
"เดี๋ยว ! ไม่คุกเข่าได้ไหม แค่จับมือขอแต่งงานอย่างเดียวพอ"
กษิดิฐแกล้งทำท่าคิด
"ยอมก็ได้ ถือว่าเรื่องนี้กบมีความผิดกึ่งนึง"
กษิดิฐยื่นมือให้นลินจับด้วยใบหน้ายียวน นลินจับมือ มองหน้ากษิดิฐที่ทำมืออังหูรอฟัง
"เร็ว รอฟังคำขอแต่งงานอยู่"
"กบ"
นลินมองหน้ากษิดิฐจับมือมากัด
"มือขาดซะเถอะ"
"อ๊าก"
กษิดิฐรีบดึงมือออกจากปากนลินบอก
"เจ็บนะบัว"
"สมน้ำหน้า รีบไปทำการ์ดเดี๋ยวนี้เลยนะ" นลินพูดพลางชี้นิ้วสั่ง
"ก่อนจะไปทำการ์ด ขอถามอีกคำเดียว เจ้านายบัวไม่เคยรู้ว่าบัวมีแฟน แล้วอยู่ๆบัวถือการ์ดแต่งงานไปวาง บัวคิดว่าเจ้านายจะเชื่อเหรอ"
รถแวนคันหรูของอณุกามาจอดหน้าตึก ประตูรถเปิดอัตโนมัติ อณุกาเดินลงจากรถ ปราณเดินตามลงมาคุยกันเรื่องว่า ถ้านลินเอาการ์ดแต่งงานและพาเจ้าบ่าวมาหาอณุกา อณุกาจะเชื่อหรือไม่เชื่อว่านลินแต่งงานจริงๆ ไม่ใช่โกหกเพื่อเอาตำแหน่งคืน
"แล้วคนอย่างฉันจะเชื่อนลินไหมล่ะ"
อณุกาพูดจบก็เดินมาดนางพญาเข้าตึกไป ปราณมองตาม คิดถึงนลินแล้วยิ้มเยาะ
"ยายบัว เอาเรื่องแต่งงานมาอ้าง ใครจะโง่เชื่อเธอ"
กษิดิฐนั่งทำการ์ดหน้าคอมพิวเตอร์ นลินชะโงกหน้าดูหน้าคอมพิวเตอร์เพื่อดูรายละเอียดและความผิดพลาด เขาหันมามองหน้านลินที่มีรอยเปื้อนอาย แชโดว์ กษิดิฐขำ"ขำอะไรอีกล่ะ"
นลินหันไปมองหน้าตัวเองที่กระจกหน้าต่าง เห็นว่าหน้าตัวเองเปื้อนเป็นริ้วรอยนิ้วมือ
"เฮ้ย ! แกล้งบัวตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"
นลินพยายามเอามือเช็ด แต่เช็ดไม่หมด
"กบเช็ดให้"
กษิดิฐใช้มือประคองหน้านลินให้หันมามองหน้าตัวเอง แล้วค่อยๆใช้นิ้วเช็ดอายแชโดว์ออกจากผิวแก้มอย่างแผ่วเบา
เอ็ดดี้กับแม่บ้านเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา เห็นกษิดิฐที่เปลือยท่อนบน และมือที่ประคองหน้านลินเหมือนจะจูบ ทั้งคู่ก็ชะงักไป
นลินหยิบเสื้อให้กษิดิฐใส่ทันที ทำให้ภาพยิ่งเหมือน...
"อุ้ย ! เดี๋ยวผมออกไปทำงานข้างนอกแล้วกันนะเฮีย"
เอ็ดดี้ดึงแม่บ้านออกจากห้องไป
เอ็ดดี้ปิดประตูห้องทำงานของตัวเอง แล้วหันมาพูดกับแม่บ้าน
"วันนี้ไม่สะดวกแล้วล่ะป้า"
"ก็ว่าอย่างนั้นแหละ งั้นป้าไปก่อนนะ ต้องรีบไปเมาท์ เอ้ย..ไปทำงาน"
แม่บ้านรีบเดินยิ้มกรุ่มกริ่มออกไป
ภาพการ์ดแต่งงานที่ทำเสร็จสมบูรณ์ปริ้นออกมาจากเครื่องปริ้น เขาหยิบการ์ดมายื่นให้นลิน เธอก้มดูการ์ดอย่างพอใจ นลินคิดถึงแตงกวา
"ได้เวลาเซอร์ไพร์สแล้วสิ"
แตงกวาขับรถและคุยมือถือโดยใช้บลูทูธ
"พี่ต๋องวางแผนงานแต่งให้แตงกวาแล้วเหรอคะ ดีคะ เดี๋ยววันนี้ แตงกวาจะเข้าไปเลือก...ใช่ค่ะ กำหนดแต่งงานเดือนหน้าเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแน่นอน"
ประตูลิฟท์เปิด นลินและกษิดิฐในชุดใหม่ กษิดิฐใส่เสื้อเชิ้ตผูกเนคไท ดูดี
"ค่อยดูดี คู่ควรจะเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของบัวหน่อย ขอบคุณพี่รินทร์นะคะ ที่ช่วยเอาเสื้อผ้ามาให้บัวกับ กบเปลี่ยน"
"เรื่องเล็กน้อย ดีที่คุณกบใส่เสื้อไซส์เดียวกับพี่ภพ เลยไม่ไปต้องไปหา เอาล่ะ ! เสื้อผ้าพร้อม การ์ดพร้อม เจ้าบ่าวพร้อม เจ้าสาวล่ะ พร้อมรึยัง" ดารินทร์บอก
นลินยิ้ม
"พร้อมค่ะ"
"พี่ขออวยพรให้คุณอณุกาเชื่อว่าบัวจะแต่งงาน แล้วคืนงานให้บัวนะ"
"ขอบคุณค่ะพี่รินทร์ ... ไปกันเถอะ กบ"
กษิดิฐยื่นมือไปรอให้นลินจับ เธอมองหน้าเขา
"ไหนๆเราจะแต่งงานกันแล้ว ทำให้มันดูเป็นคู่ที่บ่มเพาะความรัก จนสุกงอมหน่อยสิ"
กษิดิฐยื่นมือรอ ดารินทร์พยักหน้าบอกนลินว่ายอมให้จูงมือเถอะ เธอวางมือบนมือของเขา เขากระชับมือของนลิน
กษิดิฐจูงมือนลินเดินไปทางห้องทำงานของอณุกา
มัญจาออกจากลิฟท์มาหาดารินทร์
"พี่รินทร์...บัวล่ะ"
"เดินไปโน้นแล้ว ก็เธออยากมาสายเอง ใครจะไปรอ"
ดารินทร์มองไปทางนลินกับกษิดิฐ
"ไม่รู้คุณอณุกาจะเชื่อว่าบัวกับคุณกบจะเป็นแฟนกันจริงๆรึเปล่า"
"ถ้าคุณอณุกาได้ยินข่าวลือนั้น ยังไงก็เชื่อ" มัญจาบอก
"ข่าวลืออะไร"
ในห้องทำงาน นลิน กษิดิฐยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานอณุกา กษิดิฐกับปราณต่างมองหน้ากันนลินผายมือไปทางอณุกา
"นี่คุณอณุกา"
แล้วนลินก็ผายมือไปทางปราณ
"แล้วนั่นก็..."
กษิดิฐรีบพูด
"คุณปราณ กบจำได้"
อณุกามองกษิดิฐกับปราณ
"เอ๊ะ เคยเจอกันเหรอคะ"
ปราณรีบชิงพูด
"ไม่หรอกครับ คุณบัวคงเล่าเรื่องผมให้ฟัง ใช่ไหมครับคุณบัว"
นลินกับกษิดิฐมองปราณแล้วยิ้มเยาะที่ปราณกลัว
"คุณอณุกาคะ"
"นี่แฟนบัวค่ะ กบ หรือ กษิดิฐ"
อณุกาชะงักกับชื่อ
"กษิดิฐ"
อณุกาหยิบการ์ดแต่งงานมาดูชื่อให้แน่ใจ แล้วมองทั้งคู่อย่างคิดๆ ขณะที่ทั้งคู่เห็นอาการแปลกๆของอณุกา ก็ลุ้นว่า เจ้านายจะเชื่อว่าเป็นความจริงหรือเปล่า
อณุกาวางการ์ดลงที่โต๊ะ
"ความจริงเธอไม่ต้องเอาการ์ดมาให้ ฉันก็เชื่ออยู่แล้วว่าเธอกับคุณกบเป็นอะไรกัน"
นลินดีใจที่อณุกาเชื่อ
"จริงเหรอคะ งั้นก็แปลว่า.."
"เธอกลับมาทำงานที่นี่ได้"
นลินดีใจแล้วหันไปจับมือกับกษิดิฐโดยไม่รู้ตัว ปราณมองทั้งคู่อย่างหมั่นไส้
"แปลกนะครับ ผมไม่เคยเห็นคุณบัวมีแฟนมาก่อน แต่อยู่ๆกลับมาแต่งงานตอนนี้ มันไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอครับ"
กษิดิฐอดพูดกัดปราณตอบไม่ได้
"ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะอยู่เงียบๆนะ"
ปราณมองหน้ากษิดิฐอย่างไม่พอใจ
"นี่คุณสองคนมีอะไรกันรึเปล่า" อณุกาถาม
กษิดิฐตั้งท่าจะแฉ แต่นลินแอบบีบมือห้ามไว้ และกระซิบบอก
"ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะดี อย่าทำมันพังอีกนะกบ"
กษิดิฐจำใจต้องปิดปากเงียบแล้วมองปราณอย่างท้าทาย นลินรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
"บัวขอบคุณนะคะที่คุณอณุกาเชื่อว่าบัวกับกบ แต่งงานกันจริงๆ"
อณุกายิ้ม
"เป็นใครก็ต้องเชื่ออยู่แล้ว ถ้าได้ยินข่าวลือนั้น"
"ข่าวลืออะไรคะ"
บริเวณร้านส้มตำริมถนน เวลากลางวันต่อเนื่องมา แม่บ้านคนที่เห็นเหตุการณ์นั่งกินส้มตำและคุยกับสามีที่เป็นยามเรื่องกษิดิฐกับนลิน
"เมื่อเช้าฉันเห็นกับตาเลย ตาสถาปนิกนั่นยังไม่ได้ใส่เสื้อเลย"
ยาม 1ตบเข่าฉาด
"นั่นไงล่ะ เมื่อคืนพี่ขึ้นไปดูแถวออฟฟิศนั้น ได้ยินเสียงคนครวญครางแว่วๆ ที่แท้..."
