xs
xsm
sm
md
lg

แฉ US จะยิง “จรวดร่อน” ใส่ซีเรีย 2 วัน “อังกฤษ” เรียก ส.ส.ลงมติสำคัญพรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเจนซีส์ - สหรัฐฯและพันธมิตร แสดงท่าทีในวันอังคาร (27 ส.ค.) ว่ากำลังยิ่งขยับเข้าใกล้การเปิดฉากเล่นงานซีเรีย โดยรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมอเมริกัน ประสานเสียงว่าเตรียมจะเปิดเผยหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า รัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเคมีโจมตีผู้บริสุทธิ์ ขณะที่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่าประธานาธิบดี บารัค โอบามา กำลังพิจารณาเข้าโจมตีซีเรียแบบจำกัดพื้นที่และกรอบเวลา เพื่อไม่ให้อเมริกาต้องเข้าไปติดในวังวนสงครามกลางเมืองในประเทศนั้น ส่วนทางด้านนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ประกาศว่าจะมีการเรียกสมาชิกรัฐสภาที่อยู่ระหว่างพักร้อนให้กลับมาประชุมในวันพฤหัสบดี (29) เพื่ออภิปรายและลงมติเกี่ยวกับข้อเสนอของรัฐบาลในการตอบโต้เหตุการณ์ใช้ก๊าซพิษโจมตีใกล้ๆ กรุงดามัสกัสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

รัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ของสหรัฐฯ ออกมาแถลงในวันจันทร์ (26) โดยกล่าวหารัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือนที่มีทั้งเด็ก ผู้หญิง และผู้บริสุทธิ์อื่นๆ การกระทำเช่นนี้ถือเป็น “ความต่ำช้าทางศีลธรรม” และว่าแม้ประธานาธิบดีอัสซาด พยายามปกปิดความจริง แต่วอชิงตันกำลังร่วมกับพันธมิตรพิจารณาข้อมูลที่ได้มาเพิ่มซึ่งจะเปิดเผยต่อสาธารณชนในเร็ววันนี้

“ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เชื่อว่าผู้ที่ใช้อาวุธที่โหดเหี้ยมที่สุดของโลกต่อประชาชนที่อ่อนแอที่สุดจะต้องรับผิดชอบการกระทำนั้น”

ขณะที่ เจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาว สำทับว่า มีการใช้อาวุธเคมีโดยไม่อาจปฏิเสธได้ และมีข้อสงสัยน้อยมากว่าเป็นฝีมือรัฐบาลซีเรีย
รัฐมนตรีกลาโหม ชัค เฮเกล ของอเมริกา ซึ่งกำลังตระเวนเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ให้สัมภาษณ์บีบีซีในวันอังคาร (27) กล่าวย้ำคำแถลงของเคร์รีที่ว่า ในเร็วๆ นี้สหรัฐฯจะเผยแพร่หลักฐานที่ได้เพิ่มเติมซึ่งชี้ชัดว่าซีเรียใช้อาวุธเคมีต่อประชาชนของตนเอง พร้อมกันนั้นเขายังเน้นท่าทีเดิมที่ว่ากองทัพสหรัฐฯเตรียมพร้อมแล้วที่จะลงมือปฏิบัติการในทันทีที่ได้รับคำสั่ง
ทางด้านรัฐมนตรีกลาโหม ชัค เฮเกล ของอเมริกา ซึ่งกำลังตระเวนเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ให้สัมภาษณ์บีบีซีในวันอังคาร (27) กล่าวย้ำคำแถลงของเคร์รีที่ว่า ในเร็วๆ นี้ สหรัฐฯจะเผยแพร่หลักฐานที่ได้เพิ่มเติม ซึ่งชี้ชัดว่าซีเรียใช้อาวุธเคมีต่อประชาชนของตนเอง พร้อมกันนั้นเขายังเน้นท่าทีเดิมที่ว่ากองทัพสหรัฐฯเตรียมพร้อมแล้วที่จะลงมือปฏิบัติการในทันทีที่ได้รับคำสั่ง

คำกล่าวของเคร์รีและคาร์นีย์ตลอดจนเฮเกล มีขึ้นหลังจากที่คณะผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เริ่มเดินทางไปสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตจากการโจมตีด้วยอาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 355 คนจากอาการพิษต่อระบบประสาท

เมื่อวันจันทร์ (26) ซึ่งเป็นวันแรกของการทำงานตรวจสอบข้อกล่าวหาการใช้อาวุธเคมีในซีเรียครั้งล่าสุดนี้ ปรากฏว่าขบวนรถของคณะผู้ตรวจสอบยูเอ็นถูกซุ่มยิง ขณะเดินทางไปยังชานกรุงดามัสกัส ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรายงานว่าถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมีกลางสัปดาห์ที่แล้ว แต่หลังจากขบวนหยุดชะงักไประยะหนึ่งก็ได้เดินทางต่อ และ บัน คีมุน เลขาธิการยูเอ็นเผยว่า ทีมเจ้าหน้าที่ที่นำโดยเอกี เซลสโตรม ผู้เชี่ยวชาญสวีเดน สามารถรวบรวมหลักฐานมีคุณค่าได้จากการสัมภาษณ์พยาน ผู้รอดชีวิต และแพทย์ รวมถึงจากการเก็บตัวอย่าง

