xs
xsm
sm
md
lg

เวทีปฏิรูปใส่เกียร์หมา เดินหน้าไปหาทางตัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**สำหรับฉาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ฤกษ์เบิกชัย เดินทางเข้าร่วมประชุมรัฐสภา เมื่อวันอังคารที่ 27ส.ค.ที่ผ่าน มา เพื่อทำหน้าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย เป็นภาพที่ไม่ได้หาชมหาดูกันง่ายๆ
**เพราะตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งส.ส. ไม่รวมในฐานะนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ เข้าไปเดินสะบัดผมซ้ายขวาไม่ถึง 5 ครั้งแน่ๆ
นอกจากจะทำเอาคนดูทางบ้านและคนที่รัฐสภาช็อกกับภาพเข้าร่วมประชุมสภาที่อยากจะบันทึกในประวัติศาสตร์ส่วนตัวของเธอให้โลกจดจำ สิ่งที่ทำคนดูไม่อยากเชื่อสายตาซ้ำสองคือ “ปูกรรเชียง”ที่คนนินทา หมาดูถูก ว่าเป็นจอมหนีสภา ยกมือขอชี้แจง หลังถูกพาดพิงเรื่องการแก้ไขปัญหายางพารา เอากันซะช็อกกันสองต่อ บางรายถึงกับเหน็บแนมแรงๆ นึกว่าไร้สคริปต์แล้วปากจะเป็นใบ้ !!
ทว่าถึงจะเข้าประชุมสภา และได้อ้าปากพูดเป็นประวัติศาสตร์ แต่เนื้อหาสาระยังเป็นประเภทติดลบไม่แตกต่างจากเดิม เพราะแทนที่คนฟังคนถามจะได้รับคำตอบที่พึงพอใจหรือเข้าใจ แต่สิ่งที่หลุดออกจากปาก “ปูกรรเชียง”ในการชี้แจงไม่กี่วินาที แทบไม่มีอะไรเป็นขั้นเป็นตอน หรือพอจะเห็นแสงสว่างปลายทางของปัญหา ได้แต่เห็นได้แต่ฟังลีลาการอ้าปากพูดในสภาในฐานะส.ส.ครั้งแรก เท่านั้น
ตามยี่ห้อการตลาดนำการเมือง ฉากสะบัดผมเข้าประชุมรัฐสภาให้ “ยิ่งลักษณ์”ยกมือพูดงวดนี้ จริงๆ ใครก็รู้ไส้รู้พุงกันทั้งนั้นว่า ไม่ใช่ความตั้งใจจริงที่อยากจะตอบคำถามในสิ่งที่สมาชิกคนอื่นอยากรู้ รวมไปถึงการที่ตั้งใจจะเข้าร่วมประชุมสภาในฐานะสมาชิกรัฐสภา
**แต่เป็นเพราะการเข้าร่วมประชุมรัฐสภา เป็นหนึ่งในเกมปาหี่ปฏิรูปประเทศด้วย !!
**ต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านั้นในการประชุมเวทีปฏิรูปหาทางออกประเทศไทยครั้งแรก ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา “ยิ่งลักษณ์”โดนนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ปาระเบิดใส่ในระหว่างประชุม เรื่องที่นายกฯ ไม่ค่อยจะให้ความสำคัญในการเข้าร่วมประชุมสภา
“ธีรภัทร์”อัดเต็มเหนี่ยว ใส่เลยว่า ถ้าคิดจะปฏิรูปควรจะเริ่มจากการปรับปรุงตัวเอง ง่ายๆ คือเรื่องใกล้ตัว อย่างการเข้าสภาที่นายกฯ ต้องทำ ตลอดจนคำสบประมาท เวทีปาหี่ ที่หลั่งไหลกันสาดใส่
แต่บังเอิญจังหวะเวลามันได้ มีการประชุมสภาเปิดช่องใว้พอดิบพอดี ด้วย พะยี่ห้อการตลาดชั้นเซียนของถนัด เลยปล่อย“ปูกรรเชียง”ไปโผล่อยู่ที่กลางห้องประชุมสภา ประกบข้างพี่สาวในไส้อย่าง “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เรียกสปอร์ตไลต์ทุกตัวให้ไปจับจ้อง
เท่านั้นยังไม่หนำใจ ยกมือชี้แจงสั้นๆ พอเป็นพิธี เพื่อเรียกความสนใจให้คูณสอง อย่างน้อยๆ ทุกฉบับ ทุกสำนักก็ต้องเล่นภาพนี้ขึ้นหน้าหนึ่ง ในฐานะนานทีปีหน นายกรัฐมนตรีจะดอดเข้าไปนั่งฟังอะไรที่เป็นสาระ จับต้องได้บ้าง
ทั้งที่จริงๆ แล้วการเข้าร่วมประชุมสภาฯ สำหรับคนเป็นส.ส. หรือนายกรัฐมนตรีแล้ว มันไม่ควรจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดอะไรเลย มิหนำซ้ำกลับเป็นหน้าที่ ที่โดยกมลสันดานคนเป็นผู้แทนจะต้องทำเพื่อให้สมกับที่ประชาชนอุตส่าห์ลงคะแนนให้
แต่เอาเป็นว่า ช็อตนี้สร้างภาพไปได้สมใจอยาก !!