"พี่อย่าไปบอกใครนะ"
บริเวณทางเข้า ยาม สามีแม่บ้านคุยกับเพื่อนยามเรื่องกษิดิฐกับนลิน พนักงานหญิงที่เดินผ่านเข้าประตูแล้วได้ยินที่ยามพูด
พนักงานหญิงคุยกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงเรื่องกษิดิฐกับนลิน พนักงานชายเดินผ่านโต๊ะพนักงานหญิงไปได้ยินอีก
บริเวณลานจอดรถ พนักงานชายคุยมือถือเรื่องกษิดิฐกับนลิน รถคันด้านหลังพนักงานผู้ชายคนนั้น แตงกวาโผล่ขึ้นมาด้วยใบหน้าอึ้ง เธอไม่รอช้า รีบเดินเข้าภายในตัวตึกทันที
บริเวณโต๊ะทำงานของนลิน มัญจา ดารินทร์ สารัชคุยเรื่องข่าวลือของกษิดิฐกับนลินกันอยู่สารัชร้องไห้ยอมรับไม่ได้
"วันนี้มันวันฟ้าถล่ม หัวใจสลายของผมจริงๆ ไหนคุณบัวจะเอาไอ้หมอนั่นเป็นเจ้าบ่าว ไหนจะข่าวลือบาดใจนั่นอีก ผมจะขาดใจ"
มัญจากับดารินทร์มองสารัชอย่างเซ็งๆ
"เว้ย ! ฉันบอกนายแล้วไงว่าเมื่อคืนบัวกับคุณกบแค่ทำการ์ดเฉยๆ" ดารินทร์ว่า
สารัชฟูมฟาย
"นั่นแหละครับ ทำไมผู้ชายที่อยู่กับคุณบัวทั้งคืนไม่เป็นผม"
มัญจาเซ็ง หันไปถามดารินทร์
"ขนาดนายสารัชที่รู้เรื่องกบกับบัวอยู่แล้ว ยังฟูมฟายขนาดนี้ แล้วถ้าแตงกวารู้ล่ะ"
แตงกวาพุ่งเข้ามาตบโต๊ะกลางวงเมาท์ดัง ปัง ! มัญจา ดารินทร์ตกใจ สารัชหุบปากหยุดร้องไห้ทันที
"ยายบัวอยู่ไหน"
ทั้ง 3 คนมองหน้ากันอย่างงงๆ แตงกวาพูดเสียงดังขึ้น
"ฉันถามว่ายายบัวอยู่ไหน"
ทั้ง 3 คนสมัครใจกันชี้ไปทางห้องทำงานอณุกาพร้อมกัน แตงกวาเดินไปทันที
"งานนี้ท่าจะมีแตกหัก"
มัญจาบอก
แตงกวาเปิดประตูเข้ามาในห้อง เห็นอณุกานั่งอยู่ที่โต๊ะกำลังดูการ์ดแต่งงานของนลิน ปราณยืนอยู่ข้างๆเหลือบมองการ์ดแต่งงานแล้วแอบทำหน้าไม่พอใจ นลินยืนอยู่หน้าโต๊ะอณุกา เธอกำลังอึ้งหลังจากที่ฟังอณุกาเล่าเรื่องข่าวลือให้ฟัง แตงกวาพุ่งเข้าไปหานลิน
"หาวิธีอื่นไม่ได้แล้วใช่ไหม ถึงต้องทำอย่างนี้จับกบของฉันน่ะ"
"เดี๋ยวก่อนนะน้องแตงกวา นี่มันเรื่องอะไรกันจ้ะ"อณุกาถาม
"พี่ณุกาไม่ได้ยินข่าวคาวของบัวเหรอคะ"
"อ๋อ ...ข่าวนั้น"
"ผู้หญิงที่ทำตัวเละเทะแบบนี้ ไม่สมควรที่จะกลับมาทำงานในบริษัทของเราอีก"
"น้องแตงกวาพูดถูกที่นลินทำตัวไม่งาม แต่พี่เป็นคนสมัยใหม่ พี่เลยคิดว่าเรื่องนั้นไม่ผิด"
"ไปค้างคืนกับผู้ชายของคนอื่นอย่างนั้น มันไม่ผิดตรงไหนคะ"
"ผู้ชายของคนอื่นที่ไหน คุณกบเป็นเจ้าบ่าวของนลินนะจ้ะ"
แตงกวาอึ้งและงงว่า อณุกาพูดเรื่องอะไร อณุกาผายมือไปทางด้านหลังแตงกวา กษิดิฐยืนเกือบชิดผนังถัดจากบานประตู ทำให้แตงกวามองไม่เห็นเมื่อผลักประตูเข้ามา แตงกวาคาดไม่ถึง
แตงกวาเข้าไปหากษิดิฐ
"ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ กบร่วมมือกับยายบัวโกหกพี่ณุกา เพื่อทวงตำแหน่งคืนเท่านั้นใช่ไหม"
"ใจเย็นๆนะจ้ะน้องแตงกวา พี่คิดอยู่แล้วใครๆต้องคิดอย่างนี้ นลิน...ฉันคิดว่าเธอต้องพิสูจน์ให้เห็นแล้วล่ะว่า เธอไม่ได้หลอกฉัน"
นลินมองกษิดิฐด้วยใจภาวนาว่า สิ่งที่กลัวนั้นจะไม่เกิดขึ้น
"ในการ์ดนี่เขียนว่าเธอจะแต่งงานเดือนหน้าใช่ไหม"
"ใช่ค่ะ"
"มันนานไป ตอนนี้เธอกำลังมีข่าวลือไม่ดีด้วย เธอควรเลื่อนงานแต่งเป็นอาทิตย์หน้า"
นลินและกษิดิฐโพล่งขึ้นพร้อมกัน
"อาทิตย์หน้า"
"ฉันจะเป็นเจ้าภาพจัดงานให้เธอเอง"
นลิน กษิดิฐ งานเข้าอีกแล้ว
ปราณเปิดประตูห้องทำงานให้อณุกา
"ข่าวลือทำให้คุณเชื่อว่าคุณบัวแต่งงานจริงๆเหรอ"
อณุกายิ้มเจ้าเล่ห์
"เหตุผลที่ฉันเชื่อ มันไม่เกี่ยวกับข่าวลือหรอกปราณ แต่มันเป็นเพราะ..."
อณุกาหันไปมองหน้าปราณแล้วนึกถึงคำพูดอภิชาติที่บอกว่า กษิดิฐเป็นผู้ชายห่วยๆ
"อย่าเรียกว่าแฟนเลยครับ ผมไม่ยอมรับ หมอนั่นไม่มีอะไรคู่ควรกับแตงกวาเลย ผมคอยให้หมอนั่นไปแต่งงานกับคนอื่นซะ แตงกวาจะได้เลิกยุ่งกับมันอีก"
อณุกากดมือถือหาอภิชาติ
"ค่ะท่าน ณุกาจัดการนายกษิดิฐออกจากชีวิตน้องแตงกวาได้แล้วล่ะค่ะ"
อณุกาเดินคุยมือถือไปทางหน้าออฟฟิศเพื่อออกไปเจอลูกค้า ปราณมองตามอณุกา แล้วคิดแค้นกษิดิฐ
"ไอ้กษิดิฐ ! แกกับฉันได้คิดบัญชีกันแน่"
ในห้องทำงานอณุกา แตงกวามองนลินกับกษิดิฐอย่างโกรธและแค้น
"คอยดูนะ งานแต่งบ้าบอนี่ จะไม่มีวันเกิดขึ้น"
แตงกวาคว้าการ์ดแต่งงานจากมือนลินมาฉีกทิ้งแล้วเดินออกไปทันที
กษิดิฐกับนลินได้แต่ถอนใจเครียดอยู่ตรงนั้น
"เรื่องไปกันใหญ่แล้ว ทำยังไงดีล่ะกบ"
"มีอยู่สองอย่าง ยอมรับความจริงแล้วลาออกซะ หรือไม่ก็... ยอมแต่งงานกันอีกรอบ"
นลินทรุดตัวลงไปนั่งที่โซฟาอย่างเครียด กษิดิฐหันตัวมาแอบยิ้ม
อ่านต่อ 17.00 น.
ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 3 (ต่อ)
ภายในห้องทำงานนลินเวลาเย็น สารัชก้มหน้าทำงานแต่ไม่มีสมาธิ เงยหน้ามองกษิดิฐที่อ่านหนังสืออย่างหงุดหงิด หลายครั้ง สุดท้ายสารัชทนไม่ไหวก็ตะคอก
"ไปให้พ้น"
กษิดิฐสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ
"เฮ้ย... จู่ๆก็ตะโกนซะลั่นห้องเชื้อหมาบ้ากำเริบรึไง"
"ผมไม่เคยโดนหมาบ้ากัด แต่อาจจะบ้าจนคลุ้มคลั่งแล้วทำร้ายคุณ ถ้าคุณยังนั่งตรงนี้"
กษิดิฐรู้ว่าสารัชโกรธเรื่องนลินก็ยิ้มยั่ว
"คุณก็ได้ยินแล้วว่า ว่าที่เมียของผมบอกให้รอที่นี่ ขืนไม่รอว่าที่เมียก็โกรธผมตาย"
สารัชเดินย่างสามขุมเข้ามาหากษิดิฐอย่างเอาเรื่อง
"ไม่ไปใช่มั้ย"
กษิดิฐลุกขึ้นยืนพร้อมมีเรื่องกับสารัช
"ไม่"
สารัชมองกษิดิฐอย่างโมโห ตะคอกใส่หน้า
"งั้นผมไปเอง"
สารัชจะเดินออกจากห้อง กษิดิฐยิ้มขำ นลิน มัญจา ดารินทร์เดินเข้ามา
"คุณบัวมาพอดีเพื่อนคุณทำร้ายผม"
"กบ"
"กบยังไม่ได้ทำอะไรเค้าเลย"
"ทำ ทำมากด้วย"
ดารินทร์ถาม
"บอกมาสิว่าคุณกบทำอะไรนาย"
"ทำร้ายจิตใจด้วยการแย่งคนที่ผมรัก"
นลิน มัญจา ดารินทร์มองสารัชอย่างเซ็งๆ
"หยุดพล่ามเรื่องไร้สาระของนายเลยนะ เพราะบัวมีเรื่องสำคัญจะบอก" มัญจาบอก
นลินหันไปทางกษิดิฐ
"บัวตัดสินใจแล้วบัวจะแต่งงานกับกบ"
กษิดิฐมองหน้านลิน อย่างดีใจ สารัชตกใจสุดๆ
ห้องทำงานที่เกาหลี ติณณ์นั่งดูสตอรี่บอร์ดและคุยมือถือกับอณุกา
"พี่ณุกายังจะให้ผมกลับอาทิตย์หน้าเลยเหรอครับ"
อณุกานั่งคุยมือถืออยู่ในรถ ปราณนั่งอยู่ข้างๆและคอยหอมแก้มอณุกาอย่างอ้อนๆ
