ASTVผู้จัดการรายวัน-กทพ.แจ้งปิดระบบเติมเงินสำรองบัตร Easy Pass ช่วง 4 ทุ่ม-ตี 4 ทุกช่องทาง เพื่อเร่งปรับปรุงระบบฐานข้อมูลและประมวลผลให้เสร็จใน 1 เดือนหลังถูกร้องเรียนการเติมเงินล่าช้า “อัยยณัฐ”ยอมรับระบบรวนเหตุคนใช้บัตรเพิ่มขึ้นมาก เผยสมาชิกบัตรเพิ่มเฉลี่ย 3 หมื่นใบ/เดือน คาดสิ้นปี 56 ยอดขยับเป็น 7 แสนใบ ยัน 1 ก.ย.ขึ้นค่าผ่านทางอีก 5 บาทไม่มีปัญหา เตรียมเพิ่มเจ้าหน้าที่ คาด ช่วง 1-2 เดือนแรกปริมาณจราจรลด10%
นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ.ได้ปรับแผนเพื่อเร่งรัดการปรับปรุงฐานข้อมูลและประสิทธิภาพการประมวลผลของระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติ (Easy Pass) ใหม่เพื่อให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนหรือในวันที่ 30 กันยายนนี้ จากเดิมที่จะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน โดยมีความจำเป็นต้องงดการเติมเงินสำรองค่าผ่านทางในช่วงเวลา 22.00น-04.00น. ในทุกช่องทางตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม-30กันยายน เพื่อความสะดวกในการปรับปรุงระบบ ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการเติมเงินได้ ทั้งตู้เก็บค่าผ่านทางพิเศษด้วยเงินสด, อาคารด่านเก็บค่าผ่านทางทุกแห่ง ,เคาน์เตอร์เซอร์วิส,ตู้ ATM , Internet Banking,Mobile Banking และบัตรเครดิตวีซ่า โดยยืนยันว่าระหว่างปรับปรุงฐานข้อมูลระบบ การใช้งานและการเติมงานในช่วงเวลาปกติยังทำได้ และมูลค่าในบัตรไม่มีการสูญหายแน่นอน
ทั้งนี้ ฐานข้อมูลกลางของระบบ (Center System : CS) และฐานข้อมูลกลางต้องทำการประมวลผล Easy Pass ปัจจุบันรองรับได้ 6 แสนเที่ยวต่อวัน ขณะที่ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีสมาชิกบัตรปัจจุบันถึง 6.6 แสนใบต่อวัน ในบางจังหวะข้อมูลอาจมีความล่าช้า โดยอัตราการเพิ่มของบัตรเฉลี่ย 1,000 ใบต่อวันหรือ 30,000 ใบต่อเดือน คาดว่าสิ้นปี 2556 จะมีผู้ใช้บัตรประมาณ 7 แสนใบ ซึ่งการปรับปรุงระบบครั้งนี้จะเพิ่มขีดความสามารถเป็น 1 ล้านเที่ยวต่อวัน และสามารถปรับปรุงให้มีขีดความสามารถรองรับได้สูงสุดถึง 2 ล้านเที่ยวต่อวัน จึงมั่นใจว่าหลังปรับปรุงเสร็จจะไม่มีปัญหาในการเติมเงินและตัดเงินแต่อย่างใด และจะมีการมอนิเตอร์การทำงานทุกๆ 3 เดือน เพื่อวางแผนการปรับปรุงระบบใหญ่ขยายขีดรองรับได้ทันกับจำนวนการใช้งานที่เพิ่มขึ้น
ส่วนการปรับค่าผ่านทางตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ กทพ.ได้เตรียมความพร้อมโดยเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลการจราจรหน้าด่าน ซึ่งจากสถิติการปรับขึ้นค่าผ่านทางเมื่อ 5 ปีก่อน พบว่าในช่วง 1-2 เดือนแรกปริมาณจราจรจะลดลงประมาณ 10% โดยปัจจุบันมีปริมาณรถ 1.7-1.8 ล้านเที่ยวต่อวันแต่หลังจากนั้นปริมาณจราจรจะกลับสู่ภาวะปกติ ส่วนระบบ Easy pass ได้เตรียมรองรับไว้แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทาน ขณะที่ทางบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL ได้ขอสงวนสิทธิ์เนื่องจากกทพ.ประกาศปรับขึ้นที่ 5 บาท (สำหรับรถ 4 ล้อ จาก 45 เป็น 50 บาท) แต่บริษัทเห็นว่าจะต้องปรับขึ้น 15 บาทจาก 45 เป็น 60 บาท จึงมีส่วนต่างกัน 10 บาท แต่ขณะนี้เอกชนยังไม่ได้ยื่นข้อพิพาทแต่อย่างใด
นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ.ได้ปรับแผนเพื่อเร่งรัดการปรับปรุงฐานข้อมูลและประสิทธิภาพการประมวลผลของระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติ (Easy Pass) ใหม่เพื่อให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนหรือในวันที่ 30 กันยายนนี้ จากเดิมที่จะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน โดยมีความจำเป็นต้องงดการเติมเงินสำรองค่าผ่านทางในช่วงเวลา 22.00น-04.00น. ในทุกช่องทางตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม-30กันยายน เพื่อความสะดวกในการปรับปรุงระบบ ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการเติมเงินได้ ทั้งตู้เก็บค่าผ่านทางพิเศษด้วยเงินสด, อาคารด่านเก็บค่าผ่านทางทุกแห่ง ,เคาน์เตอร์เซอร์วิส,ตู้ ATM , Internet Banking,Mobile Banking และบัตรเครดิตวีซ่า โดยยืนยันว่าระหว่างปรับปรุงฐานข้อมูลระบบ การใช้งานและการเติมงานในช่วงเวลาปกติยังทำได้ และมูลค่าในบัตรไม่มีการสูญหายแน่นอน
ทั้งนี้ ฐานข้อมูลกลางของระบบ (Center System : CS) และฐานข้อมูลกลางต้องทำการประมวลผล Easy Pass ปัจจุบันรองรับได้ 6 แสนเที่ยวต่อวัน ขณะที่ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีสมาชิกบัตรปัจจุบันถึง 6.6 แสนใบต่อวัน ในบางจังหวะข้อมูลอาจมีความล่าช้า โดยอัตราการเพิ่มของบัตรเฉลี่ย 1,000 ใบต่อวันหรือ 30,000 ใบต่อเดือน คาดว่าสิ้นปี 2556 จะมีผู้ใช้บัตรประมาณ 7 แสนใบ ซึ่งการปรับปรุงระบบครั้งนี้จะเพิ่มขีดความสามารถเป็น 1 ล้านเที่ยวต่อวัน และสามารถปรับปรุงให้มีขีดความสามารถรองรับได้สูงสุดถึง 2 ล้านเที่ยวต่อวัน จึงมั่นใจว่าหลังปรับปรุงเสร็จจะไม่มีปัญหาในการเติมเงินและตัดเงินแต่อย่างใด และจะมีการมอนิเตอร์การทำงานทุกๆ 3 เดือน เพื่อวางแผนการปรับปรุงระบบใหญ่ขยายขีดรองรับได้ทันกับจำนวนการใช้งานที่เพิ่มขึ้น
ส่วนการปรับค่าผ่านทางตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ กทพ.ได้เตรียมความพร้อมโดยเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลการจราจรหน้าด่าน ซึ่งจากสถิติการปรับขึ้นค่าผ่านทางเมื่อ 5 ปีก่อน พบว่าในช่วง 1-2 เดือนแรกปริมาณจราจรจะลดลงประมาณ 10% โดยปัจจุบันมีปริมาณรถ 1.7-1.8 ล้านเที่ยวต่อวันแต่หลังจากนั้นปริมาณจราจรจะกลับสู่ภาวะปกติ ส่วนระบบ Easy pass ได้เตรียมรองรับไว้แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทาน ขณะที่ทางบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL ได้ขอสงวนสิทธิ์เนื่องจากกทพ.ประกาศปรับขึ้นที่ 5 บาท (สำหรับรถ 4 ล้อ จาก 45 เป็น 50 บาท) แต่บริษัทเห็นว่าจะต้องปรับขึ้น 15 บาทจาก 45 เป็น 60 บาท จึงมีส่วนต่างกัน 10 บาท แต่ขณะนี้เอกชนยังไม่ได้ยื่นข้อพิพาทแต่อย่างใด
