ASTV ผู้จัดการรายวัน – รถหรูโตสวนภาพรวมตลาดรถไทยร่วง หลังหมดฤทธิ์โครงการรถคันแรก สองค่ายยักษ์ “บีเอ็มดับเบิลยู” และ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ยอดขายพุ่งระดับ 40% คาดถึงสิ้นปีตลาดยังขยายตัวเนื่อง
นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถหรูในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น มียอดขายเติบโตต่อเนื่องและถือเป็นตลาดที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสภาพเศรษฐกิจ แม้ภาพรวมการแข่งขันจะสูง แต่บริษัทยังเชื่อมั่นในภาพรวมธุรกิจและแบรนด์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะยังได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค โดยยอดขายสะสม 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.2556) บริษัททำได้ 5,507 คัน เติบโต 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และหากนับเฉพาะเดือนสิงหาคมเดือนเดียวสามารถขายได้กว่า 1,000 คัน ซึ่งถือเป็นยอดขายต่อเดือนสูงสุด หรือทำตัวเลขต่อเดือนได้ถึง 4 หลักเป็นครั้งแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้ยอดขายเติบโต มาจากลูกค้าหันมาซื้อรถจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการมากขึ้น หลังจากที่บริษัทประกาศไม่รับประกันรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ซื้อจากเกรย์มาร์เก็ต บวกกับบที่ผ่านมาบริษัทมีโปรดักต์หลากหลาย และทุกโมเดลที่แนะนำสู่ตลาดได้การตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ซี-คลาส อี-คลาส และน้องใหม่อย่าง เอ-คลาส และซีแอลเอ-คลาส
ล่าสุดบริษัทได้แนะนำ “เอส-คลาส ใหม่” รุ่น S 400 HYBRID AMG Premium มาพร้อมจุดเด่น 3 ประการ ระบบการขับขี่แบบอัจฉริยะ, เทคโนโลยีประหยัดพลังงานใหม่ล่าสุด และความหรูหราสง่างามในทุกองค์ประกอบ สนนราคา 11.4 ล้านบาท โดยเป็นรถนำเข้าทั้งคัน ซึ่งล็อตแรก 50 คัน สามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ช่วงปลายปีนี้ ส่วนรุ่นประกอบในประเทศ (CKD) จะเริ่มปีหน้า
นายแมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการดำเดินงานในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ค.2556) รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ มียอดขายกว่า 4,500 คัน เติบโต 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และหากแยกเฉพาะบีเอ็มดับเบิลยูขยายตัวเพิ่มขึ้น 39% ซึ่งเป็นผลมาจากมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย พร้อมแนะนำรถรุ่นใหม่ๆสู่ตลาดต่อเนื่อง รวมถึงการจัดกิจกรรมการตลาด ตลอดจนการขยายตัวแทนจำหน่าย
“ภาพรวมตลาดรยนต์ไทยในช่วงไตรมาสสองเป็นต้นมามีอัตราการชะลอตัวอย่างมาก เนื่องจากปัจจัยบวกจากโครงการรถคันแรกหมดไป แต่ตลาดรถยนต์หรูไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับรถคันแรก ทำให้ภาพรวมเป็นไปตามปกติ และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง อย่างการเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา จนเมื่อกลางปีบริษัทได้ปรับเป้าหมายการขายใหม่ และในช่วงครึ่งหลังเชื่อมั่นว่าภาพรวมตลาดถรถหรู จะยังคงรักษาอัตราการขยายตัวไปจนถึงสิ้นปี จากปีที่ผ่านมาตลาดนี้มียอดขายประมาณ1.5 หมื่นคัน”
โดยในส่วนของบีเอ็มดับเบิลยู เชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดีต่อไปเช่นกัน เพราะนอกจากภาวะรวมของตลาดแล้ว ในช่วงครึ่งปีหลัง บีเอ็มดับเบิลยูมีการจัดกิจกรรมการตลาดต่อเนื่อง ล่าสุดได้จัดงาน “บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์โป 2013” ระหว่างวันที่ 5-8 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยการจัดแสดงรถบีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวนมากถึง 14 รุ่น พร้อมกันนี้ยังได้แนะนำรถรุ่นใหม่สู่ตลาดไทย คือ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Turismo เป็นรุ่น 320d ราคา 3.199 ล้านบาท ซึ่งเป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศที่เปิดราคาออกมา เพื่อรองรับรุ่นประกอบในไทย(CKD) ที่จะมีขึ้นในปีหน้าไว้พร้อมแล้ว จึงจะไม่มีการปรับราคาอีก และในงานนี้ยังได้นำรถต้นแบบ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4 คูเป้ มาเผยโฉมให้ลูกค้าได้สัมผัสใกล้ชิด ก่อนจะนำเข้ามาทำตลาดเป็นทาการ ในช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2013 ปลายปีนี้
นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถหรูในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น มียอดขายเติบโตต่อเนื่องและถือเป็นตลาดที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสภาพเศรษฐกิจ แม้ภาพรวมการแข่งขันจะสูง แต่บริษัทยังเชื่อมั่นในภาพรวมธุรกิจและแบรนด์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะยังได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค โดยยอดขายสะสม 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.2556) บริษัททำได้ 5,507 คัน เติบโต 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และหากนับเฉพาะเดือนสิงหาคมเดือนเดียวสามารถขายได้กว่า 1,000 คัน ซึ่งถือเป็นยอดขายต่อเดือนสูงสุด หรือทำตัวเลขต่อเดือนได้ถึง 4 หลักเป็นครั้งแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้ยอดขายเติบโต มาจากลูกค้าหันมาซื้อรถจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการมากขึ้น หลังจากที่บริษัทประกาศไม่รับประกันรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ซื้อจากเกรย์มาร์เก็ต บวกกับบที่ผ่านมาบริษัทมีโปรดักต์หลากหลาย และทุกโมเดลที่แนะนำสู่ตลาดได้การตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ซี-คลาส อี-คลาส และน้องใหม่อย่าง เอ-คลาส และซีแอลเอ-คลาส
ล่าสุดบริษัทได้แนะนำ “เอส-คลาส ใหม่” รุ่น S 400 HYBRID AMG Premium มาพร้อมจุดเด่น 3 ประการ ระบบการขับขี่แบบอัจฉริยะ, เทคโนโลยีประหยัดพลังงานใหม่ล่าสุด และความหรูหราสง่างามในทุกองค์ประกอบ สนนราคา 11.4 ล้านบาท โดยเป็นรถนำเข้าทั้งคัน ซึ่งล็อตแรก 50 คัน สามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ช่วงปลายปีนี้ ส่วนรุ่นประกอบในประเทศ (CKD) จะเริ่มปีหน้า
นายแมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการดำเดินงานในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ค.2556) รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ มียอดขายกว่า 4,500 คัน เติบโต 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และหากแยกเฉพาะบีเอ็มดับเบิลยูขยายตัวเพิ่มขึ้น 39% ซึ่งเป็นผลมาจากมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย พร้อมแนะนำรถรุ่นใหม่ๆสู่ตลาดต่อเนื่อง รวมถึงการจัดกิจกรรมการตลาด ตลอดจนการขยายตัวแทนจำหน่าย
“ภาพรวมตลาดรยนต์ไทยในช่วงไตรมาสสองเป็นต้นมามีอัตราการชะลอตัวอย่างมาก เนื่องจากปัจจัยบวกจากโครงการรถคันแรกหมดไป แต่ตลาดรถยนต์หรูไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับรถคันแรก ทำให้ภาพรวมเป็นไปตามปกติ และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง อย่างการเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา จนเมื่อกลางปีบริษัทได้ปรับเป้าหมายการขายใหม่ และในช่วงครึ่งหลังเชื่อมั่นว่าภาพรวมตลาดถรถหรู จะยังคงรักษาอัตราการขยายตัวไปจนถึงสิ้นปี จากปีที่ผ่านมาตลาดนี้มียอดขายประมาณ1.5 หมื่นคัน”
โดยในส่วนของบีเอ็มดับเบิลยู เชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดีต่อไปเช่นกัน เพราะนอกจากภาวะรวมของตลาดแล้ว ในช่วงครึ่งปีหลัง บีเอ็มดับเบิลยูมีการจัดกิจกรรมการตลาดต่อเนื่อง ล่าสุดได้จัดงาน “บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์โป 2013” ระหว่างวันที่ 5-8 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยการจัดแสดงรถบีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวนมากถึง 14 รุ่น พร้อมกันนี้ยังได้แนะนำรถรุ่นใหม่สู่ตลาดไทย คือ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Turismo เป็นรุ่น 320d ราคา 3.199 ล้านบาท ซึ่งเป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศที่เปิดราคาออกมา เพื่อรองรับรุ่นประกอบในไทย(CKD) ที่จะมีขึ้นในปีหน้าไว้พร้อมแล้ว จึงจะไม่มีการปรับราคาอีก และในงานนี้ยังได้นำรถต้นแบบ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4 คูเป้ มาเผยโฉมให้ลูกค้าได้สัมผัสใกล้ชิด ก่อนจะนำเข้ามาทำตลาดเป็นทาการ ในช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2013 ปลายปีนี้