"ใช่จ้ะ พี่โทรคุยกับผู้จัดการที่นั่นแล้ว เขาบอกว่างานของติณณ์เรียบร้อยทุกอย่าง ติณณ์จะกลับก่อนสามเดือนก็ได้ กลับมาเถอะนะ จะได้ไปงานของนลิน"
ปราณแกล้งหอมซอกคออณุกา จนไม่มีสมาธิคุยมือถือต่อ
"แค่นี้ก่อนนะติณณ์"
อณุกากดวางสาย
ติณณ์ถือมือถือค้าง สงสัยที่อณุกาบอกว่าไปงานของนลิน
"ไปงานของคุณบัว ...งานอะไร"
ภายในรถอณุกา ปราณยังซุกไซ้หอมอณุกาอยู่ เธอแกล้งตีปราณหยอกๆ
"หยุดเล่นนะปราณ เห็นไหมว่าฉันคุยกับติณณ์ไม่รู้เรื่องเลย ฉันอยากให้ติณณ์มาเจอกับน้องแตงกวาจะแย่แล้วเนี่ย"
ปราณอ้อน
"ก็อยู่ใกล้คุณทีไร อดใจไม่ไหวสักทีนี่ครับ"
อณุกาผลักปราณอย่างหมั่นไส้
"ไม่ต้องมาพูดดี ฉันยังไม่สะสางกับเธอเรื่องของนลินเลยนะ"
ปราณชะงักแล้วทำหน้าซื่อ
"ผมบอกแล้วนี่ครับว่าผมไม่ผิด คุณบัวมายุ่งกับผมเอง ถ้าผู้หญิงดีจริงจะมีข่าวลือว่า ค้างกับผู้ชายในออฟฟิศอย่างนั้นเหรอครับ"
"ฉันรู้ ฉันแค่จะบอกว่าถึงนลินแต่งงานแล้ว ฉันก็ไม่ไว้ใจ นี่ถ้าไม่มีประโยชน์เรื่องงานกับเรื่องที่ดึงคุณกบไปจากน้องแตงกวา ฉันไม่เอาไว้แน่"
"แล้วคุณณุกาคิดว่าคุณแตงกวาจะยอมให้คุณกบ แต่งงานกับคุณบัวเหรอครับ"
อณุกายิ้มเยาะ
"แจกการ์ดขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ยอมแล้วจะทำอะไรได้"
บริเวณหน้าบ้านนลิน เวลาเย็น นันทิดาและกมลาช่วยกันตัดแต่งกิ่งต้นไม้ของคุณย่ายอแสง
"ไม่รู้ดาคิดไปเองรึเปล่า พอกบย้ายมาอยู่บ้านนี้ ดูต้นไม้ของคุณป้ายอแสงงามขึ้นนะคะ"
"สงสัยคุณแม่จะบอกเราว่าต่อไปบ้านเราจะมีความสุขเข้ามาแน่ๆ" กมลาบอก
รถแตงกวาขับมาจอดหน้าบ้านนลิน กมลากับนันทิดาหันไปมอง แตงกวาเดินลงจากรถด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว กมลากระซิบนันทิดา
"สงสัยฉันจะเดาผิด ที่เข้ามาคงไม่ใช่ความสุข เป็นพายุลูกใหญ่"
แตงกวายกมือไหว้กมลาและนันทิดาพอเป็นพิธี กมลาถอนใจ
"กบยังไม่กลับมาหรอกจ้ะหนูแตงกวา"
แตงกวายิ้มเยาะ
"แตงกวาไม่ได้มาหากบหรอกค่ะ แต่แตงกวาจะมาหาคุณพ่อคุณแม่ของบัว"
กมลากับนันทิดามองหน้ากันงงๆว่า แตงกวาจะมาหาชลัชกับนันทิดาทำไม
"หนูมาหาอาทำไมเหรอจ้ะ"
แตงกวามองหาชลัชอย่างใจเย็น
"นี่คุณพ่อของบัวยังไม่กลับใช่ไหมคะ งั้นรอก่อนดีกว่าค่ะ แตงกวาจะได้เล่าให้ฟังทีเดียว"
กมลาระแวงว่า ต้องมีเรื่องบรรลัยมาให้แน่ๆ
บนถนน กษิดิฐขับรถและผิวปากอย่างอารมณ์ดี นลินมองอย่างหมั่นไส้
"นี่กบ ถามจริงๆเถอะ กบไม่รู้สึกอะไรเลยรึไงที่ต้องมาแต่งงานหลอกๆกับบัวอีก"
"ไม่รู้สึก ดีซะอีก แตงกวาจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับกบ"
"ว่าแล้วเชียว ว่าทำไมยอมแต่งง่ายจัง ที่แท้มีผลประโยชน์แอบแฝง"
"เขาเรียกว่าน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า"
"งั้นกบก็ช่วยบัวคิดเลยว่าจะไปบอกพ่อยังไง ถ้าบอกว่าแต่งเพราะงาน พ่อไม่มีวันยอมแน่"
"งั้นก็ไม่ต้องบอกว่าแต่งเพราะงาน"
"แล้วจะให้บอกว่าแต่งเพราะอะไร"
กษิดิฐหันไปยิ้มทะเล้นแล้วทำมือเป็นรูปหัวใจให้นลิน
"ก็แต่งเพราะรักไง"
"เฮอะ ! พ่อไม่มีวันเชื่อหรอก"
กษิดิฐทำท่าคิด
"แหม...มันต้องมีทางให้พ่อบัวเชื่อสิน่า"
ชลัชลุกพรวดจากโซฟา เมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดจากแตงกวา
"ผมไม่เชื่อว่าบัวจะไปยุ่งกับนายกบ"
แตงกวายิ้มเยาะ
"งั้นคุณอาก็ไปถามคนที่บริษัทสิคะ ตอนนี้ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นว่า เมื่อคืนบัวนอนในออฟฟิศกับกบ"
"ไม่จริงหรอก บัวโทรบอกอาเองว่าทำงานทั้งคืน" นันทิดาบอก
"แหม ..บัวก็ต้องบอกอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ คงไม่มีลูกคนไหนบอกพ่อแม่ตรงๆ ว่าที่ไม่กลับบ้านเพราะไปนอนกับผู้ชาย"
กมลาโกรธ
"พอได้แล้วนะหนูแตงกวา หนูจะมาพูดอย่างนี้ทำไม"
"เพราะแตงกวาต้องการความยุติธรรมไงคะ ! ทุกคนก็รู้ว่ากบกับแตงกวาเป็นอะไรกัน แต่บัวกลับมาทำอย่างนี้ หรือว่าบัวไม่มีปัญญาหาผู้ชายแล้วคะ"
"มันไม่พูดเกินไปหน่อยเหรอหนูแตงกวา" ยศภัทรว่า
"หรือมันไม่จริงคะ คราวที่แล้วอ้างว่าคุณย่าป่วยเลยต้องแต่ง คราวนี้จะอ้างว่าอะไรอีก...หรือจะบอกว่าท้อง"
ชลัชเหลืออด
"พอได้แล้ว เชิญออกไปจากบ้านผมให้หมด ! ผมไม่ต้องการฟังใครพูดอะไรอีกทั้งนั้น เชิญ"
แตงกวามองชลัชอย่างยิ้มเยาะ
"หวังว่าคุณอาจะไม่รักลูก จนยอมให้ลูกเอาผู้ชายของคนอื่นไปนะคะ"
แตงกวายกมือไหว้แล้วเดินออกจากบ้านไป
แตงกวาเดินออกจากบ้านนลินพร้อมยศภัทรและกมลา กษิดิฐจะเลี้ยวรถเข้าบ้าน แต่เห็นรถของแตงกวาจอดอยู่หน้าบ้านนลิน กษิดิฐจึงรีบ จอดรถ
ทั้งคู่ลงจากรถมาเผชิญหน้ากับแตงกวา
"มาที่นี่ทำไม"
แตงกวายิ้มเยาะ
"เดี๋ยวเธอก็รู้"
แตงกวาพูดจบก็เดินผ่านนลินไปคุยกับกษิดิฐด้วยใบหน้ายิ้มปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
"พรุ่งนี้แตงกวาจะไปคุยกับเวดดิ้งแพลนเนอร์เรื่องงานแต่งของเรา กบไปกับแตงกวาด้วยนะ"
แตงกวาเดินสบายใจไปขึ้นรถ กมลาเข้าไปหากษิดิฐ
"ตกลงเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นตากบ"
กษิดิฐชะงักแล้วหันไปมองหน้านลินว่า แตงกวามาปล่อยระเบิดลูกใหญ่ไว้แล้ว กษิดิฐคิดได้ว่าจะใช้เหตุการณ์นี้ทำให้ชลัชเชื่อว่า กษิดิฐกับนลินรักกัน และแต่งงานกันได้ กษิดิฐหันไปจับมือ นลินสะดุ้งที่โดนจับมือ
"กบจะทำอะไร"
"พลิกวิกฤตเป็นโอกาส"
กษิดิฐจูงมือนลินเข้าบ้านไปทันที
ในบ้านนลิน ชลัชนั่งนิ่งพยายามข่มความโกรธของตัวเอง นันทิดามองสามีอย่างกลุ้มใจ กษิดิฐจูงมือนลินเข้ามาในบ้านพร้อม ยศภัทร กมลา ชลัชพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อกษิดิฐ
"แกกล้าดียังไงถึงทำลูกสาวฉันแบบนี้"
ยศภัทรดึงชลัชออกจากกษิดิฐ
"นี่คุณชลัช ใจเย็นๆก่อนสิ"
ชลัชโมโห
"ลองลูกสาวคุณโดนด่าว่าไปแย่งผู้ชายของคนอื่นบ้างสิ คุณจะใจเย็นไหวไหม"
"พ่อใจเย็นๆก่อนนะคะ บัวอธิบายเรื่องเมื่อคืนได้ คือว่า..."
กษิดิฐรีบพูดแทรกก่อนนลินจะทำเสียแผน
"บัวไม่ต้องแก้ตัวหรอก ไหนๆทุกคนก็รู้เรื่องแล้ว เรายอมรับความจริงเถอะ"
นลินมองว่า กษิดิฐกำลังพูดบ้าอะไร
"นายหุบปากไปเลย ฉันจะพูดกับลูกสาวฉัน" ชลัชบอก
"บัวบอกพ่อสิว่าเมื่อคืนบัวไม่ได้อยู่กับนายกบใช่ไหม"
"บัว เอ่อ บัวอยู่กับกบจริงค่ะ แต่ว่า..."
