ASTVผู้จัดการรายวัน-เครือข่ายมูลนิธิผู้บริโภคและตัวแทนภาคประชาชน ยื่นศาลปกครองสูงสัดวันนี้ ขอคุ้มครองชั่วคราวกรณีรัฐบาลขึ้นราคาแอลพีจี 1 ก.ย. ประกาศตั้งโต๊ะล่ารายชื่อขับไล่ "เพ้ง" ก่อนยกระดับชุมนุมใหญ่ 9 ก.ย. หน้าตึก ปตท. ด้านเสื้อแดงขนม็อบหนุนรัฐบาล นัดปักหลัก 28-30 ส.ค. พลังงานประสานตำรวจคุม หวั่นเกิดม็อบชนม็อบ พร้อมสั่งสำรองน้ำมันรับวิกฤตซีเรีย
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า วันนี้ (29ส.ค.) เครือข่ายมูลนิธิผู้บริโภคและตัวแทนภาคประชาชนจะทำการยื่นหนังสือถึงศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้คุ้มครองชั่วคราวกรณีการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน (แอลพีจี) ที่รัฐบาลได้เห็นชอบจะดำเนินการในวันที่ 1 ก.ย.นี้
ในวันเดียวกัน เวลา 13.00 น. เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทยจะทำการแถลงจุดยืนถึงแนวทางการเคลื่อนไหวการคัดค้านการขึ้นราคาแอลพีจี เพื่อให้เกิดการปฏิรูปกิจการพลังงานไทยใหม่ โดยจะจัดกิจกรรมเปิดโต๊ะให้ประชาชนออกมาลงชื่อไล่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน และราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงานที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 1-8 ก.ย. และในวันที่ 9 ก.ย. จะเป็นการยกระดับการชุมนุมใหญ่หน้าตึกสำนักงานใหญ่ ปตท. วิภาวดีรังสิต
"เราจะดีเดย์การชุมนุมต่อต้านใหญ่วันที่ 9 เดือน 9 เวลา 09.00 น. จุดเดิมที่เคยมาเมื่อวันที่ 23 ส.ค. คือ หน้าตึกปตท. ด้านถนนวิภาวดี และยืนยันว่าการมาเคลื่อนไหวไม่มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง เราเป็นเวทีที่ต้องการให้ทุกสี ทุกคน เข้ามาร่วม เพื่อก่อให้เกิดการปฏิรูปพลังงานไทย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เราเองก็เคลื่อนไหวมาโดยตลอด ไม่ว่าจะรัฐบาลชุดไหน ดังนั้น วันนี้ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล ถ้าทำแบบนี้ เราก็เคลื่อนไหว"นายอิฐบูรณ์กล่าว
ทั้งนี้ ต้องการให้รัฐบาลได้ทบทวนนโยบายดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าการปรับราคา 18.13 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ไปสู่ระดับ 24.83 บาทต่อกก. โดยทยอยปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาทต่อกก. เริ่ม 1 ก.ย.จนถึงส.ค.2557 เป็นการดำเนินนโยบายที่ไม่ถูกต้องเพราะแม้ว่ารัฐบาลจะพยายามชี้แจงว่าการขึ้นราคาดังกล่าว เป็นการลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แต่เหตุใดรัฐบาลไม่เลือกวิธีที่ไม่เป็นภาระกับกองทุนน้ำมันฯ คือ การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงแอลพีจีสำหรับภาคปิโตรเคมีที่ขณะนี้เก็บเพียง 1 บาทต่อกก. ให้เท่ากับภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เก็บสูงสุดที่ 12.50 บ.ต่อกก. เพื่อความเท่าเทียมกัน ซึ่งจะมีเงินเข้ากองทุนฯ มาดูแลประชาชนได้อย่างง่ายๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค.เวลาประมาณ 15.00 น. กลุ่มเสื้อแดงที่ใช้ชื่อว่ารวมพลคนรักษ์พลังงานได้เดินทางมายังหน้าตึกสำนักงานใหญ่ ปตท. โดยมีการนำรถบรรทุกติดป้ายแดง ระบุรายละเอียดว่า "รวมพลคนรักษ์พลังงาน" สนับสนุนนโยบายรัฐบาล ยกเลิกเงินชดเชยกองทุนน้ำมันเพื่อลดราคาน้ำมันเบนซิน พบกัน ณ หน้าสำนักงานปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต 28-30 ส.ค.นี้ เวลา 15.00-21.00 น. โดยมีกลุ่มคนสวมเสื้อแดงเข้ามาร่วมรับฟังการปราศัยราว 100 คน ทำให้ตำรวจต้องออกมาระดมกำลังและนำเหล็กมากั้นเพื่อป้องกันการปะทะระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลและกลุ่มคนที่นั่งประท้วงการขึ้นราคาแอลพีจีอยู่ราว 4-5 คนที่ปักหลักหน้าประตูทางเข้าปตท.
