หลวงปู่พุทธอิสระ ชี้แจงกรณี พระน้ำฝนจะเข้ามาตรวจสิ่งเสพติดในวัดอ้อน้อย ไม่ถูกหลักการ ไม่มีการแจ้งไม่มีการประสาน ย้ำไม่มีรายชื่ออยู่ในคณะที่ต้องมาตรวจด้วย
หลวงปู่พุทธอิสระ วัดอ้อน้อย กล่าวถึงกรณีที่ หลวงพี่น้ำฝน ได้พากลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งมาที่วัดอ้อน้อย เพื่อทำการตรวจวสิ่งเสพติดในวัด “ชั้นไม่ปฎิเสธมติคณะสงฆ์ ยินดีให้เข้ามาตรวจมาตลอด ยินดีให้ความร่วมมือมา 20 กว่าปี แต่ที่ผ่านมาเรามีปัญหาเรื่องบุคคล เป็นที่รู้กันมาในหมู่ชาวบ้านว่า พระวินยาธิการมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับอย่างไร
คณะผู้เข้ามาตรวจ ถ้าดูข้อมูล คณะกลุ่มนี้ยกเว้นพระด้วยกัน บางคนเป็นบุคคลที่ไม่เกี่ยวกับศาสนาเลย ไม่เกี่ยวกับสำนักพุทธเลย แต่เป็นบริวารของนายน้ำฝน บางคนเป็นมือปืน บางคนเป็นขี้ยา อย่างภาพนี้ บางคนเป็นลูกน้องนักการเมืองใหญ่ บุคคลใกล้ชิดชี้ให้เห็น บางคนเคยทำงานการเมืองระดับท้องถิ่น บอกว่าคนนี้เป็นใคร ชื่ออะไร บางคนก็ติดยา มีคดีติดยา เข้ามาทำหน้าที่
มติคณะสงฆ์เป็นโครงการตรวจสิ่งเสพติดภายในวัด เจ้าอาวาสทุกวัดในจังหวัดนครปฐม รับรู้เมือ่เดือนมิถุนายน ให้หน่วยงานราชการร่วมกับคณะสงฆ์ เข้าไปตรวจสิ่งเสพติดภายในวัด
โดยมีผู้ว่าราชการจังวหัดเป็นประธานได้มอบให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพระพุทธ นครปฐม คณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบสิ่งเสพติดภายในวัด
อย่างไรก็ตาม หลวงปู่พุทธอิสระกล่าวว่า แล้วการมาครั้งนี้ก็ไม่ได้มีการประสานงานกับทางเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยเลย และในนี้ก็ไม่มีคำว่าพระวินยาธิการ แต่เขามาในฐานะพระวินยาธิการ ไม่ได้มาในฐานะเจ้าคณะปกครอง มาแบบจู่โจม ไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า แล้วตัวพระน้ำฝนก็ไม่มีรายชื่ออยู่ในคำสั่งมตินั้นแต่อย่างใด
ถ้าคำสั่งอย่างนี้เขาจะถือว่าเป็นคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ คณะปกครองตามลำดับชั้น ไม่ใช่พระวินยาธิการ เพราะพระวินยาธิการไม่มีกฎหมายรองรับ พระวินยาธิการคือลิ่วล้อของคณะจังหวัด มีหน้าที่ทำตามคำสั่งเจ้าคณะจังหวัด ตรวจพระก็ไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมายรองรับอำนาจของพระวินยาธิการ