ชลัชไม่ฟังนลินพูดต่อ
"บัวทำอย่างนี้ได้ยังไงน่ะลูก บัวก็รู้ว่านายกบมันมีแฟนอยู่แล้ว จะไปยุ่งกับมันทำไม รู้ไหมว่าตอนนี้ชื่อเสียงของบัวป่นปี้ไปหมดแล้ว"
"คุณอาชลัชครับ"
"นายไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องในครอบครัวของฉัน"
"ผมไม่ยุ่งไม่ได้หรอกครับ ผมทำให้บัวเสียชื่อเสียง ผมต้อง รับผิดชอบ ผมจะแต่งงานกับบัวครับ"
พ่อแม่ทั้ง 2 ครอบครัวมองกษิดิฐอย่างคาดไม่ถึง เขาเดินมาโอบไหล่นลิน
"เราสองคนรักกัน"
นลินมองกษิดิฐ เล่นอย่างนี้เลยเหรอ ชลัชมองกษิดิฐอย่างโกรธที่สุดจนเหลืออด
"ฉันไม่เชื่อ"
ชลัชเดินขึ้นบันไดไปด้วยความโกรธ
กมลา ยศภัทร นันทิดางงไปหมดแล้ว มันเรื่องอะไรกัน
ในบ้านกษิดิฐ ทั้งกลุ่มยกเว้นชลัชนั่งอยู่ที่โซฟา
"หนูบัวบอกเจ้านายว่ากำลังจะแต่งงาน" กมลาว่า
"บัวกับกบเลยอยู่ทำการ์ดแต่งงานกันทั้งคืน" นันทิดาบอก
"แล้วคนก็เข้าใจผิด คิดว่าหนูบัวกับกบนอนด้วยกันในออฟฟิศ" ยศภัทรพูด
กษิดิฐยิ้มแหยๆ
"กบก็เลยใช้เรื่องนี้ อ้างขอบัวแต่งงานกับคุณอาชลัช น่ะครับ"
ผู้ใหญ่ 3 คนร้องขึ้นพร้อมกัน
"ตากบ"
กษิดิฐสะดุ้ง คิดว่าโดนด่าแน่ๆ เลยถอยไปยืนข้างหลังนลิน
"กบไม่ผิดนะครับ ที่กบทำเพราะช่วยบัว"
กมลายิ้มตอบ
"แล้วใครว่ากบทำผิดล่ะ"
"แต่จะบอกว่ากบ..." ยศภัทรพูดต่อ
นันทิดาพูดยิ้มๆ
"ทำดีมาก"
กมลากับนันทิดาจับมือกันอย่างดีใจ แล้วหันไปพูดกับรูปคุณย่ายอแสง
"ในที่สุด เด็กสองคนนี้ก็กลับมาแต่งงานกันอีกครั้งแล้วค่ะคุณแม่"
"ไม่มีใครว่าบัวเหรอคะ ที่บัวลงทุนแต่งงานเพื่องาน"
นันทิดายิ้มบอกลุกสาว
"แม่ว่าแน่ ถ้าบัวแต่งงานกับคนอื่น แต่นี่บัวแต่งงานกับกบ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ...แม่ไม่ว่าจ้ะ"
นลินมองกษิดิฐอย่างหมั่นไส้ที่นันทิดารักกษิดิฐเกิน ยศภัทรพูดอย่างตื่นเต้นดีใจ
"งั้นพรุ่งนี้เราพาผู้ใหญ่มาสู่ขอหนูบัวเลยไหมแม่ ไหนๆเจ้านายของหนูบัวก็จะจัดงานให้อาทิตย์หน้าอยู่แล้ว"
"ดีพ่อ งั้นเดี๋ยวคืนนี้แม่จะโทรสั่งดอกไม้ ไหนจะเลือกโรงแรม เลือกอาหาร แล้วยังจะจดชื่อแขกที่จะเชิญมางานอีก อุ้ย ! ตื่นเต้น"
นันทิดาบอกลูกสาว
"บัวก็ต้องรีบไปตัดชุดเจ้าสาวนะลูก ไหนจะเรื่องแหวนอีก"
กมลา นันทิดาตื่นเต้นเกิดเหตุ
"บัวว่าเราใจเย็นๆกันก่อนดีไหมคะ บางทีกบกับบัวอาจจะไม่ได้แต่งกันก็ได้ ถ้าพ่อไม่ยอม"
นันทิดายิ้มอย่างเชื่อมั่นว่าจัดการได้
"เรื่องพ่อไม่ต้องห่วง แม่จัดการเอง"
นันทิดาลุกขึ้นด้วยท่าทางจริงจังแล้วเดินกลับบ้านไป
"งั้นบัวไปก่อนนะคะ"
"ฝันดีนะจ้ะเมียจ๋า"
"นายกบ"
กษิดิฐยิ้มทะเล้น
"ก็ซ้อมไว้ก่อน เดี๋ยวแต่งไปแล้วจะได้คล่องปาก"
นลินมองกษิดิฐอย่างเซ็ง
"บัวคิดถูกหรือคิดผิดที่แต่งกับกบอีกรอบ"
นลินถอนใจแล้วรีบเดินตามนันทิดาไป กษิดิฐยิ้มด้วยดวงตาที่มีความสุข
ในห้องนอน ชลัชนั่งนิ่งเงียบอยู่บนเตียง นันทิดาเดินเข้ามาในห้องพร้อมลูกสาว
ชลัชเหลือบไปเห็นนลิน ก็ล้มตัวนอนและตะแคงหันหลังให้ นันทิดาพยักหน้าให้นลินไปคุยกับชลัช เธอเดินอ้อมไปยืนด้านที่ชลัชนอนตะแคงหันหน้า
"พ่อคะ"
ชลัชไม่อยากฟัง จึงพลิกตัวตะแคงหันหลังให้นลิน นลินเดินอ้อมมายืนด้านที่ชลัชนอนตะแคงหันหน้า
"บัวอยากบอกว่า.."
ชลัชไม่อยากฟัง พลิกตัวตะแคงหันหลังไปมาอีกหลายครั้ง
"บัวขอโทษ"
นันทิดาเดินมาจับมือให้กำลังใจลูกสาว
"บัวไปนอนเถอะลูก"
นลินเดินออกจากห้องไป นันทิดาเดินไปนั่งบนเตียงข้างๆตัวชลัช
"ดารู้ว่าคุณโกรธ แต่เราต้องยอมรับว่าเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ถึงคุณไม่อยากให้กบแต่งงานกับลูกบัว แต่มันเป็นวิธีเดียวที่รักษาชื่อเสียงของลูกบัวนะคะ"
ชลัชเอื้อมไปปิดไฟหัวเตียง เพื่อบอกให้นันทิดารู้ว่า ไม่ต้องการพูดหรือฟังอะไรอีก
นันทิดามองอย่างเข้าใจและเห็นใจ
"คุณลองคิดดูแล้วกันค่ะว่า ระหว่างความรู้สึกของคุณกับการรักษาชื่อเสียงของลูก คุณควรจะเลือกอะไร"
นันทิดาเดินออกจากห้องไป ชลัชพลิกตัวหันมามองนันทิดาที่เดินออกไป แล้วคิดตามคำพูดของอย่างเครียดๆว่า ถ้ายอมให้นลินแต่งงานกับกษิดิฐ จะมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตนลินบ้าง
กษิดิฐนั่งบนเตียงมองแหวนที่คล้องอยู่ในสร้อยคอ แล้วถอดแหวนออกจากสร้อยมาลองสวมที่นิ้วนางข้างซ้าย และมองรูปคุณย่ายอแสงพร้อมยิ้มกับคุณย่าอย่างมีความสุข
นลินเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบกล่องใส่ของจากชั้นบนของตู้เสื้อผ้า มาวางบนเตียงแล้วเปิดฝากล่องออก ภายในกล่องมีการ์ดแต่งงานของนลินกับกษิดิฐเมื่อครั้งแรก มีของชำร่วย และอัลบัมรูปถ่ายงานแต่งงาน เธอหยิบกล่องกำมะหยี่ใบเล็กจากในกล่องขึ้นมาเปิด แหวนทองคำขาวมีเพชรเม็ดเล็กอยู่ตรงกลาง นลินถอนใจเพราะไม่คิดว่าจะต้องกลับมาใส่อีกครั้ง
ในห้องพักที่เกาหลี ติณณ์นั่งเขียนโปสการ์ดให้นลินอยู่บนโต๊ะ
"ที่นี่อากาศดี วิวรอบๆออฟฟิศก็สวยมาก ถ้ามาทำงานที่นี่ คุณคงมีความสุข"
ติณณ์มองโปสการ์ดแล้วถอนใจด้วยความรู้สึกว่าเขียนไปก็เท่านั้น เพราะไม่ได้ส่งให้นลิน
ติณณ์เปิดลิ้นชัก แล้วหยิบปึกโปสการ์ด ประมาณ 5 ใบตามจำนวนวันที่เขามาอยู่เกาหลี ทุกวันเขียนถึงนลินแต่ไม่เคยส่ง เขาวางโปสการ์ดที่เพิ่งเขียนเสร็จลงบนกองโปสการ์ดนั้น
ติณณ์มองกองโปสการ์ดแล้วถอนใจเซ็งตัวเองที่ไม่กล้าส่งให้นลิน
ในห้องนอน แตงกวาเปิดนิตยสารเกี่ยวกับเวดดิ้งเพื่อดูแบบชุดแต่งงานอยู่ที่โซฟา
"กบต้องชอบสูทตัวนี้แน่ๆ"
แตงกวาหยิบโพสอิทแปะที่หน้ารูปนายแบบใส่สูท แล้วเปิดดูหน้าต่อไปอย่างมีความสุข
เช้าวันใหม่ ภายในบ้าน นลินเดินลงบันไดมาด้วยความรู้สึกกังวลเรื่องชลัช เธอมองหาชลัชแต่ไม่เจอ นันทิดาเดินเข้ามาจากหน้าบ้านด้วยอาการร้อนรน
"แม่...พ่อล่ะคะ"
"ไม่รู้เหมือนกันลูก ชุดทำงานก็ยังอยู่ แต่รถหาย"
นลินชะงัก กลัวว่าชลัชจะเครียดเรื่องตัวเองจนจะเป็นอะไรรึเปล่า เธอรีบวิ่งออกไปนอกบ้านตามหาชลัชทันที
นลินกับนันทิดาวิ่งออกมาจากในบ้าน ยศภัทรวิ่งออกกำลังกายกลับมาจากข้างนอกกำลังจะเข้าบ้านพอดี
"ว่ายังไงจ้ะว่าที่ลูกสะใภ้ วันนี้แต่งตัวสวยๆนะ ลุงนัดผู้ใหญ่มาสู่ขอหนูบัวเรียบร้อยแล้วน้า"
"คุณลุงเห็นพ่อบ้างไหมคะ"
ยศภัทรเห็นสีหน้ากังวลของนลินกับนันทิดาก็แปลกใจ
"ไม่เห็นนะ มีอะไรกันรึเปล่าหนูบัว คุณดา"
กมลานั่งรถตุ๊กตุ๊กกลับจากตลาดหน้าปากซอยมาลงหน้าบ้าน เธอรีบจ่ายเงินให้โซเฟอร์ แล้ววิ่งมาหานันทิดากับนลิน
"คุณดา คุณชลัชเขาไปไหนเหรอ เฮียขายปาท่องโก๋บอกว่า เห็นคุณชลัชขับรถพาตากบไปไหนไม่รู้ตั้งแต่เช้า"
ยศภัทรแกล้งตื่นเต้น
"หรือว่าคุณชลัชไม่อยากได้ตากบเป็นลูกเขย เลยลักพาตัวไปขายเขมร"
กมลาตีแขนสามี
"จะหยุดเล่นสักห้านาทีได้ไหม"
นลินคิดอย่างกังวล
"พ่อพากบไปไหน"
ชลัชขับรถอยู่นิ่งๆ โดยมีกษิดิฐนั่งอยู่ด้านข้าง
"เอ่อ ตกลงคุณอาจะพาผมไปไหนเหรอครับ"
"ถ้าทำได้ ฉันอยากพานายไปตาย" ชลัชพูดน้ำเสียงนิ่ง
กษิดิฐกลืนน้ำลายอย่างกลัวนิดๆ แล้วมองไปทางข้างหน้า ก็ชะงัก
"ที่นี่มัน..."