ทั้งนี้ แกนนำที่ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ระบุว่า มาให้กำลังใจนายพงษ์ศักดิ์ และเห็นด้วยกับนโยบายขึ้นราคาแอลพีจีของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะยกเลิกเก็บเงินคนใช้น้ำมัน พร้อมกับโจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่า ก่อนหน้านั้นก็ขึ้นราคาแอลพีจี แต่คนกลุ่มนี้กลับเงียบไม่ต่อต้าน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกระทรวงพลังงานและ บมจ.ปตท. ได้ประสานกับตำรวจที่จะต้องตรึงกำลังและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการเกิดปะทะกันระหว่างม็อบสนับสนุนและคัดค้านที่คาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวที่จะมาเจอกันช่วงวันที่ 29 ก.ย.นี้ เป็นพิเศษ
ด้านนายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลยังมีนโยบายที่จะปรับขึ้นราคาแอลพีจีเพื่อที่จะลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเก็บจากผู้ใช้น้ำมันมาอุดหนุนแอลพีจี โดยยอมรับว่าขณะนี้มีความเป็นห่วงสถานการณ์ราคาน้ำมัน เนื่องจากกรณีสหรัฐฯ อาจโจมตีซีเรียและอาจมีผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันในแถบตะวันออกกลางและเกิดการกักตุนน้ำมัน ทำให้ราคาปรับขึ้นสูงได้ ประกอบกับค่าเงินบาทของไทยก็อ่อนค่า ซึ่งได้สั่งการให้ทุกส่วนได้เตรียมพร้อมในการดูเรื่องปริมาณสำรองน้ำมัน ส่วนระดับราคาน้ำมัน รัฐบาลพยายามจะดูแลระดับราคาขายปลีกทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซลไม่ให้เกินไปจากระดับปัจจุบัน โดยเฉพาะดีเซลที่ยังคงนโยบายเดิมไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงแตะ 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปตท.ไม่กังวล แต่เป็นห่วงสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ และWTI ปรับขึ้นทันที 3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลภายในวันเดียว (27 ส.ค.) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ไม่ธรรมดาจากความไม่สงบในซีเรียที่มีการใช้อาวุธเคมีเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมส่อเค้าเป็นจริง และความวุ่นวายในอียิปต์หลังปล่อยอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ให้เป็นอิสระ ทำให้สะท้อนราคาน้ำมันดิบขยับเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นนี้ ปตท. จะบริหารจัดการเพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันกระทบต่อผู้บริโภค
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า วันนี้ (29ส.ค.) เครือข่ายมูลนิธิผู้บริโภคและตัวแทนภาคประชาชนจะทำการยื่นหนังสือถึงศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้คุ้มครองชั่วคราวกรณีการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน (แอลพีจี) ที่รัฐบาลได้เห็นชอบจะดำเนินการในวันที่ 1 ก.ย.นี้
ในวันเดียวกัน เวลา 13.00 น. เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทยจะทำการแถลงจุดยืนถึงแนวทางการเคลื่อนไหวการคัดค้านการขึ้นราคาแอลพีจี เพื่อให้เกิดการปฏิรูปกิจการพลังงานไทยใหม่ โดยจะจัดกิจกรรมเปิดโต๊ะให้ประชาชนออกมาลงชื่อไล่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน และราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงานที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 1-8 ก.ย. และในวันที่ 9 ก.ย. จะเป็นการยกระดับการชุมนุมใหญ่หน้าตึกสำนักงานใหญ่ ปตท. วิภาวดีรังสิต
"เราจะดีเดย์การชุมนุมต่อต้านใหญ่วันที่ 9 เดือน 9 เวลา 09.00 น. จุดเดิมที่เคยมาเมื่อวันที่ 23 ส.ค. คือ หน้าตึกปตท. ด้านถนนวิภาวดี และยืนยันว่าการมาเคลื่อนไหวไม่มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง เราเป็นเวทีที่ต้องการให้ทุกสี ทุกคน เข้ามาร่วม เพื่อก่อให้เกิดการปฏิรูปพลังงานไทย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เราเองก็เคลื่อนไหวมาโดยตลอด ไม่ว่าจะรัฐบาลชุดไหน ดังนั้น วันนี้ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล ถ้าทำแบบนี้ เราก็เคลื่อนไหว"นายอิฐบูรณ์กล่าว