เมื่อไม่มีก็ถือว่าเป็นผู้ทำงานแทน คณะจังหวัด เจ้คณะจังหวัดจะสั่งงานมาให้ทำ แต่ในกรณีอย่างนี้มันก็เหมือนกับการข้ามห้วยเข้ามาที่จะละลาบละล้วงทำกิจกรรมการงาน ซึ่งเจ้าคณะตำบลเขาก็ไม่ได้ ชอบนะ พวกนี้ยังบอกเลยว่า ท่านไม่ต้องเข้ามายุ่ง ขั้นตอนก็ไม่ได้ถูกต้องด้วย เพราะว่าถ้าถูกต้องเขาต้องแสดง มติของคณะสงฆ์ให้ทราบ ว่านี่คือมติ ผมมาตามมติของคณะสงฆ์ แล้วก็ต้องแจ้งให้เจ้าอาวาสประชุมให้พระสงฆ์รอพร้อม ไม่ใช่มาจู่โจม
ถ้าคุณจะไปหาเจ้าของบ้านแล้วไม่แจ้งคนในบ้านคุณจะหาเขาเจอไหม
ถ้าคุณรู้พฤติกรรมนายน้ำฝน เขาไม่ได้เข้าทุกวัดนะ เพราะวัดลูกศิษย์ที่อยู่นั้นอะ อย่างวัดธรรมศาลา เขาก็ไม่ได้เข้า และอีกหลายวัดโดยเฉพาะในนครชัยศรี ได้คุยกับเจ้าคุณวัดไร่ขิง เขาบอกว่าไม่ต้องเข้ามา เดี๋ยวตรวจเอง มันเป็นอำนาจของสมภารอยู่แล้วถ้าสมภารทำได้ ก็ไม่จำเป็นต้องขอส่วนกลางมาช่วย ถ้าวัดไหนที่สมภารอ่อนแอไม่สามารถจะทำได้จึงจะขอส่วนกลางเข้ามาร่วมมือช่วยในการตรวจให้ทุกวัดตรวจกันก่อน ถ้าเกินกำลังจึงจะขออำนาจส่วนกลางมาช่วย เช่นบางวัดในบางเลน ถ้าลูกวัดมีอำนาจบาตรใหญ่ต้องขอส่วนกลางมาช่วย
แต่วัดอ้อน้อยไมใช่อย่างนี้ วัดอ้อน้อยมีคนจะเข้ามาอยู่บุหรี่ยังดูดไม่ได้เลย แล้วคนจะบวชต้องใช้เวลา 6 เดือนถึงจะได้บวช เป็นวัดปฎิบัติที่ใครก็รู้กันไปทั่ว ไม่ใช่มาอยู่ง่ายๆ
เขามาผิดขั้นตอน เราไม่ได้ติดต่อให้มา แล้วม้าไม่ได้ประสานกันก่อนด้วย
พระน้ำฝนจะเลือกเข้าบางวัดเท่านั้น เช่น วัดพระงาม ที่เขาเข้าไปก็เพราะวัดพระงามเป็นโจทก์เขามาก่อน สมัยก่อนหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอสมัยก่อนเป็นอดีตสมภารวัดพระงาม ถ้าเขาอยู่เขาบอกเลยว่า นายน้ำฝนไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าอาวาส เผอิญเขาตายเสียก่อน นายน้ำฝนก็จะเข้าไป แต่ปัญหาคือ เช่นถามหลวงพ่อวัดไร่ขิง ท่านบอกเลยว่าในที่ประชุมเขาบอกว่าอย่าเอิกเกริก อย่าทำให้เป็นเรื่องเป็นราว อย่าทำให้วัดต้องเสียหายจาการไปตวจ หลายคนที่เข้ามาก็เป็นขี้ยา บางคนก็เป็นมือปืน
ถามหมอที่เป็นลูกศิษย์ ว่าถ้าน้ำยาที่เอาไปป้ายกับปัสสาวะ แค่ป้ายนิดเดียวน้ำยาอะไรก็ไม่รู้ ปัสสาวะเทวดายังม่วงเลย มีพระวินยาธิการที่ไม่เกี่ยว มีสาธารณสุข สื่อมาพร้อม มีตำรวจด้วย ถ้าเป็นพระวินยาธิการในอำเภอเราก็ไม่ว่า
อีกทั้งพระน้ำฝนก็อยู่คนละอำเภอ แล้วมาทำไม แต่เขาอ้างว่าเขาเป็นตำรวจพระ แล้วทำไมคุณไม่ไปทุกอำเภอ
สถานการณ์อย่างนี้อนุมานได้ทุกเรื่อง มากันเป็นกลุ่ม เป็นฝูงอย่างนี้ มีทั้งกล้อง มีทั้งนักเลง มีทั้งมือปืน มีทั้งติดยา มีทั้งตำรวจ
ก่อนหน้านั้น1วันชั้นทราบว่านายน้ำฝนจะเข้ามาตรวจ ฉันโทรไปประสานกับเจ้าคณะตำบลว่า ถ้าคณะสงฆ์มาตรวจผมก็ยินดี แต่ถ้านายน้ำฝนเข้ามาเราคงให้ตรวจไม่ได้ แจ้งไปผอ.สำนักสงฆ์ก่อนแล้ว1 วัน ก็รับปาก แต่รุ่งขึ้นโผล่มาเลย”