ชลัชดับเครื่องจอดรถ
"ลงไปสิ"
ชลัชเปิดประตูลงจากรถ กษิดิฐรีบเปิดประตูลงจากรถเดินตามชลัช
นลินยืนอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้านพร้อมกับโทรหาชลัช แต่ชลัชไม่รับสาย นลินกดวางสายอย่างเป็นห่วง นันทิดายืนอยู่ข้างๆ
"พ่อไม่รับน่ะค่ะแม่"
" ไปไหนของเขาน้า"
"พ่อคงเครียดเรื่องบัว กบเลยต้องซวยไปด้วย ทุกอย่างมันเป็นความผิดของบัวเอง"
"ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะโชคชะตาต่างหาก แม่เคยบอกบัวแล้วใช่ไหมว่า โชคชะตาเล่นตลกกับเราเสมอ แล้วบัวก็บอกว่า จะไม่มีความจำเป็นอะไรทำให้บัวกับกบแต่งงานกัน ตอนนี้ โชคชะตาก็ทำให้มีความจำเป็นนั้นแล้ว ใครจะไปรู้ว่าการที่พ่อหายไป โชคชะตาอาจจะพาพ่อไปเจอกับบางอย่าง ที่ทำให้พ่อยอมรับตากบก็ได้"
กมลากับยศภัทรพานายพลคำรณซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่จะมาสู่ขอนลินเข้ามา กมลาแนะนำนายพลคำรณให้นันทิดาและนลินรู้จัก
"นี่ท่านนายพลคำรณ ญาติของป้าเอง ท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่สู่ขอหนูบัวน่ะจ้ะ"
นลินกับนันทิดายกมือไหว้นายพลคำรณ
"เชิญนั่งพักตรงนี้ก่อนค่ะ"
นันทิดาผายมือไปทางเก้าอี้ที่โต๊ะสนามให้นายพลนั่ง
ยศภัทรกระซิบกมลา
"ผู้ใหญ่มาแล้ว แต่ตากบกับว่าที่พ่อตามันยังไม่มาเลย เราจะเอายังไงกันดี"
ทุกคนมองหน้ากันว่า ชลัชพากษิดิฐหายไปไหน
ชลัชเดินนำกษิดิฐมาที่เจดีย์เก็บกระดูกของคุณย่ายอแสง
"ฉันเชื่อว่าฉันกับคุณป้ายอแสงเหมือนกันอยู่อย่างนึง คือรักลูกบัวที่สุด อยากให้ลูกบัวมีชีวิตที่ดีที่สุด มีความสุขที่สุดและเจอผู้ชายที่ดูแลบัวได้ ฉันไม่เข้าใจ ว่าทำไมคุณป้าถึงคิดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นนาย"
"เอ่อ...ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน จะเรียกคุณย่ามาถามก็เกรงว่า คุณอาจะกลัวผี"
"นายกบ เพราะนายเป็นคนอย่างนี้ไง ปากเสีย ไร้สาระ เจ้าชู้ ไม่มีความรับผิดชอบฉันถึงไม่อยากให้ลูกบัวยุ่งกับนายนาย"
กษิดิฐถึงกับจ๋อยไป
"อา ...ครับ"
ชลัชมองกษิดิฐแล้วนึกถึงวันแต่งงานครั้งแรก
"ลูกบัวเป็นทั้งชีวิตและหัวใจของฉัน วันที่ลูกบัวแต่งงานกับนาย มันเป็นวันที่นายเอาดวงใจของฉันไปด้วย และวันที่นายหย่ากับลูกบัว ก็เป็นวันที่นายกระทืบดวงใจของฉันซะยับเยิน"
กษิดิฐมองชลัชอย่างรู้สึกผิด
"คุณอาครับ"
"ฉันบอกตรงๆว่าในใจฉันทั้งโกรธและแค้นนาย แต่วันนี้ฉันต้องลืมความรู้สึกของฉันเพื่อรักษาเกียรติของลูกบัว นายทำให้ฉันเชื่อหน่อยเถอะว่า สิ่งที่ฉันตัดสินใจ มันจะไม่ผิดพลาดอีก"
กษิดิฐมองอย่างเข้าใจว่าชลัชพามาที่นี่ทำไม กษิดิฐเดินไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าเจดีย์ และพูดกับรูปของคุณย่ายอแสงอย่างจริงจัง
"ผมขอสัญญาต่อหน้าคุณย่าว่า ผมจะดูแลปกป้องและทำทุกอย่างเพื่อบัว เหมือนที่คุณย่าเคยบอกผมมาตลอด ผมจะไม่ทิ้งบัวไปไหน ผมจะอยู่กับบัวไปจนกว่าบัวจะไม่ต้องการผม"
ชลัชมองกษิดิฐนิ่งๆ
ภายในห้องรับแขกบ้าน อณุกา ปราณ อภิชาตินั่งที่โซฟารับแขก เด็กรับใช้นำกาแฟและแซนวิชมาวางบนโต๊ะแล้วเดินออกไป อณุกาคุยกับอภิชาติต่อ
"น้องแตงกวายืนยันว่า พ่อของนลินไม่ยอมให้สองคนนั้นแต่งงานกันเหรอคะ"
ปราณได้ยินที่อณุกาพูดแล้วแอบยิ้มสะใจ
"ใช่"
"แต่ณุกาเชื่อว่า นลินกับคุณกษิดิฐต้องได้แต่งกันค่ะ"
"ถึงได้แต่ง คุณคิดว่างานแต่งของสองคนนั้นจะไปรอดเหรอ"
ปราณได้ยินที่อภิชาติพูดแล้วก็สนใจ
"อย่าบอกนะครับว่าคุณแตงกวาจะไปพังงานเขา"
อภิชาติถอนหายใจอย่างหนักใจ
นายพลคำรณยังนั่งที่โต๊ะกลางสนามหญ้าและกำลังยกกาแฟขึ้นดื่มจนหมดแก้ว กมลา นันทิดา ยศภัทรนั่งมองหน้ากันว่าจะทำยังไงต่อดี เพราะชลัชกับกษิดิฐยังไม่มา
"อีกสักแก้วไหมคะคุณพี่"
"ถ้าเพิ่มอีกแก้ว... ตาพี่คงสว่างทั้งอาทิตย์แน่"
บนโต๊ะมีแก้วกาแฟวางอยู่ 2-3 แก้ว กมลายิ้มแหยๆ นลินเดินถือมือถือเข้ามานั่งข้างๆแม่แล้วกระซิบบอก
"ทั้งพ่อ ทั้งกบยังไม่มีใครรับโทรศัพท์เลยค่ะแม่"
นันทิดากระซิบยศภัทร
"เอาไงดีคะคุณยศ"
" เล่นตลกให้ท่านดูฆ่าเวลาไหมล่ะครับ"
กมลาตียศภัทร
"พ่อนี่! พูดเล่นอยู่ได้"
นายพลคำรณถาม
"เอ่อ กมลา ตกลงเราจะเริ่มสู่ขอกันเมื่อไหร่ เดี๋ยวพี่ต้องไป ประชุมแล้วนะ"
"รอแป๊บนึงนะคะคุณพี่"
"พี่ว่าเราเลื่อนไปก่อนดีไหม ถ้าเราดื้อขอลูกสาวโดยที่พ่อเขาไม่เต็มใจ มันจะลำบากใจกันทั้งสองฝ่ายนะ"
"ผมเต็มใจครับ" เสียงชลัชดังขึ้น ทุกคนหันไปมองทางประตูหน้าบ้าน
ชลัชกับกษิดิฐเดินเข้าประตูหน้าบ้านเข้ามา ทุกคนลุกขึ้นเดินไปหา
"กบไปไหนมา" กมลาถาม
"เรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะแม่ ตอนนี้รีบสู่ขอบัวก่อนเถอะ ...กบอยากมีเมียแล้ว"
"นายกบ"
ยศภัทรพูดอย่างคึกครื้น
"ถ้าอย่างนั้น ก็เริ่มพิธีการเลยแล้วกันนะครับ"
ภายในบ้านนลิน กษิดิฐนั่งอยู่ข้างๆยศภัทร กมลา และนายพลคำรณ ส่วนนลินนั่งอยู่ด้านชลัชและนันทิดา ชลัชนั่งฟังนายพลคำรณพูดอย่างตั้งใจ
"ไม่ทราบว่าคุณพ่อเจ้าสาวจะติดขัด หรือขัดข้องอะไรไหมกับการสู่ขอเจ้าสาวครั้งนี้"
ทุกคนมองลุ้นว่า ชลัชว่าจะตอบว่าอะไร ชลัชนึกถึงคำสัญญาที่กษิดิฐให้กับตัวเองเอาไว้
"ไม่ครับ"
นลินโล่งอก กษิดิฐมองนลินแล้วยิ้มๆ ยศภัทร กมลา นันทิดาต่างดีใจ
ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 3 (จบตอน)
ยศภัทรบอกกับชลัช
"ทำผมลุ้นจนลืมหายใจเลยนะคุณพ่อตา"
"อย่ามาเรียกผมอย่างนั้น"
"ทำไมล่ะ อีกหน่อยเราก็ต้องดองกัน"
"ถ้าไม่เกิดเรื่อง อย่าหวังเลยว่าผมจะดองกับคุณ"
กมลาหันไปกระซิบนันทิดา
"ตัดชุดเลยนะคุณดา"
นันทิดากระซิบตอบ
"ไม่ต้องตัดหรอกค่ะ ดาเตรียมไว้แล้ว"
ฝ่ายคุณแม่หัวเราะกันคิกคักชอบใจ กษิดิฐแอบดีใจที่ได้กลับมาแต่งงานกับนลินอีกครั้ง
นลินคิดถูกแล้วใช่ไหมที่ตัดสินใจไปแบบนี้ แต่จะเปลี่ยนใจก็คงไม่ทันแล้ว
ในเวลาต่อมา รถนายพลเคลื่อนออกไป ชลัชมองหน้าทุกคน
"หมดเรื่องแล้วใช่ไหม"
ชลัชเดินเข้าบ้านไปทันที นลินมองตามพ่อแล้วหันไปมองกษิดิฐ
"เมื่อกี้กบกับพ่อไปไหนมา"
กษิดิฐแกล้งยียวน
"เรียก ว่าที่สามี ให้มันเพราะๆหน่อย เรียกพี่กบจ๋าสิ"
"ไม่เรียก ! บอกมาว่าไปไหน"
"เรียก ที่รักจ๋าก่อน แล้วจะบอก"
นลินหงุดหงิดแล้วหันไปทางกมลา
