ฃเมื่อเร็วๆนี้ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม กล่าวระหว่างนำผู้บริหารกรมป่าไม้ ลงพื้นที่นำเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.1 ถึง นม.10 ทำการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง ในท้องที่บ้านหนองนกกระเต็น หมู่ที่ 16 ตำบลวังกระทะ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาว่า กรมป่าไม้ได้รับแจ้งจากราษฎรในพื้นที่ร้องเรียนพบการกระทำผิดกฎหมายป่าไม้ บุกรุก ยึดถือ ครอบครอง โดยการฝังหลักเสาปูนประมาณ1,000 ท่อน แสดงกรรมสิทธ์ ในบริเวณที่ดินดังกล่าว ซึ่งมีสภาพป่าเป็นป่าธรรมชาติ ภายหลังจากการได้รับแจ้งเหตุ ทางกรมป่าไม้โดยสำนักจัดการทรัพยากร ป่าไม้ที่ 8 ได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.1 (ปากช่อง) เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุพร้อมกับผู้ใหญ่บ้านหนองกระเต็น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ราษฎรทำการร้องเรียน พบว่าในที่เกิดเหตุนั้นมีการนำเสารั้วมาปักกั้นแบ่งเขตขึ้นไปยังบนภูเขา เพื่อเป็นการแสดงอาณาการครอบครองที่ดิน
ซึ่งพื้นที่เกิดเหตุไม่พบผู้กระทำความผิด หลังจากนั้นได้จับค่าพิกัดดาวเทียมในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 5 จุด ซึ่งคำนวณเป็นเนื้อที่ได้ 92-1-28 ไร่ หลังจากการตรวจสอบในแผนที่ที่แสดงการจำแนกการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ปรากฏว่าที่ดินแปลงดังกล่าว อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวงจึงได้ดำเนินการโดยการออกหนังสือ ที่ ทส 16194.3/3347ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 ให้เจ้าของ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ ผู้ครอบครอง ในพื้นที่บุกรุกแสดงสิทธิในที่ดินที่ได้มาตามกฎหมาย ให้แก่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) ทราบ ภายใน 30 วัน โดยนับตั้งแต่วันที่ทราบคำสั่ง หรือนับแต่วันปิดประกาศ ณ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ที่ว่าการอำเภอปากช่อง ที่ทำการกำนันตำบลวังกระทะ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน และสถานที่เกิดเหตุ แต่ถ้าไม่มีผู้ใดเข้าชี้แจงแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว ภายใน 30 วัน ตามประกาศดังกล่าว โดยการดำเนินการนี้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการการปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 29,30
ทั้งนี้หากปรากฏไม่มีผู้มาแสดงตนทางกรมป่าไม้ จึงมีคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง จังหวัดนครราชสีมา ที่ 110/2556 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2556 ให้ผู้บุกรุก ยึดถือ ครอบครอง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรืองดเว้นการกระทำใดในเขตป่าสงวน และรื้อถอน แก้ไข หรือทำด้วยประการใดแก่สิ่งที่เป็นอันตราย หรือสิ่งที่ทำให้เสื่อมสภาพเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง ท้องที่ตำบลวังกระทะ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่งนี้ หรือวันที่คำสั่งนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอปากช่อง ที่ทำการกำนันตำบลวังกระทะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 16 ต.วังกระทะ อบต.วังกระทะ สถานีตำรวจภูธรหนองสาหร่าย และสถานที่เกิดเหตุ ตามมาตรา 25 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 การนี้ได้ครบกำหนดให้รื้อถอนในวันที่ 4สิงหาคม 2556 เพื่อเป็นการป้องปราบไม่ให้มีการบุกรุกทำลายเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ภายหลังจากการยึดคืนพื้นที่บริเวณดังกล่าวแล้ว ประชาชนในท้องที่ได้ยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมป่าไม้ในการดำเนินการเพื่อจัดตั้งเป็นป่าชุมชน โดยการขอขึ้นทะเบียนกับกรมป่าไม้ และจะร่วมกันช่วยดูแลป่าในพื้นที่บริเวณดังกล่าวไม่ให้มีผู้บุกรุกเข้าถือครองใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยมิชอบ
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมป่าไม้เพียงหน่วยงานเดียว ไม่สามารถดูแลรักษาป่าสงวนแห่งชาติได้ทั้งหมดต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องที่ นับเป็นการบูรณาการการทำงานระหว่างภาครัฐกับประชาชนและทางกรมป่าไม้ก็จะดำเนินการอย่างเคร่งครัดกับผู้กระทำความผิด และเพิ่มมาตรการในการสอดส่องดูแลพื้นที่มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเรื่องการแก้ปัญหาการบุกรุกเข้าครอบครองพื้นที่ป่า รวมถึงการฟื้นฟูป่าไม้ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
ซึ่งพื้นที่เกิดเหตุไม่พบผู้กระทำความผิด หลังจากนั้นได้จับค่าพิกัดดาวเทียมในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 5 จุด ซึ่งคำนวณเป็นเนื้อที่ได้ 92-1-28 ไร่ หลังจากการตรวจสอบในแผนที่ที่แสดงการจำแนกการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ปรากฏว่าที่ดินแปลงดังกล่าว อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวงจึงได้ดำเนินการโดยการออกหนังสือ ที่ ทส 16194.3/3347ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 ให้เจ้าของ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ ผู้ครอบครอง ในพื้นที่บุกรุกแสดงสิทธิในที่ดินที่ได้มาตามกฎหมาย ให้แก่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) ทราบ ภายใน 30 วัน โดยนับตั้งแต่วันที่ทราบคำสั่ง หรือนับแต่วันปิดประกาศ ณ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ที่ว่าการอำเภอปากช่อง ที่ทำการกำนันตำบลวังกระทะ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน และสถานที่เกิดเหตุ แต่ถ้าไม่มีผู้ใดเข้าชี้แจงแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว ภายใน 30 วัน ตามประกาศดังกล่าว โดยการดำเนินการนี้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการการปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 29,30
ทั้งนี้หากปรากฏไม่มีผู้มาแสดงตนทางกรมป่าไม้ จึงมีคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง จังหวัดนครราชสีมา ที่ 110/2556 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2556 ให้ผู้บุกรุก ยึดถือ ครอบครอง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรืองดเว้นการกระทำใดในเขตป่าสงวน และรื้อถอน แก้ไข หรือทำด้วยประการใดแก่สิ่งที่เป็นอันตราย หรือสิ่งที่ทำให้เสื่อมสภาพเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง ท้องที่ตำบลวังกระทะ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่งนี้ หรือวันที่คำสั่งนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอปากช่อง ที่ทำการกำนันตำบลวังกระทะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 16 ต.วังกระทะ อบต.วังกระทะ สถานีตำรวจภูธรหนองสาหร่าย และสถานที่เกิดเหตุ ตามมาตรา 25 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 การนี้ได้ครบกำหนดให้รื้อถอนในวันที่ 4สิงหาคม 2556 เพื่อเป็นการป้องปราบไม่ให้มีการบุกรุกทำลายเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ภายหลังจากการยึดคืนพื้นที่บริเวณดังกล่าวแล้ว ประชาชนในท้องที่ได้ยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมป่าไม้ในการดำเนินการเพื่อจัดตั้งเป็นป่าชุมชน โดยการขอขึ้นทะเบียนกับกรมป่าไม้ และจะร่วมกันช่วยดูแลป่าในพื้นที่บริเวณดังกล่าวไม่ให้มีผู้บุกรุกเข้าถือครองใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยมิชอบ
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมป่าไม้เพียงหน่วยงานเดียว ไม่สามารถดูแลรักษาป่าสงวนแห่งชาติได้ทั้งหมดต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องที่ นับเป็นการบูรณาการการทำงานระหว่างภาครัฐกับประชาชนและทางกรมป่าไม้ก็จะดำเนินการอย่างเคร่งครัดกับผู้กระทำความผิด และเพิ่มมาตรการในการสอดส่องดูแลพื้นที่มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเรื่องการแก้ปัญหาการบุกรุกเข้าครอบครองพื้นที่ป่า รวมถึงการฟื้นฟูป่าไม้ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม