วานนี้ ( 4 ก.ย.) นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) พร้อมด้วย นายวฤทธ์ ชินสาย ประธานชมรมร่วมใจไทยกู้ชาติ และกลุ่มภาคประชาชน ประกอบด้วย กลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน คณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ชมรมร่วมใจไทยกู้ชาติ สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา สมาคมเพื่อเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน และสำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า ร่วมแถลงข่าว เปิดตัวสภาปฏิรูปประเทศภาคประชาชน
โดยนายวฤทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นที่ชัดเจนว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และกลไกทางการเมืองหลายสมัย โดยเฉพาะรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ได้พากันปกครองประเทศไทยแบบไร้ประสิทธิภาพ และไร้ศีลธรรม สร้างความแตกแยกในบ้านเมือง กอบโกยผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง จนเกิดความเดือดร้อนทางสังคมและเศรษฐกิจ รวมทั้งคุณภาพชีวิตของประชาชนตกต่ำ จึงจำเป็นต้องร่วมกันดำเนินโครงการก่อตั้ง "สภาปฏิรูปประะทศไทยภาคประชาชน" โดยมีแนวทางการทำงานดังนี้
1. สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้มีความรู้ความสามารถจากหลากหลายสาขา เพื่อพัฒนารูปแบบและวิธีการปฏิรูปประเทศไทย
2. จัดทำแผนและโครงการเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศไทย เสนอต่อประชาชน เพื่อพิจารณาและพัฒนาสู่ผลสัมฤทธิ์
3.ให้การศึกษาแก่นักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน ให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย
4.ส่งเสริม สนับสนุนและดำเนินกิจกรรมทางการเมืองการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
5.ร่วมมือกับส่วนราชการ สถาบันศาสนา การศึกษา รัฐวิสาหกิจ องค์การทางธุรกิจ เอกชน ขบวนการประชาชนและชุมชนต่างๆ ในการพัฒนาประชาธิปไตยให้สังคมไทยมี "ความรู้ ความรัก ความสามัคคี" เป็นแบบอย่างแก่ประชาคมโลก
โดยตลอด 1 เดือนนับจากนี้ จะให้เครือข่ายลงพื้นที่รับฟัง ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงหลักการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง หลุดพ้นจากกรอบการครอบงำความคิดจากนักการเมือง เพื่อนำมาจัดทำเป็นรายงานข้อเสนอ ซึ่งก็จะมีการทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ทางสภาปฏิรูปฯ พร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกกลุ่มที่มีความมุ่งหมายจะทำให้ประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงรัฐบาลหากมีทัศนคติที่ตรงกัน ขณะเดียวกันเราก็ไม่ปฏิเสธว่า แกนนำกลุ่มบางคนมีการไปร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ แต่ก็ถือเป็นการไปร่วมเป็นรายบุคคล
ด้านนพ.นิรันดร์ กล่าวว่า ในปัจจุบันนี้ ภาคประชาชนมีการเติบโตขึ้นมาก และมีความหลากหลายทางความคิด การตั้งสภาปฏิรูปการเมืองภาค ประชาชนนั้น มีจุดมุ่งหมายให้ประชาชนทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสีใด ก็สามารถเข้าร่วมสภาดังกล่าวได้ เพราะเราต้องการความคิดที่หลากหลายแม้จะแตกต่างแต่ไม่แตกแยก ซึ่งการพูดคุยนี้จะทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจร่วมกันได้ อีกทั้งตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ กสม. เป็นองค์กรอิสระภาคสังคมทำงานกับภาคประชาชน และมีหน้าที่ประสานกับรัฐในการคุ้มครองประชาชน ไม่ใช่องค์กรอิสระภาคการเมืองเหมือน ศาลรัฐธรรมนูญ กกต. ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ตนพยายามยืนอยู่บนหลักสิทธิมนุษยชน แต่เราก็ไม่ปฏิเสธว่าการเมืองมักจะเข้ามาแทรกกสม. เพราะที่ผ่านมา กสม.มักจะถูกโยงให้เกี่ยวข้องทางการเมือง แต่ขอยืนยันว่า เรายึดหลักการทำงานที่เกี่ยวข้องกับหลักสิทธิมนุษยชนเท่านั้น
โดยนายวฤทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นที่ชัดเจนว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และกลไกทางการเมืองหลายสมัย โดยเฉพาะรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ได้พากันปกครองประเทศไทยแบบไร้ประสิทธิภาพ และไร้ศีลธรรม สร้างความแตกแยกในบ้านเมือง กอบโกยผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง จนเกิดความเดือดร้อนทางสังคมและเศรษฐกิจ รวมทั้งคุณภาพชีวิตของประชาชนตกต่ำ จึงจำเป็นต้องร่วมกันดำเนินโครงการก่อตั้ง "สภาปฏิรูปประะทศไทยภาคประชาชน" โดยมีแนวทางการทำงานดังนี้
1. สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้มีความรู้ความสามารถจากหลากหลายสาขา เพื่อพัฒนารูปแบบและวิธีการปฏิรูปประเทศไทย
2. จัดทำแผนและโครงการเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศไทย เสนอต่อประชาชน เพื่อพิจารณาและพัฒนาสู่ผลสัมฤทธิ์
3.ให้การศึกษาแก่นักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน ให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย
4.ส่งเสริม สนับสนุนและดำเนินกิจกรรมทางการเมืองการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
5.ร่วมมือกับส่วนราชการ สถาบันศาสนา การศึกษา รัฐวิสาหกิจ องค์การทางธุรกิจ เอกชน ขบวนการประชาชนและชุมชนต่างๆ ในการพัฒนาประชาธิปไตยให้สังคมไทยมี "ความรู้ ความรัก ความสามัคคี" เป็นแบบอย่างแก่ประชาคมโลก
โดยตลอด 1 เดือนนับจากนี้ จะให้เครือข่ายลงพื้นที่รับฟัง ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงหลักการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง หลุดพ้นจากกรอบการครอบงำความคิดจากนักการเมือง เพื่อนำมาจัดทำเป็นรายงานข้อเสนอ ซึ่งก็จะมีการทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ทางสภาปฏิรูปฯ พร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกกลุ่มที่มีความมุ่งหมายจะทำให้ประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงรัฐบาลหากมีทัศนคติที่ตรงกัน ขณะเดียวกันเราก็ไม่ปฏิเสธว่า แกนนำกลุ่มบางคนมีการไปร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ แต่ก็ถือเป็นการไปร่วมเป็นรายบุคคล
ด้านนพ.นิรันดร์ กล่าวว่า ในปัจจุบันนี้ ภาคประชาชนมีการเติบโตขึ้นมาก และมีความหลากหลายทางความคิด การตั้งสภาปฏิรูปการเมืองภาค ประชาชนนั้น มีจุดมุ่งหมายให้ประชาชนทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสีใด ก็สามารถเข้าร่วมสภาดังกล่าวได้ เพราะเราต้องการความคิดที่หลากหลายแม้จะแตกต่างแต่ไม่แตกแยก ซึ่งการพูดคุยนี้จะทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจร่วมกันได้ อีกทั้งตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ กสม. เป็นองค์กรอิสระภาคสังคมทำงานกับภาคประชาชน และมีหน้าที่ประสานกับรัฐในการคุ้มครองประชาชน ไม่ใช่องค์กรอิสระภาคการเมืองเหมือน ศาลรัฐธรรมนูญ กกต. ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ตนพยายามยืนอยู่บนหลักสิทธิมนุษยชน แต่เราก็ไม่ปฏิเสธว่าการเมืองมักจะเข้ามาแทรกกสม. เพราะที่ผ่านมา กสม.มักจะถูกโยงให้เกี่ยวข้องทางการเมือง แต่ขอยืนยันว่า เรายึดหลักการทำงานที่เกี่ยวข้องกับหลักสิทธิมนุษยชนเท่านั้น