"คุณป้าคะ"
กมลายืนกอดอกมองลูกชายอย่างเอาเรื่อง
"ตากบ"
กษิดิฐแกล้งโอดครวญ
"โอ้โห ไม่ทันไรเมียกับแม่ผัวก็รวมตัวข่มเค้า"
นลินกับกมลาเรียกชื่อขึ้นพร้อมกัน
"นายกบ"
กษิดิฐขำ
"บอกแล้วคร้าบ พ่อบัวพากบไปวัดมา"
นลินแปลกใจ
"ไปวัด ไปทำไม"
กษิดิฐมองนลินแล้วนึกถึงคำสัญญา
นลินเดินเข้ามาหาชลัช
"บัวอยากจะมาขอบคุณพ่อ"
ชลัชหันมองลูกสาวนิ่งๆ
"จำไว้นะลูกบัว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ เป็นสิ่งที่ลูกเลือกแล้ว ถึงพ่ออยากจะห้ามลูกขนาดไหน แต่มันเป็นชีวิตของลูก ดังนั้นต่อไปวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ลูกต้องพร้อมที่จะ ยอมรับผลของมัน"
ชลัชมองนลินแล้วเดินขึ้นบันไดไป นลินเต็มตื้นกับความรักของพ่อ กษิดิฐเดินเข้ามายืนข้างๆ
"เอาน่า อย่างน้อยคุณอาชลัชก็ยอมให้แต่งแล้ว ทุกอย่าง จบ"
"กบลืมคนๆนึงไปรึเปล่า"
กษิดิฐนึกถึงแตงกวาแล้วชะงัก
"คงไม่ต้องบอกนะว่าถ้าคนๆนั้นรู้ว่าเราได้แต่ง มันจะเป็นยังไง"
"งั้นก็ไม่ต้องให้เขารู้"
"คงเป็นไปได้หรอก"
กษิดิฐชะงัก คิดว่าจะจัดการยังไงกับแตงกวา
บริเวณโต๊ะทำงาน แตงกวาคุยมือถือกับอภิชาติด้วยท่าทางตกใจ
"อะไรนะคะ คุณพ่อโดนรถชนที่แอร์พอร์ตเกาหลี แล้วพวกลูกน้องคุณพ่อไปไหนหมด ทำไมไม่ดูแลคุณพ่อล่ะคะ"
บริเวณลานจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิอณุกา ปราณยืนฟังอภิชาติคุยมือถือกับแตงกวา
"เอาเป็นว่าแตงกวามาหาพ่อที่เกาหลีวันนี้เลยนะลูก เดี๋ยวพ่อจะให้คนไปรอรับที่สนามบิน"
อภิชาติกดวางสายโดยไม่รอคำตอบจากแตงกวา
"ท่านรีบเดินทางเถอะค่ะ ณุกาโทรบอกติณณ์จองห้องพักไว้ให้ท่านที่โน้นแล้ว ส่วนน้องแตงกวา เดี๋ยวณุกาจะไปเกาหลีพร้อมน้องเอง" อณุกาบอก
ปราณรีบเสนอหน้าพูดอย่างเอาใจ
"แล้วทีนี้คุณแตงกวาก็ไม่รู้เรื่องงานแต่งของคุณบัวกับคุณกบ และก็จะได้ไปเจอคุณติณณ์ด้วย"
อภิชาติยิ้มพอใจอณุกา
"คุณนี่ฉลาด สมเป็นเจ้าของบริษัทโฆษณาดังจริงๆ"
อณุกายิ้มมาดหมายเรื่องแตงกวากับติณณ์
ภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง กษิดิฐ นลิน มัญจา ดารินทร์ ปภพ สารัชนั่งดื่มกาแฟและคุยเรื่องแตงกวากันอยู่
"แตงกวากับคุณอณุกาไปต่างประเทศอาทิตย์นึงเลยเหรอคะ"
"ใช่จ้ะ ไปกันก่อนที่บัวจะมาทำงานตอนบ่ายแป๊บเดียวเอง ท่าทางรีบร้อนเชียว" ดารินทร์บอก
"คุณอณุกาไม่อยู่ ก็แปลว่าไม่มีใครจัดงานแต่งให้คุณบัว งานนี้ยกเลิก"
"ถึงคุณอณุกาไม่อยู่ แต่คุณอณุกาสั่งให้คุณปราณดูแลแทนย่ะ" มัญจาบอก
สารัชหน้าเซ็งทันที
"น่าสงสารคุณบัวที่ต้องตกนรกทั้งเป็น"
กษิดิฐบิดขวดน้ำเปล่าดัง กร๊วบ! พูดพร้อมมองสารัช
"ขอโทษที มือกระตุก เดี๋ยวกระตุกบิดขวด เดี๋ยวกระตุกบิดแขนคน"
สารัชขยับไปทางปภพ
"คิดว่าผมกลัวคุณเหรอ วันนี้ผมมีพวก"
ปภพขยับหนีสารัช แล้วไปนั่งๆข้างๆกษิดิฐ
"ใครเป็นพวกคุณ ผมเป็นพวกของเจ้าของบริษัทที่ผมจะทำงานด้วยต่างหาก"
สารัชทำหน้าเซ็ง
"ขอบคุณคุณกบนะคะที่รับพี่ภพเข้าทำงาน" ดารินทร์บอก
"ไม่เป็นไรครับ เพื่อนเมีย ก็เหมือนเพื่อนผม"
"นายกบ"
"ก็บอกแล้วไงว่าหัดเรียกให้ชิน แต่งไปแล้วจะได้ไม่กระดาก"
"อย่าทะเลาะกันเลย วันนี้เป็นวันดี ไหนจะเรื่องบัวแต่งกับกบไหนจะเรื่องที่พี่ภพได้งาน ไหนจะเรื่องแตงกวาไม่อยู่เป็นมาร ต่อไปทุกคนก็จะมีความสุข ไชโย"
มัญจาบอกทุกคนยกแก้วกาแฟชนกันด้วยความสุข สารัชยกแก้วชนแล้วเบะปากจะร้องไห้
"ไชโย"
กษิดิฐมองนลินด้วยความสุข
กษิดิฐนั่งทำงานอย่างตั้งใจ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"เชิญครับ"
เอ๊ดดี้เปิดประตูเข้ามา
"มีคนมาหาเฮียครับ"
ปราณเดินเข้ามา
"คุณปราณ"
ปราณมองกษิดิฐยิ้มมีแผน
กษิดิฐแปลกใจมากกับสิ่งที่ปราณมานำเสนอ
"จะจัดปาร์ตี้สละโสดให้ผม"
"คุณณุกาสั่งไว้เพราะอยากทำหน้าที่เจ้าภาพงานแต่งให้สมบูรณ์ที่สุดน่ะ"
กษิดิฐมองปราณอย่างไม่ไว้ใจ
"ขอบคุณมากนครับแต่แค่จัดงานแต่งให้ผมก็เกรงใจมากแล้ว อย่าให้ผมต้องรบกวนอะไรคุณอีกเลย"
"แต่ผมอยากให้รบกวน เพราะผมกลัวว่าถ้าคุณขัดสั่งคุณณุกา คุณณุกาอาจจะโกรธแล้วก็พาลไปที่เรื่องงานคุณบัวว่าที่ภรรยาคุณอีกก็ได้"
กษิดิฐมองปราณอย่างหนักใจ
กมลา นันทิดา ต่างยืนอยู่ริมรั้วในเขตบ้านตัวเอง
"กบ" กมลาเรียก
นันทิดาเรียกลูกสาว
"บัว"
กษิดิฐวิ่งร่าเริงออกมาจากบ้านตัวเอง
"คร้าบ"
"คะแม่"
"มีอะไรให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนรับใช้เหรอครับ คุณนายกมลาคนสวย"
"กบกับบัวไปแต่งตัวนะลูก แม่กับอาดาจะพาไปซื้อแหวนแต่งงาน"
"ผมไม่เอาครับ"
"แต่งงานทั้งที ไม่เอาแหวนได้ยังตากบ"
"ที่กบไม่เอา เพราะกบจะใช้แหวนที่คุณย่าให้ตอนแต่งครั้งแรก กบอยากให้คุณย่ารับรู้ว่าพวกเรายังคิดถึงท่านเสมอ"
"บัวก็จะใช้แหวนที่คุณย่าให้ในงานแต่งงานครั้งแรกเหมือนกันค่ะ"
"อู้ย ใจตรงกันสมกับเป็นคนที่กำลังจะเป็นผัวเมียกันอีกครั้ง"
"กบ"
กษิดิฐยิ้มหวานกวนประสาท
นันทิดากังวล
"ครั้งที่แล้วแต่งได้แค่7วันก็หย่า อย่าใช้วงเดิมเลยซื้อใหม่เถอะ"
"จะวงเดิมหรือวงใหม่พอบัวได้งานคืนก็ต้องหย่ากับกบอีกอยู่ดี"
กษิดิฐมองนลินอย่างเจ็บปวด
"ใช้วงเดิมที่คุณย่าให้ไว้นี่ละค่ะจะได้ไม่ต้องเปลืองเงินไงคะ"
กมลา นันทิดามองหน้ากันอย่างหนักใจ
กษิดิฐมองนลินที่ยิ้มแฉ่งอย่างเจ็บปวด
ห้องพักหรูของแตงกวาที่เกาหลี บรรยากาศห้องสวีทหรู มีห้องส่วนตัว ห้องรับแขก แบ่งเป็นโซนๆ แตงกวากำลังโทรหากษิดิฐ เธอรอสายแล้วโยนมือถือไปที่โซฟาอย่างหงุดหงิดที่เขาไม่รับสาย
"มัวแต่ทำอะไรอยู่ ถึงไม่ยอมรับสาย"
อณุกา และอภิชาติที่ใส่เฝือกที่แขน แกล้งทำเป็นแขนหัก) เดินเข้ามามองอาการ ก็ดูออกว่า แตงกวาติดต่อกษิดิฐไม่ได้ แต่อณุกากับอภิชาติแสร้งทำเป็นไม่รู้
"น้องแตงกวาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ พี่จองร้านอาหารที่เค้าว่าอร่อยที่สุดในเกาหลีไว้ เดี๋ยวเราไปทานกันนะจ้ะ"
"แล้วคุณพ่อไปไหวเหรอคะ"
"พ่อดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ"
"ก็ดีนะคะ แตงกวาจะได้กลับเมืองไทยก่อน"
อภิชาติชะงักแล้วมองอณุกาเพื่อช่วยคิดหาข้ออ้าง
"จะรีบกลับไปไหนล่ะจ้ะ นานๆพี่จะได้หยุดงานมาเที่ยวทั้งที น้องแตงกวาอยู่ช้อปปิ้งเป็นเพื่อนพี่ก่อนนะจ้ะ"
"แต่ว่า..."