หลวงปู่พุทธอิสระ วัดอ้อน้อย กล่าวถึงกรณีที่ หลวงพี่น้ำฝน ได้พากลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งมาที่วัดอ้อน้อย เพื่อทำการตรวจวสิ่งเสพติดในวัด “ชั้นไม่ปฎิเสธมติคณะสงฆ์ ยินดีให้เข้ามาตรวจมาตลอด ยินดีให้ความร่วมมือมา 20 กว่าปี แต่ที่ผ่านมาเรามีปัญหาเรื่องบุคคล เป็นที่รู้กันมาในหมู่ชาวบ้านว่า พระวินยาธิการมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับอย่างไร
คณะผู้เข้ามาตรวจ ถ้าดูข้อมูล คณะกลุ่มนี้ยกเว้นพระด้วยกัน บางคนเป็นบุคคลที่ไม่เกี่ยวกับศาสนาเลย ไม่เกี่ยวกับสำนักพุทธเลย แต่เป็นบริวารของนายน้ำฝน บางคนเป็นมือปืน บางคนเป็นขี้ยา อย่างภาพนี้ บางคนเป็นลูกน้องนักการเมืองใหญ่ บุคคลใกล้ชิดชี้ให้เห็น บางคนเคยทำงานการเมืองระดับท้องถิ่น บอกว่าคนนี้เป็นใคร ชื่ออะไร บางคนก็ติดยา มีคดีติดยา เข้ามาทำหน้าที่
มติคณะสงฆ์เป็นโครงการตรวจสิ่งเสพติดภายในวัด เจ้าอาวาสทุกวัดในจังหวัดนครปฐม รับรู้เมือ่เดือนมิถุนายน ให้หน่วยงานราชการร่วมกับคณะสงฆ์ เข้าไปตรวจสิ่งเสพติดภายในวัด
โดยมีผู้ว่าราชการจังวหัดเป็นประธานได้มอบให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพระพุทธ นครปฐม คณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบสิ่งเสพติดภายในวัด
อย่างไรก็ตาม หลวงปู่พุทธอิสระกล่าวว่า แล้วการมาครั้งนี้ก็ไม่ได้มีการประสานงานกับทางเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยเลย และในนี้ก็ไม่มีคำว่าพระวินยาธิการ แต่เขามาในฐานะพระวินยาธิการ ไม่ได้มาในฐานะเจ้าคณะปกครอง มาแบบจู่โจม ไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า แล้วตัวพระน้ำฝนก็ไม่มีรายชื่ออยู่ในคำสั่งมตินั้นแต่อย่างใด
ถ้าคำสั่งอย่างนี้เขาจะถือว่าเป็นคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ คณะปกครองตามลำดับชั้น ไม่ใช่พระวินยาธิการ เพราะพระวินยาธิการไม่มีกฎหมายรองรับ พระวินยาธิการคือลิ่วล้อของคณะจังหวัด มีหน้าที่ทำตามคำสั่งเจ้าคณะจังหวัด ตรวจพระก็ไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมายรองรับอำนาจของพระวินยาธิการ
เมื่อไม่มีก็ถือว่าเป็นผู้ทำงานแทน คณะจังหวัด เจ้คณะจังหวัดจะสั่งงานมาให้ทำ แต่ในกรณีอย่างนี้มันก็เหมือนกับการข้ามห้วยเข้ามาที่จะละลาบละล้วงทำกิจกรรมการงาน ซึ่งเจ้าคณะตำบลเขาก็ไม่ได้ ชอบนะ พวกนี้ยังบอกเลยว่า ท่านไม่ต้องเข้ามายุ่ง ขั้นตอนก็ไม่ได้ถูกต้องด้วย เพราะว่าถ้าถูกต้องเขาต้องแสดง มติของคณะสงฆ์ให้ทราบ ว่านี่คือมติ ผมมาตามมติของคณะสงฆ์ แล้วก็ต้องแจ้งให้เจ้าอาวาสประชุมให้พระสงฆ์รอพร้อม ไม่ใช่มาจู่โจม