**อีกผลลัพธ์หนึ่งที่ได้สมมุ่งหมาย ก็คือ คำค่อนแคะเรื่องโดดสภาที่ถูกฉีกหน้าไว้ในเวทีปฏิรูปงวดแรก รวมถึงการถูกโจมตีจากหลายฟากฝ่ายว่า เป็นเวทีปฏิลวง
ฉากเดินเข้าสภาตามข้อท้วงติง “ยิ่งลักษณ์”จึงได้ของไปอวดอ้างเรื่องความจริงใจ โดยเฉพาะการทำตามข้อเสนอแนะของ “ธีรภัทร์”ที่ใครก็รู้ว่าอยู่ในขั้วตรงข้ามรัฐบาล
ง่ายๆ คือ หาความชอบธรรม และข้ออ้างให้เวทีปฏิลวงพ่วงปาหี่ ดูดีมีน้ำหนัก แต่โทษทีชาวบ้านกินข้าว ไม่ได้กินแกลบหรือหญ้า จึงตามเกมทัน ไม่ตกอกตกใจอะไร แถมยังสมเพชกับพฤติกรรมอีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม นอกจาก “ยิ่งลักษณ์”ที่เที่ยวเดินสายพิสูจน์ว่า เวทีปฏิลวงหาทางตันประเทศ ไม่ใช่ปาหี่ระดับโลกแล้ว อีกฟากฝั่งก็เล่นละครได้สมบทบาทไม่แพ้กัน
ก็คงหนีไม่พ้นในคิวที่ “ปลาไหลตัวพ่อ” นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะที่ถูกมอบหมายให้เป็นตัวประสานในการตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ไม่รอช้าใส่เกียร์หมาเดินหน้าทันควัน ตามคำบัญชา และภารกิจที่ได้รับมอบ
เรียกว่า สมบทบาทจนน่าเขวี้ยงตุ๊กตาทองคำไปให้สักตัวสองตัว ชนิดได้รับมอบหมายปุ๊บ ก็เดินงานปั๊บ แถมจินตนาการว่า ประเทศจะเห็นแสงสว่างในอีกไม่นานต่อจากนี้ ตามคำที่โวๆ เป็นว่าวกระเด้าลม 3 เดือนคงเห็นอะไรเป็นรูปธรรมกันบ้าง
แถมยังคุยโวโอ้อวดจะเดินสายชวนคนนั้น คนนี้ มาเข้าร่วมเพิ่ม โดยเฉพาะคนที่ปฏิเสธมาก่อนหน้านี้ มั่นอกมั่นใจในเครดิตตัวเองเหลือเกินว่า คนอื่นจะเออออห่อหมกด้วย
**ทั้งๆ ที่ไม่ได้ชะเง้อคอออกไปดูโลกกว้างว่า ตั้งแต่ “ยิ่งลักษณ์”โยนขี้ให้เป็น“มือประสาน” กระแสตอบกลับจากสังคมเป็นอย่างไร เอาง่ายๆ แค่ในโลกโซเชียลมีเดีย ก็โดนถล่มกันจนเละ ทำนองถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แล้วมีหน้าอะไรมาทำงานดังกล่าว
เท่านั้นยังไม่พอ ยังโดนถ่มถุยจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะการไปขุดเอาวลีของเจ้าตัวที่เคยสำรอกเอาไว้ว่า “เป็นฝ่ายค้านแล้วอดอยากปากแห้ง” มาแฉพฤติกรรม
งานนี้ลองกล้าๆ ไปเคาะประตูบ้านฝ่ายที่เข้าไม่ร่วมในรอบแรกๆ เผลอๆ จะโดนถอนหัวหงอกกลับมาจนอายขายขี้หน้าเขาอีก
ไม่รู้ “ยิ่งลักษณ์”รู้หรือแกล้งไม่รู้ภูมิหลัง หรือนิสัยตรงนี้ของ “มือประสาน”รายนี้ หรือ จะโลกสวยคิดแค่เพียงเมื่อช่วงปี 2538 เห็นว่าเคยเป็นหัวหมู่ทำเรื่องการปฏิรูปสำเร็จมาแล้ว ก็เลยคิดว่าจะทำได้อีก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ลืมตาดูเลยว่า ยุคนั้นกับยุคนี้ สถานการณ์การเมืองมันคนละเรื่องกันแล้ว
**แค่แต่งตั้ง “ปลาไหลตัวพ่อ”เป็นตัวประสาน ก็เห็นปลายทางของเวทีปฏิรูปหาทางออกประเทศไทยของรัฐบาลว่า กำลังจะกลายเป็นเวทีปฏิลวง เพื่อถอยหลังสู่ทางตันประเทศ
เพราะหากคิดจะจะปฏิรูปจริงๆ เหตุใดไม่ใช่ใช้คนที่มีเครดิต หรือต้นทุนความน่าเชื่อถือจากสังคมมากกว่านี้ แต่แทนที่จะเลือกทำแบบนั้น กลับตรงกันข้าม ไปคว้าเอาคนที่ไหลไปเรื่อย เดี๋ยวซ้าย เดี๋ยวขวา มองผลประโยชน์เป็นตัวตั้งมาเป็นคนทำหน้าที่
** มองภาพรวมๆ ก็ล่มตั้งแต่ยังไม่เริ่มแล้ว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น