00 สังเกตหรือไม่ว่าช่วงนี้สารพัดโพล ไม่ว่าจะเป็นโพลกันเอง หรือโพลรับจ้างกันขนาดไหน ล้วนต้องมีหัวข้อสอบถามความเห็นความรู้สึกเรื่อง "ของแพง" ออกมาเป็นระยะ แต่ถึงอย่างไรมันก็ฝืนกันไปไม่ได้มากนัก เพราะผลที่ออกมาตรงกันคือ "แพงจริง" ไม่ใช่แค่ "ความรู้สึกแพง" อย่างที่รัฐบาลพยายามบิดเบือน ล่าสุดผลสำรวจ "กรุงเทพโพล" ก็ออกมาตบหน้าฉาดใหญ่ เพราะชาวบ้านมีความกังวลเรื่องของแพง ที่สำคัญไม่เชื่อ "ปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร "เอาอยู่" นอกจากนี้แน่นอนว่า "ตามสูตร" อยู่แล้วก็ต้องมีเรื่อง "หนี้สิน" ตามมา
00 อาจจะเป็นครั้งแรกๆ ก็ได้ที่เราได้ยินคำตอบแบบชัดถ้อยชัดคำว่า "ของแพง" ไม่ใช่ความรู้สึก และที่น่าสนใจก็คือชาวบ้าน "ไม่เชื่อมั่นรัฐบาล" ไม่เชื่อ ปู ยิ่งลักษณ์ มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจะยังเชื่อ "แม้ว" ทักษิณ ชินวัตร อยู่อีกหรือไม่ ยังไม่มีคำตอบชัด ทั้งที่ความล้มเหลวทุกอย่างของรัฐบลนี้มาจาก "เหลียมจัด" คนนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าเรื่อง "จำนำข้าว" ที่เจ๊งกันวายป่วง แต่ดันทุรังอุ้มนี่ก็ใช่ เพราะเคยประกาศยืดอกยอมรับระหว่างให้สัมภาษณ์โชว์สื่อนอก "เพื่อหวังโชว์พาว" ซึ่งตอนนั้นยังไม่เละเหมือนตอนนี้ เรื่องเพิ่มพื้นที่ปลูกยาง 1 ล้านไร่ นี่ก็ใช่ ตอนนั้นถ้าจำกันได้ โหมรณรงค์ปลูกกันจ้าละหวั่น มีนักการเมืองรวยจากกล้ายางกันพุงปลิ้น ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลหลายปี
00 การขึ้นราคาพลังงาน ทั้งเรื่องราคาก๊าซหุงต้ม กก.ละ 50 สต.ไปจนถึงสิ้นปี ขึ้นค่าไฟอีกหน่วยละกว่า 7 สต. รวมไปถึงค่าทางด่วนตามสัญญาอีก 5-10 บาท พร้อมๆ กันในวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา มันทำให้เกิดความรู้สึกทางลบ ในทางจิตวิทยาส่งผลต่อความเชื่อมั่น ทั้งในภาคประชาชน และนักลงทุน ต่างไม่ใช้จ่าย ไม่กล้าลงทุน ต้องการเก็บเงินสดเอาไว้ในมือให้มากที่สุด ดังนั้นการที่ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ บอกว่าปลายปีจะฟื้น ก็ฝันไปเถอะ นี่เข้าเดือนที่ 9 แล้ว จะสิ้นปีอยู่แล้ว ยังไม่เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นเลยสักเรื่อง
00 ล่าสุดกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติไฟเขียวให้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา โจมตีซีเรียได้แล้ว มันก็ยิ่งหายนะ เพราะหมายความว่า ราคาน้ำมันจะต้องสูงขึ้นพรวดพราด ทำให้ต้นทุนสูง ทำให้เศรษฐกิจของไทยที่ลุ้นในช่วงปลายปีว่าจะดี มันก็ยิ่งสาหัสยิ่งกว่าเดิมอีกหลายเท่า อย่างไรก็ดี ในฐานะชาวบ้านเดินดินกินข้าวแกง ทำได้ดีที่สุดก็คือ "เตรียมรับมือ" ระวังการใช้จ่าย ไม่จำเป็นอย่างก่อหนี้เป็นอันขาด มีแค่ไหนพยายามใช้จ่ายให้พอ เก็บเงินสดเอาไว้ในมือให้มากที่สุด ต้องพึ่งตัวเองให้มากที่สุด ก็ทำได้แค่นี้แหละ !!
00 เรื่องม็อบยาง-ปาล์ม ยังไม่จบง่าย แม้ว่าบรรดาแกนนำที่นครศรีฯ จะยอมขึ้นมาเจรจาต่อรองในกรุงเทพฯ กับฝ่ายรัฐบาลที่นำโดย รองนายกฯ และรมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง แต่ก็ออกรูปเดิมคือ "ยื้อ" ให้ชาวสวนอ่อนแรง หรือเกิดความกดดันจนแตกคอกันเองในที่สุด เพราะรัฐบาลยังย้ำอยู่แต่เรื่องที่ชาวสวนเขาไม่ต้องการนั่นคือ เรื่องปุ๋ย และกลไกตลาด และคราวนี้หากรัฐบาลไม่ยอมยืดหยุ่นกับชาวสวนยางมีสิทธิ์บานปลาย "ซึมลึก" กว่าที่คาด ที่น่าสังเกตก็คือ รัฐบาลไม่ต้องการพูดถึงเรื่อง "การประกันราคา" แม้จะใช้เงินน้อยกว่า แต่มันเป็นนโยบายที่ ปชป.เคยใช้ ถ้าพลิกลิ้นมันก็เสียเหลี่ยม ไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน และนี่แหละ "การเมือง" ของจริง ทุด !!