อภิชาติรีบพูดแทรก
"อยู่ก่อนเถอะลูก เราสองคนพ่อลูกไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้นานแล้วนะ"
แตงกวาถอนใจที่ทำใจขัดคำขอของอภิชาติและอณุกาไม่ได้
"แตงกวาไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ"
แตงกวาเดินเข้าห้องตัวเองไป อภิชาติถอนใจเรื่องแตงกวากับกษิดิฐ
"วันนี้คุณติณณ์จะมาทานข้าวกับเราใช่ไหม"
"ใช่ค่ะ ดีใจจังนะคะ น้องแตงกวาจะได้พบกับติณณ์แล้ว"
อภิชาติเดินไปหยิบมือถือของแตงกวาที่โซฟา
"ได้เจอสักทีก็ดี แตงกวาจะได้เลิกติดต่อกับหมอนั่นอีก"
อภิชาติปามือถือของแตงกวาทิ้งลงถังขยะ เพราะไม่อยากให้แตงกวาโทรหากษิดิฐอีก ใจนึงกลัวว่า แตงกวาจะรู้เรื่องกษิดิฐแต่งงานแล้วจะรีบกลับเมืองไทยจนไม่มีเวลารู้จักกับติณณ์
ในห้องนอนกษิดิฐ นันทิดากับกมลากำลังช่วยกันทำความสะอาดห้อง เตรียมให้นลินย้ายเข้ามา ยศภัทรกับชลัชช่วยกันยกโต๊ะจะย้าย แต่ดึงโต๊ะไปคนละทาง
"ผมว่าตรงนี้ดีกว่า" ชลัชบอก
"ตรงนั้นฮวงจุ้ยไม่ดี" ยศภัทรบอก
"คุณดูฮวงจุ้ยเป็นด้วยเหรอ"
"ไม่เป็น แค่ตรงไหนที่คุณชอบ ตรงนั้นฮวงจุ้ยไม่ดี"
ชลัชฉุนยศภัทร จึงวางโต๊ะตำเท้ายศภัทรจนเจ็บ นันทิดา กมลาส่ายหน้าขำๆ
นลินหยิบกล่องใบหนึ่งเดินออกไปนอกห้อง กษิดิฐเดินยกกล่องใบเดิมเข้ามาวางคืนที่เดิม
นลินหันมาเห็นพอดี เท้าเอวมองกษิดิฐ
"บัวเอาไปทิ้งแล้ว กบจะยกกลับมาทำไม?
"เฮ้ย...การ์ตูนพวกนี้กบเก็บไว้อ่าน"
"อ่านอะไรล่ะ ปลวกกินหมดแล้ว เอาไปทิ้ง"
"ไม่!"
นลินทำหน้าดุเอาเรื่อง
"จะทิ้งไม่ทิ้ง"
"คร๊าบ"
กษิดิฐยกลังออกไปนอกห้องตามคำสั่งนลิน ยศภัทรยื่นมือไปจับมือลูกชาย
"ยินดีต้อนรับเข้าสมาคมคนกลัวเมีย"
กษิดิฐกระซิบ
"กบไม่ได้กลัว แต่แกล้งทำให้บัวตายใจ เดี๋ยวคืนส่งตัวจะตีก้นสั่งสอนให้เข็ด"
ยศภัทรหัวเราะบอก
"เชื้อพ่อแรงเว้ย"
กษิดิฐกับยศภัทรหัวเราะกันคิกคัก
กมลา นันทิดา มองบรรยากาศความสุขของทุกคนแล้วก็ยิ้มปลื้ม
"เห็นบรรยากาศอย่างนี้แล้วคิดถึงงานแต่งครั้งแรกนะคะ" นันทิดาบอก
"นั่นสิคะ ถ้าคุณแม่ยังอยู่ ท่านคงมีความสุขมาก" กมลาว่า
ห้องส่วนตัวในร้านอาหารหรู อภิชาตินั่งดื่มกาแฟหลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว แตงกวาค้นหามือถืออย่างหงุดหงิด อณุกายืนคุยมือถือกับติณณ์อยู่มุมนึงของห้อง
"โอเคจ้ะติณณ์ ไม่เป็นไร เราเจอกันพรุ่งนี้ก็ได้ จ้ะ"
อณุกาเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วยิ้มขอโทษอภิชาติที่ติณณ์มาไม่ได้
"ขอโทษนะคะ พอดีติณณ์ยังติดประชุมอยู่เลยน่ะค่ะ"
" งั้นเรากลับกันเถอะค่ะ แตงกวาจะได้กลับไปดูมือถือด้วย ไม่รู้ลืมไว้ที่ไหน"
อณุกาและอภิชาติสบตากัน เพราะรู้ว่าอภิชาติเป็นคนโยนมือถือแตงกวาทิ้งถังขยะไปแล้ว
"งั้นคุณณุกานัดคุณติณณ์มาทานข้าวพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้ว ผมอยากให้แตงกวาได้รู้จัก"
แตงกวาชะงักแล้วหันไปมองพ่ออย่างสงสัย
"ทำไมพ่อถึงอยากให้แตงกวารู้จักล่ะคะ"
อภิชาติชะงักที่เผลอหลุดปากพูด
อณุการีบช่วยพูด
"ก็ต่อไปน้องแตงกวาต้องทำงานร่วมกับติณณ์ไงจ้ะ"
แตงกวาทำหน้าปกติ แต่แววตาเริ่มสงสัยว่า อภิชาติและอณุกามีแผนอะไรกันรึเปล่า
ในร้านชุดแต่งงาน กษิดิฐใส่ชุดออกมาให้มัญจา ดารินทร์ สารัชดูว่าโอเคไหม สองสาวยกนิ้วโป้งบอกโอเค สารัชยกนิ้วโป้งคว่ำลงพื้น บอกว่าแย่
"คนไม่หล่อ ใส่อะไรมันก็ดูไม่หล่อ" สารัชบอก
กษิดิฐมองสารัชตั้งแต่หัวจรดเท้า
"ใครเชิญนายมาด้วยไม่ทราบ"
"ผมต้องมา เพราะผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว"
"ใครแต่งตั้ง"
ดารินทร์ มัญจาส่ายหน้าพร้อมกัน
"ผมแต่งตั้งตัวเอง เผื่อวันงานเจ้าบ่าวตาย ผมจะได้สวมตำแหน่งแทน"
"ท่าทางจะตายก่อนเจ้าบ่าวนะ"
กษิดิฐมองถามหานลิน
"เจ้าสาว กบอยู่ไหนเนี่ย"
ดารินทร์ มัญจามองหน้ายิ้มๆแล้วเบี่ยงตัวหลบออกเปิดเห็นนลินในชุดเจ้าสาวซึ่งสวยมาก กษิดิฐมองด้วยสายตาชื่นชม
"คุณบัวสวยมากเลยครับ แต่เจ้าบ่าวขี้เหร่"
กษิดิฐแกล้งจะเดินไปหานลิน แล้วใช้ขาเตะไปที่ขาเก้าอี้ จนสารัชหงายท้องลงไปนอนกองกับพื้น กษิดิฐแซวสารัช
"อ้าว ง่วงก็ไม่บอก กลับบ้านไปนอนไหม"
สารัชมองแค้น กษิดิฐไม่สนใจ ได้แต่มองนลินอย่างชื่นชม
คืนก่อนงานแต่งงาน1วัน นลินนั่งที่เตียงมองที่กำแพงห้อง เห็นชุดแต่งงานแขวนอยู่ที่กำแพงแล้วคิดถึงติณณ์ พลางจินตนาการว่า ติณณ์ใส่ชุดเจ้าบ่าว เดินควงคู่ออกมากับนลินในชุดเจ้าสาว เขามองเธอด้วยสายตารักสุดหัวใจ
"คุณบัวครับ ผมรักคุณ"
นลินยิ้มหวานมีความสุขที่สุดในชีวิต
แล้วนลินก็ดึงตัวเองกลับสู่ปัจจุบัน แล้วนึกเซ็งตัวเอง
"คิดบ้าอะไรเนี่ย"
นันทิดาเดินเข้ามา
"ยังไม่รีบนอนล่ะลูก พรุ่งนี้บัวต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมแต่เช้า นะลูก หรือว่าตื่นเต้น"
นลินขำ
"บัวจะตื่นเต้นทำไมล่ะคะ นี่มันงานแต่งหลอกๆครั้งที่สองของบัวแล้วนะคะ"
"บัว ..แม่จะบอกไว้นะลูก ..ชีวิตลูกผู้หญิง ไม่ว่าจะแต่งงานด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ถ้าได้เข้าพิธีไปแล้ว ก็ถือว่าก้าวไปสู่อีกชีวิตนึง เป็นชีวิตที่ไม่มีคำว่าคนเดียว จะทำอะไรต้องไม่ทำแบบ โดดเดี่ยว และต้องไม่ทิ้งอีกคนให้เดียวดาย...ไม่อย่างนั้นจะไม่เรียกว่าชีวิตคู่" นันทิดาบอก
นลินยิ้มเข้าใจคำของแม่ แต่ในใจก็ยังคิดว่าเป็นแค่การแต่งงานหลอกๆอยู่ดี
"บัวกับกบไม่ได้คิดจริงจังอย่างนั้นหรอกค่ะแม่"
ในร้านอาหารกึ่งผับ กษิดิฐ ปภพ เอ็ดดี้ สารัช ปราณนั่งที่โต๊ะมีอาหาร มีเครื่องดื่มเพียบ
"เต็มที่เลยนะครับ คุณกบสละโสดทั้งที ไม่เมาไม่เช้าไม่ให้กลับนะครับ"
สารัชเซ็ง
"โอ๊ย...ให้กลับไปเถอะครับเพราะถึงยังไงคุณกบก็โสดอยู่ดี เพราะการแต่งงานครั้งนี้ก็เป็นแค่..."
ปภพรีบพูดแทรก
"พิธีการทางสังคม แต่จริงๆคุณกบคิดว่าตัวเองโสดตลอดเวลาใช่มั้ยครับ"
"ใช่ครับใช่"
"กำลังจะมีเมีย แต่คิดเสมอว่าตัวเองยังโสด คาสโนว่าไม่เรียกเฮียของผมว่า พ่อแล้วจะเรียกว่าอะไร เอ้า..ชน" เอ็ดดี้บอก
ทุกคนหัวเราะเฮฮาชนแก้ว"
ปภพกระซิบสารัช
"พูดจาอะไรระวังหน่อยสิ เดี๋ยวเกิดคุณปราณรู้ว่า คุณกบกับบัวไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ บัวก็โดนไล่ออกหรอก"
"โทษที ผมกำลังเศร้าที่คุณบัวจะต้องแต่งงานเลยลืมตัวไปหน่อย"
สารัชยกแก้วดื่มรวดเดียวหมดอย่างเศร้าสร้อย
"ผมมีของขวัญมาให้คุณด้วยนะครับ"
ปราณหยิบป้ายทะเบียนรถสีแดง บนทะเบียนเขียนคำว่า “เจ้าบ่าว 2556" "ขอมอบให้กับเจ้าบ่าวป้ายแดงครับ"
กษิดิฐมองป้ายแดงอย่างชอบใจ
"โดนใจมาก"
กษิดิฐชูป้ายแดงอย่างร่าเริง มุมหนึ่งคนขับรถของปราณ ใช้ไอโฟนของปราณถ่ายรูปกษิดิฐอยู่ ปราณหันมองคนขับรถ แล้วยิ้มร้ายมองกษิดิฐ
แตงกวาดูรูปในไลน์ที่ปราณส่งมาให้ในไอแพด เห็นรูปกษิดิฐถือป้ายทะเบียนโชว์แล้วตกใจ
"ไม่จริง ! กบไม่มีทางได้แต่งงานกับยายบัว"
ถนนหน้าบ้านนลิน เช้า วันงานแต่งงาน กษิดิฐ ยศภัทร กมลา วงกลองยาว มีผู้คนร่วมถือของและแห่ในขบวนขันหมากเป็นจำนวนมาก เอ็ดดี้กำลังอ้าปากร้องโห่
"โห่ ฮี้ โห่ ฮี้ โห่..."