ถ้าคุณจะไปหาเจ้าของบ้านแล้วไม่แจ้งคนในบ้านคุณจะหาเขาเจอไหม
ถ้าคุณรู้พฤติกรรมนายน้ำฝน เขาไม่ได้เข้าทุกวัดนะ เพราะวัดลูกศิษย์ที่อยู่นั้นอะ อย่างวัดธรรมศาลา เขาก็ไม่ได้เข้า และอีกหลายวัดโดยเฉพาะในนครชัยศรี ได้คุยกับเจ้าคุณวัดไร่ขิง เขาบอกว่าไม่ต้องเข้ามา เดี๋ยวตรวจเอง มันเป็นอำนาจของสมภารอยู่แล้วถ้าสมภารทำได้ ก็ไม่จำเป็นต้องขอส่วนกลางมาช่วย ถ้าวัดไหนที่สมภารอ่อนแอไม่สามารถจะทำได้จึงจะขอส่วนกลางเข้ามาร่วมมือช่วยในการตรวจให้ทุกวัดตรวจกันก่อน ถ้าเกินกำลังจึงจะขออำนาจส่วนกลางมาช่วย เช่นบางวัดในบางเลน ถ้าลูกวัดมีอำนาจบาตรใหญ่ต้องขอส่วนกลางมาช่วย
แต่วัดอ้อน้อยไมใช่อย่างนี้ วัดอ้อน้อยมีคนจะเข้ามาอยู่บุหรี่ยังดูดไม่ได้เลย แล้วคนจะบวชต้องใช้เวลา 6 เดือนถึงจะได้บวช เป็นวัดปฎิบัติที่ใครก็รู้กันไปทั่ว ไม่ใช่มาอยู่ง่ายๆ
เขามาผิดขั้นตอน เราไม่ได้ติดต่อให้มา แล้วม้าไม่ได้ประสานกันก่อนด้วย
พระน้ำฝนจะเลือกเข้าบางวัดเท่านั้น เช่น วัดพระงาม ที่เขาเข้าไปก็เพราะวัดพระงามเป็นโจทก์เขามาก่อน สมัยก่อนหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอสมัยก่อนเป็นอดีตสมภารวัดพระงาม ถ้าเขาอยู่เขาบอกเลยว่า นายน้ำฝนไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าอาวาส เผอิญเขาตายเสียก่อน นายน้ำฝนก็จะเข้าไป แต่ปัญหาคือ เช่นถามหลวงพ่อวัดไร่ขิง ท่านบอกเลยว่าในที่ประชุมเขาบอกว่าอย่าเอิกเกริก อย่าทำให้เป็นเรื่องเป็นราว อย่าทำให้วัดต้องเสียหายจาการไปตวจ หลายคนที่เข้ามาก็เป็นขี้ยา บางคนก็เป็นมือปืน
ถามหมอที่เป็นลูกศิษย์ ว่าถ้าน้ำยาที่เอาไปป้ายกับปัสสาวะ แค่ป้ายนิดเดียวน้ำยาอะไรก็ไม่รู้ ปัสสาวะเทวดายังม่วงเลย มีพระวินยาธิการที่ไม่เกี่ยว มีสาธารณสุข สื่อมาพร้อม มีตำรวจด้วย ถ้าเป็นพระวินยาธิการในอำเภอเราก็ไม่ว่า
อีกทั้งพระน้ำฝนก็อยู่คนละอำเภอ แล้วมาทำไม แต่เขาอ้างว่าเขาเป็นตำรวจพระ แล้วทำไมคุณไม่ไปทุกอำเภอ
สถานการณ์อย่างนี้อนุมานได้ทุกเรื่อง มากันเป็นกลุ่ม เป็นฝูงอย่างนี้ มีทั้งกล้อง มีทั้งนักเลง มีทั้งมือปืน มีทั้งติดยา มีทั้งตำรวจ
ก่อนหน้านั้น1วันชั้นทราบว่านายน้ำฝนจะเข้ามาตรวจ ฉันโทรไปประสานกับเจ้าคณะตำบลว่า ถ้าคณะสงฆ์มาตรวจผมก็ยินดี แต่ถ้านายน้ำฝนเข้ามาเราคงให้ตรวจไม่ได้ แจ้งไปผอ.สำนักสงฆ์ก่อนแล้ว1 วัน ก็รับปาก แต่รุ่งขึ้นโผล่มาเลย”
