กาญจนบุรี - ป่าไม้กาญจนบุรี ร่วมกับทหาร ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน เดินเขาลุยป่าวัดพิกัดที่ดินกว่า 1,600 ไร่ หลังมีกลุ่มคนยื่นขอเอกเอกสารใบภาษีบำรุงท้องที่ (ภบ.ท.5) ต่อ อบต.ลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค 5 ราย รวมที่ดินทั้งหมด 6 แปลง ปรากฏพบอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (30 ส.ค.) นายบุญสืบ สมัครราช ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ราชบุรี พร้อมด้วยนายบุญชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) ร.ต.ท.ธีรโชติ นุ่นสพ รอง สว.กก.5 บก.ปทส. น.ส.ลาวัลย์ มะเจียกจร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ และเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 136 พร้อมกำลังร่วมกันเดินสำรวจเพื่อตรวจวัดพิกัดลงพื้นที่หมู่ 5 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบกรณีที่มีกลุ่มบุคคลได้ยื่นขอเอกเอกสารใบภาษีบำรุงท้องที่ หรือใบ ภบ.ท.5 ต่อ อบต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จำนวน 5 ราย รวมที่ดินทั้งหมด 6 แปลง เนื้อที่กว่า 1,612 ไร่ โดยผลการตรวจสอบโดยการเดินสำรวจและตรวจสอบพิกัดทางดาวเทียมพบว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นป่าสมบูรณ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย
นายบุญสืบ สมัครราช ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ราชบุรี เปิดเผยภายหลังว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ด.ต.ช่วง นาคทองคำ และ น.ส.จินตนา อินทร์สวาท ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลลุ่มสุ่ม ได้ยื่นเอกสารหลักฐานสำคัญร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก.ที่ สภ.ไทรโยค โดย พล.ต.ต.ศรีวราห์ ได้มอบหมายให้ตนดำเนินการสำรวจพื้นที่ทั้งหมด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกลุ่มคนที่นำเอกสารมายื่นขอออกใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ หรือใบ ภบ.ท.5 มีทั้งหมด 5 ราย 6 แปลง เนื้อที่รวมกัน 1,612 ไร่ โดยนำมายื่นพร้อมกันในวันที่ 27 มี.ค.2556 และมีผู้นำท้องที่เป็นผู้นำพาไปยื่นขอเอกสารเพื่อให้ อบต.ลุ่มสุ่ม แต่ได้รับการปฏิเสธไป เนื่องจากพบว่าที่ดินทั้งหมดพื้นที่ป่า และมีภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย โดยในท้ายเอกสารที่ขอยื่นขอออกเอกสารใบ ภบท.5 นั้น
ดังนั้น ในส่วนของกรมป่าไม้ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่เป็นผู้เสียหาย จึงต้องร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้กระทำความผิดตามหน้าที่ต่อไป และหากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ให้การสนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดก็จะมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ส่วนผู้ที่มีรายชื่อครอบครองที่ดินทั้ง 5 ราย ต้องแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54, 55, 72 ตรี ฐานยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14, 31 จากนั้นจะส่งสำนวนคดีให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เป็นผู้ดำเนินการทางคดีต่อไป
สำหรับพื้นที่ที่เข้าสำรวจในครั้งนี้ พบว่า ภายในเป็นภูเขาสูงต่ำสลับซับซ้อน มีต้นไม่ใหญ่นานาชนิดขึ้นปกคลุมอยู่เต็มพื้นที่ และไม่มีร่องรอยของการทำกินมาก่อน นอกจากนั้น ยังมีสัตว์ปีกนานาชนิดเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลลุ่มสุ่ม ซึ่งหากใครสามารถทำการยึดครองที่ดิน หรือผืนป่าดังกล่าวได้ จะมีมูลค่าเป็นเงินจำนวนมหาศาล การป้องกันไม่เพียงแต่เจ้าหน้าที่เท่านั้น ประชาชนที่อาศัยผืนป่าแห่งนี่ทำมาหากินตามวิถีชีวิตของชาวบ้าน ทุกคนจะต้องช่วยกันปกป้องผืนป่าที่มีเอาไว้เป็นสมบัติของชาติ และเพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาแหล่งธรรมชาติของบุตรหลานต่อไปในอนาคต
คลิกเพื่อชมคลิป