ผู้ร่วมขบวนต่างร้อง "ฮิ้ว" ลากเสียงยาว
ขบวนกลองยาวบรรเลงเพลงอย่างสนุกสนานเดินนำหน้าขบวนขันหมาก เอ็ดดี้เป็นเสียงนำโห่อีกครั้ง ผู้ร่วมขบวนแห่ร้องรับตามกันอย่างสนุกสนานครึกครื้น ยศภัทร กมลาถือพานเครื่องขันหมากตามมา กษิดิฐถือช่อดอกไม้เดินโยกไปตามจังหวะกลองยาวอย่างสนุกสนาน
นลินมองจากห้องนอน แล้วทำหน้าเซ็ง
"เต้นป้อเป็นลิงล้อประทัด ภาพเดิมแบบเมื่อสามปีที่แล้วเป๊ะเลย"
มัญจาแกล้งหยอก
"บางทีสิ่งที่เกิดขึ้นกับบัว อาจจะเป็นเรื่องของบุพเพสันนิวาสก็ได้ แต่งงาน 2 ครั้งกับผู้ชายคนเดิม คนบนฟ้าอาจกำลังส่งสัญญาณอะไรมาบอกบัวก็ได้นะ"
"ชั้นฟังเธอพูดแล้ว ชั้นบอกเธอได้คำเดียวเลยมิ้นท์"
"เพ้อเจ้อ บัวแค่แต่งงานหลอกๆ" ดารินทร์บอก
"โธ่พี่รินทร์ ไม่เคยดูละครเหรอจ้ะ แต่งงานหลอกๆ สุดท้ายก็รักกันทุกที" มัญจาบอก"รักกับกบเนี่ยนะ ออกลูกเป็นลิงง่ายกว่า"
เอ็ดดี้ที่รับหน้าที่เป็นคนเจรจาต่อรองอย่างสนุกสนานกับคนกั้นประตูเงินประทอง เพื่อให้กษิดิฐผ่านได้ ประตูแล้วประตูเล่า
สารัชยืนถือสร้อยเป็นประตูเงินประตูทองอยู่เป็นประตูสุดท้ายก่อนเข้าตัวบ้าน เอ็ดดี้ยื่นซองเงินให้
"เอาไปคนละซอง ขอผมพาเฮียผมไปหาอาซ้อหน่อยนะ"
กษิดิฐเดินมามองหน้าสารัช
"วันก่อนบอกเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว วันนี้มากั้นประตูเป็นเพื่อนเจ้าสาว ตกลงจะเป็นเพื่อนใครกันแน่"
"ตอนแรกอยากเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจขอเป็นเพื่อนเจ้าสาวดีกว่า เพราะอยากได้คำสัญญาจากคุณ"
สารัชถอยห่างกษิดิฐไปก้าวนึงด้วยความกลัวกับสายตาจริงจังของกษิดิฐ
"จะให้สัญญาว่า..."
"จะดูแลและทะนุถนอมดอกบัวดอกนี้ไว้ด้วยใจ อย่าให้มีรอยหมองหม่นหรือบอบช้ำ เพราะถ้าวันนึงที่คุณทำดอกบัวดอกนี้ร่วงโรย ผมจะมาทวงดอกบัวดอกนี้ไปจากคุณ"
กษิดิฐดันตัวสารัชให้พ้นทาง
ยศภัทรที่ถือพานขันหมากแอบกระซิบกษิดิฐจากด้านหลัง
"เพิ่งรู้ว่าแกหวงหนูบัวขนาดนี้นะเนี่ยตากบ"
"เปล่าเลยพ่อ กบหวงศักดิ์ศรีลูกผู้ชายต่างหาก แหม แค่ทำงานกับบัวมาสามปี คิดจะมาโชว์พาวเวอร์มาบอกให้ผมดูแลเมียตัวเอง"
กมลาหยิกแขนกษิดิฐด้วยความหมั่นไส้
"รีบเดินไปเร็ว ใกล้ได้ฤกษ์สวมแหวนแล้ว"
กษิดิฐรีบเดินต่อ
กษิดิฐและนลินนั่งพับเพียบที่พื้นท่ามกลางสินสอดทองหมั้น เพื่อเข้าสู่พิธีสวมแหวนหมั้น ยศภัทร ชลัช นันทิดา กมลา ปราณนั่งบนโซฟาเป็นประธาน
ปราณมองไปรอบๆเพื่อมองหาว่าแตงกวาว่าจะมารึยัง
มัญจา ดารินทร์ สารัช เอ็ดดี้ และเพื่อนๆและแขกมาร่วมนั่งเป็นพยาน
กษิดิฐหันไปมองนลินที่นั่งหน้าเศร้าไม่ยอมยิ้ม กษิดิฐขยับไปกระซิบข้างหู
"คุณนลินครับ ยิ้มหวานๆครับ ยิ้มหวานๆเดี๋ยวคุณปราณไม่เชื่อนะครับว่าเราแต่งงานกันจริงๆ"
นลินยิ้มเศร้า น้ำตาคลอ
"บัวร้องไห้ทำไม"
"เห็นพิธีนี้แล้วคิดถึงคุณย่า"
กษิดิฐชะงัก มองบรรยากาศรอบๆแล้วคิดถึงภาพงานแต่งเมื่อสามปีก่อนที่คุณย่ายอแสงนั่งเป็นประธานในพิธี โดยมียศภัทร กมลา ชลัช นันทิดานั่งขนาบข้างทั้ง 2 ฝั่ง
กษิดิฐ นลินนั่งพับเพียบกันอยู่ที่พื้นด้านล่างท่ามกลางสินสอดทองหมั้นไม่ต่างจากปัจจุบัน มัญจาและแขกที่มาร่วมงานเป็นคนเดิมๆ เพียงแต่ไม่มีปราณ ดารินทร์ สารัชและเอ็ดดี้
คุณย่ายอแสงมองนาฬิกาแล้วก้มลงบอกกษิดิฐ
"กบ ได้ฤกษ์สวมแหวนหมั้น แล้วลูก"
กษิดิฐพยักหน้าแล้วเอื้อมไปหยิบแหวนจากพาน ซึ่งเป็นแหวนวงเดียวกับที่กษิดิฐห้อยคอไว้ กษิดิฐจะเอื้อมอีกมือไปจับมือนลินมาสวมแหวน นลินสะดุ้งเอามือหลบ
"เอ้า ไม่ยื่นมือมา จะให้สวมแหวนที่ติ่งหูรึไง"
"ก็บัวตกใจนี่ อยู่ๆกบก็จับมือบัว"
"ตกใจหรือเขินจ๊ะ ที่รัก"
"นายกบ"
กษิดิฐขำแล้วเอื้อมไปคว้ามือนลินมาสวมแหวน
"นี่มือหรือกระดาษทรายเนี่ย มือบัวไม่ได้พบปะสังสรรค์กับโลชั่น มากี่ชาติแล้วเนี่ย"
"รีบๆสวมแหวนไปเถอะ"
กษิดิฐสวมแหวนให้นลิน แต่สวมไม่เข้า นลินมองหน้ากษิดิฐว่าเอาแล้วไง
"สวมแหวนไม่เข้า!..ซวยแล้ว"
งานหมั้นในวันนี้ก็เช่นกัน กษิดิฐพยายามสวมแหวนให้นลิน แต่ก็ยังสวมไม่เข้า นลินเห็นแขกเริ่มมองอย่างสงสัย เธอพยายามยิ้มให้แขกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วก้มไปกระซิบ
"กบ..อย่าบอกนะว่าแหวนสวมไม่เข้าเหมือนคราวที่แล้วอีกนะ"
"ก็นิ้วบัวยังอ้วนเหมือนเดิมนี่ บอกว่าอย่ากินทุเรียน ก็ไม่เชื่อ เห็นไหม นอกจากไขมันทะลักจากก้นขึ้นนิ้วเลย"
นลินเอื้อมมืออีกข้างแอบหยิกขากษิดิฐ
กษิดิฐทำหน้าเจ็บแล้วพยายามสวมแหวนต่อ แต่ไม่เข้า ยศภัทรก้มมากระซิบกษิดิฐ
"ใช้วิธีเดิมเลยตากบ"
กษิดิฐหันไปพยักหน้าให้ยศภัทร แล้วหันมามองนลิน
"ไม่เอาวิธีเดิมนะ"
กษิดิฐมองหน้านลินอย่างเซ็งๆ แล้วเม้มเลียริมฝีปากให้มีน้ำลายติดริมฝีปากแล้วก้มลงเอาริมฝีปากจรดนิ้วของนลินเพื่อให้น้ำลายที่ริมฝีปากแต้มที่นิ้ว
แขกในงานฮือฮาชื่นชมเพราะเข้าใจว่ากษิดิฐจูบมือนลิน
นลินมองกษิดิฐที่เอาปากจรดที่นิ้วด้วยความตกใจและแอบเขินอาย แต่นลินรีบปัดความรู้สึกนั้นออกไปโดยเร็ว กษิดิฐเงยหน้าขึ้นมาพร้อมสวมแหวนให้นลินเข้าพอดีนิ้ว กษิดิฐยิ้มโล่งอก แล้วมองหน้านลิน
"ต๊าย..โรแมนติก" มัญจาว่า
"น่าขยะแขยงมากกว่า"
มัญจามองสารัชอย่างเซ็งๆ กษิดิฐยิ้มโล่งอก แล้วมองหน้านลิน
"ขอบคุณนะบัวที่แต่งงานกับกบ"
"บัวต่างหากที่ต้องขอบคุณกบที่แต่งงานกับบัว"
กษิดิฐยิ้มมีความสุข นลินมองกษิดิฐอย่างขอบคุณ
บริเวณทางเดินในโรงแรมที่เกาหลี อณุกาท่าทางยิ้มแย้มเดินนำติณณ์ไปทางห้องของอภิชาติ
"ขอบใจติณณ์มากนะที่ยอมหยุดงานพาพี่กับน้องแตงกวาเที่ยว"
อภิชาติเดินอย่างรีบร้อนมาจากทางห้องพักเพื่อเช็กเอ้าท์ อณุกาดีใจที่เจออภิชาติ
"สวัสดีค่ะท่าน ณุกาจะไปขออนุญาตพาน้องแตงกวาเที่ยวกับติณณ์อยู่พอดีเลยค่ะ"
อณุกาส่งสายตากรุ่มกริ่มอย่างมีแผน อภิชาติถอนใจไม่พอใจแตงกวา
"ไม่ทันแล้วล่ะครับคุณณุกา"
อณุกาชะงัก
อณุกามองสีหน้าเคร่งเครียดของอภิชาติแล้วรู้ได้ในทันทีว่า แตงกวาต้องทำอะไรขึ้นแน่ๆ
ติณณ์มองอย่างงงๆว่า เกิดอะไรขึ้น
อ่านต่อ 17.00 น.