บัน เสริมว่า ยูเอ็นได้ร้องเรียนเรื่องที่เจ้าหน้าที่ถูกซุ่มยิงต่อรัฐบาลและกลุ่มกบฏซีเรีย ที่ต่างกล่าวโทษกันไปมาเช่นเดียวกับกรณีการโจมตีด้วยอาวุธเคมี

ด้านสหรัฐฯ กล่าวหากองทัพซีเรียเริ่มระดมโจมตีทันทีที่ทีมยูเอ็นเดินทางออกจากสถานที่ตรวจสอบเพื่อทำลายหลักฐาน
คณะผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติเข้าสอบถามเหยื่อที่ถูกอ้างว่าได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในแถบชานกรุงดามัสกัสของซีเรีย
ต่อมาในวันอังคาร (27) คณะตรวจสอบอาวุธยูเอ็นซึ่งมีกำหนดไปเก็บหลักฐานยังสถานที่เดิมเพิ่มเติมอีก ได้ประกาศเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่า เพราะฝ่ายกบฏซึ่งยึดครองบริเวณดังกล่าวอยู่ ยังไม่ได้ยืนยันรับประกันความปลอดภัยของคณะ

ในวันจันทร์ นอกจากความเคลื่อนไหวของฝ่ายสหรัฐฯและทีมตรวจสอบของยูเอ็นแล้ว ทางประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการทูตต่อซีเรียหลายครั้งด้วยการใช้สิทธิ์ยับยั้งมติของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอนของอังกฤษ ระหว่างหารือกันทางโทรศัพท์ว่า ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมี

มอสโก พันธมิตรที่มีอิทธิพลที่สุดของดามัสกัส ยังเตือนว่าการใช้กำลังกับซีเรียจะทำให้เกิดผลลัพธ์เลวร้าย พร้อมเรียกร้องให้วอชิงตัน “รอบคอบ” และปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งแสดงความเสียใจที่อเมริกาเลื่อนการประชุมกับรัสเซียเพื่อหาทางคลี่คลายวิกฤตซีเรียที่กำหนดไว้ในสัปดาห์นี้

คาเมรอนนั้นได้รีบเดินทางกลับจากการพักร้อนสู่ลอนดอน เพื่อวางแผนตอบโต้การโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรีย โดยอังกฤษและฝรั่งเศสกำลังแสดงตนเป็นแนวหน้าเรียกร้องให้ใช้มาตรการแข็งกร้าวกับอัสซาด

และเมื่อถึงวันอังคาร คาเมรอน แถลงว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรตกลงเห็นชอบให้เรียกประชุมสภาในวันพฤหัสบดี (29) เพื่ออภิปรายและลงมติเกี่ยวกับญัตติของรัฐบาล ในเรื่องวิธีการตอบโต้การโจมตีด้วยก๊าซพิษใส่บริเวณชานกรุงดามัสกัสในวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา
(แฟ้มภาพ) เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส จอห์น ซี.สเตนนิส ในช่องแคบฮอร์มุซ ขณะที่มีข่าวว่าสหรัฐฯเตรียมโจมตีซีเรียด้วยจรวดร่อน “โทมาฮอว์ก” จากเรือรบ
นอกจากนี้ มีรายงานว่านายทหารระดับสูงจากชาติตะวันตก และชาติมุสลิมเริ่มประชุมกันที่จอร์แดนเมื่อวันจันทร์ เพื่อหารือถึงผลกระทบจากสงครามในซีเรียที่มีต่อภูมิภาค ขณะที่ผู้แทนอาวุโสของอิสราเอลเยือนทำเนียบขาวเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับวิกฤตซีเรีย และโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะรัฐบาลสหรัฐฯว่า โอบามา กำลังพิจารณาโจมตีเป้าหมายในซีเรียแบบจำกัดเพื่อป้องกันไม่ให้อเมริกาถลำลึกเข้าสู่สงครามกลางเมือง โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน และเป็นการโจมตีด้วยจรวดร่อน “โทมาฮอว์ก” จากเรือรบ ซึ่งขณะนี้ประจำการอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว หรือไม่ก็เป็นการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล ต่อเป้าหมายทางทหารที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวรบอาวุธเคมี เพื่อป้องกันไม่ให้ก๊าซพิษแพร่กระจาย

ทั้งนี้การตัดสินใจดังกล่าวอิงกับ 3 ปัจจัย ได้แก่ รายงานการประเมินความผิดของรัฐบาลซีเรียจากการโจมตีด้วยอาวุธเคมีฉบับสมบูรณ์ การปรึกษากับพันธมิตรและรัฐสภาสหรัฐฯ และการพิจารณาความชอบธรรมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

โอบามาที่เพิ่งถอนทหารออกจากอิรักและกำลังจะยุติปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน ลังเลที่จะนำอเมริกาเข้าสู่สงครามอีก ในขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปโซส์ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันเสาร์ (24) พบว่า ชาวอเมริกันราว 60% คัดค้านการแทรกแซงทางทหาร มีเพียง 9% ที่เห็นว่า โอบามาควรจัดการกับซีเรีย

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ 2 คนจากคณะบริหารที่ไม่ประสงค์ออกนามแย้มว่า อเมริกาจะประกาศการตัดสินใจอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับแนวทางต่อซีเรียในวันอังคาร
กำลังโหลดความคิดเห็น