00 อาจจะเป็นครั้งแรกๆ ก็ได้ที่เราได้ยินคำตอบแบบชัดถ้อยชัดคำว่า "ของแพง" ไม่ใช่ความรู้สึก และที่น่าสนใจก็คือชาวบ้าน "ไม่เชื่อมั่นรัฐบาล" ไม่เชื่อ ปู ยิ่งลักษณ์ มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจะยังเชื่อ "แม้ว" ทักษิณ ชินวัตร อยู่อีกหรือไม่ ยังไม่มีคำตอบชัด ทั้งที่ความล้มเหลวทุกอย่างของรัฐบลนี้มาจาก "เหลียมจัด" คนนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าเรื่อง "จำนำข้าว" ที่เจ๊งกันวายป่วง แต่ดันทุรังอุ้มนี่ก็ใช่ เพราะเคยประกาศยืดอกยอมรับระหว่างให้สัมภาษณ์โชว์สื่อนอก "เพื่อหวังโชว์พาว" ซึ่งตอนนั้นยังไม่เละเหมือนตอนนี้ เรื่องเพิ่มพื้นที่ปลูกยาง 1 ล้านไร่ นี่ก็ใช่ ตอนนั้นถ้าจำกันได้ โหมรณรงค์ปลูกกันจ้าละหวั่น มีนักการเมืองรวยจากกล้ายางกันพุงปลิ้น ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลหลายปี
00 การขึ้นราคาพลังงาน ทั้งเรื่องราคาก๊าซหุงต้ม กก.ละ 50 สต.ไปจนถึงสิ้นปี ขึ้นค่าไฟอีกหน่วยละกว่า 7 สต. รวมไปถึงค่าทางด่วนตามสัญญาอีก 5-10 บาท พร้อมๆ กันในวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา มันทำให้เกิดความรู้สึกทางลบ ในทางจิตวิทยาส่งผลต่อความเชื่อมั่น ทั้งในภาคประชาชน และนักลงทุน ต่างไม่ใช้จ่าย ไม่กล้าลงทุน ต้องการเก็บเงินสดเอาไว้ในมือให้มากที่สุด ดังนั้นการที่ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ บอกว่าปลายปีจะฟื้น ก็ฝันไปเถอะ นี่เข้าเดือนที่ 9 แล้ว จะสิ้นปีอยู่แล้ว ยังไม่เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นเลยสักเรื่อง
00 ล่าสุดกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติไฟเขียวให้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา โจมตีซีเรียได้แล้ว มันก็ยิ่งหายนะ เพราะหมายความว่า ราคาน้ำมันจะต้องสูงขึ้นพรวดพราด ทำให้ต้นทุนสูง ทำให้เศรษฐกิจของไทยที่ลุ้นในช่วงปลายปีว่าจะดี มันก็ยิ่งสาหัสยิ่งกว่าเดิมอีกหลายเท่า อย่างไรก็ดี ในฐานะชาวบ้านเดินดินกินข้าวแกง ทำได้ดีที่สุดก็คือ "เตรียมรับมือ" ระวังการใช้จ่าย ไม่จำเป็นอย่างก่อหนี้เป็นอันขาด มีแค่ไหนพยายามใช้จ่ายให้พอ เก็บเงินสดเอาไว้ในมือให้มากที่สุด ต้องพึ่งตัวเองให้มากที่สุด ก็ทำได้แค่นี้แหละ !!
00 เรื่องม็อบยาง-ปาล์ม ยังไม่จบง่าย แม้ว่าบรรดาแกนนำที่นครศรีฯ จะยอมขึ้นมาเจรจาต่อรองในกรุงเทพฯ กับฝ่ายรัฐบาลที่นำโดย รองนายกฯ และรมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง แต่ก็ออกรูปเดิมคือ "ยื้อ" ให้ชาวสวนอ่อนแรง หรือเกิดความกดดันจนแตกคอกันเองในที่สุด เพราะรัฐบาลยังย้ำอยู่แต่เรื่องที่ชาวสวนเขาไม่ต้องการนั่นคือ เรื่องปุ๋ย และกลไกตลาด และคราวนี้หากรัฐบาลไม่ยอมยืดหยุ่นกับชาวสวนยางมีสิทธิ์บานปลาย "ซึมลึก" กว่าที่คาด ที่น่าสังเกตก็คือ รัฐบาลไม่ต้องการพูดถึงเรื่อง "การประกันราคา" แม้จะใช้เงินน้อยกว่า แต่มันเป็นนโยบายที่ ปชป.เคยใช้ ถ้าพลิกลิ้นมันก็เสียเหลี่ยม ไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน และนี่แหละ "การเมือง" ของจริง ทุด !!