ทั้งนี้ ต้องการให้รัฐบาลได้ทบทวนนโยบายดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าการปรับราคา 18.13 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ไปสู่ระดับ 24.83 บาทต่อกก. โดยทยอยปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาทต่อกก. เริ่ม 1 ก.ย.จนถึงส.ค.2557 เป็นการดำเนินนโยบายที่ไม่ถูกต้องเพราะแม้ว่ารัฐบาลจะพยายามชี้แจงว่าการขึ้นราคาดังกล่าว เป็นการลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แต่เหตุใดรัฐบาลไม่เลือกวิธีที่ไม่เป็นภาระกับกองทุนน้ำมันฯ คือ การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงแอลพีจีสำหรับภาคปิโตรเคมีที่ขณะนี้เก็บเพียง 1 บาทต่อกก. ให้เท่ากับภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เก็บสูงสุดที่ 12.50 บ.ต่อกก. เพื่อความเท่าเทียมกัน ซึ่งจะมีเงินเข้ากองทุนฯ มาดูแลประชาชนได้อย่างง่ายๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค.เวลาประมาณ 15.00 น. กลุ่มเสื้อแดงที่ใช้ชื่อว่ารวมพลคนรักษ์พลังงานได้เดินทางมายังหน้าตึกสำนักงานใหญ่ ปตท. โดยมีการนำรถบรรทุกติดป้ายแดง ระบุรายละเอียดว่า "รวมพลคนรักษ์พลังงาน" สนับสนุนนโยบายรัฐบาล ยกเลิกเงินชดเชยกองทุนน้ำมันเพื่อลดราคาน้ำมันเบนซิน พบกัน ณ หน้าสำนักงานปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต 28-30 ส.ค.นี้ เวลา 15.00-21.00 น. โดยมีกลุ่มคนสวมเสื้อแดงเข้ามาร่วมรับฟังการปราศัยราว 100 คน ทำให้ตำรวจต้องออกมาระดมกำลังและนำเหล็กมากั้นเพื่อป้องกันการปะทะระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลและกลุ่มคนที่นั่งประท้วงการขึ้นราคาแอลพีจีอยู่ราว 4-5 คนที่ปักหลักหน้าประตูทางเข้าปตท.
ทั้งนี้ แกนนำที่ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ระบุว่า มาให้กำลังใจนายพงษ์ศักดิ์ และเห็นด้วยกับนโยบายขึ้นราคาแอลพีจีของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะยกเลิกเก็บเงินคนใช้น้ำมัน พร้อมกับโจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่า ก่อนหน้านั้นก็ขึ้นราคาแอลพีจี แต่คนกลุ่มนี้กลับเงียบไม่ต่อต้าน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกระทรวงพลังงานและ บมจ.ปตท. ได้ประสานกับตำรวจที่จะต้องตรึงกำลังและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการเกิดปะทะกันระหว่างม็อบสนับสนุนและคัดค้านที่คาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวที่จะมาเจอกันช่วงวันที่ 29 ก.ย.นี้ เป็นพิเศษ
ด้านนายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลยังมีนโยบายที่จะปรับขึ้นราคาแอลพีจีเพื่อที่จะลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเก็บจากผู้ใช้น้ำมันมาอุดหนุนแอลพีจี โดยยอมรับว่าขณะนี้มีความเป็นห่วงสถานการณ์ราคาน้ำมัน เนื่องจากกรณีสหรัฐฯ อาจโจมตีซีเรียและอาจมีผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันในแถบตะวันออกกลางและเกิดการกักตุนน้ำมัน ทำให้ราคาปรับขึ้นสูงได้ ประกอบกับค่าเงินบาทของไทยก็อ่อนค่า ซึ่งได้สั่งการให้ทุกส่วนได้เตรียมพร้อมในการดูเรื่องปริมาณสำรองน้ำมัน ส่วนระดับราคาน้ำมัน รัฐบาลพยายามจะดูแลระดับราคาขายปลีกทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซลไม่ให้เกินไปจากระดับปัจจุบัน โดยเฉพาะดีเซลที่ยังคงนโยบายเดิมไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงแตะ 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปตท.ไม่กังวล แต่เป็นห่วงสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ และWTI ปรับขึ้นทันที 3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลภายในวันเดียว (27 ส.ค.) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ไม่ธรรมดาจากความไม่สงบในซีเรียที่มีการใช้อาวุธเคมีเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมส่อเค้าเป็นจริง และความวุ่นวายในอียิปต์หลังปล่อยอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ให้เป็นอิสระ ทำให้สะท้อนราคาน้ำมันดิบขยับเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นนี้ ปตท. จะบริหารจัดการเพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันกระทบต่อผู้บริโภค