xs
xsm
sm
md
lg

ดึงอินโดฯแทนมาเลย์-ตัวกลางถกดับไฟใต้-จี้ปลด"ภราดร"พ้นสมช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน/ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ -กลุ่มติดอาวุธ โพสต์คลิป อ้างมติสภาชูรอ อัดไทย ไม่ทำตามข้อเสนอ ก่อเหตุรุนแรงใส่ร้าย ลั่นไม่เจรจาแล้ว “ส.ส.ปชป.”ย้ำเคยเตือน เหตุบีอาร์เอ็น ไม่ใช่ของจริง ยุปลด "ภราดร"พ้นเก้าอี้เลขาสมช. “ประชา” แถแค่ชะลอพูดคุย รอข้อสรุปสัปดาห์หน้า งง! เล็งดึงอินโดเป็นคนกลางแทนมาเลย์ อ้างถูกมองมีส่วนได้ ส่วนเสีย คนร้ายแขวนป้ายผ้าและวางวัตถุต้องสงสัยป่วนในพื้นที่ คาดฝีมืออาร์เคเค

วานนี้(8 ส.ค.) เว็บไซต์ยูทูบ มีผู้ใช้นามว่า “Angkatan Bersenjata-BRN” เผยแพร่คลิป เรื่อง Pengistiharan keputusan Majlis Thura BRN เป็นภาษามลายู ความยาวคลิป 1 นาที 39 วินาที โพสต์ลงยูทูบวันที่ 6 ส.ค. โดยมีกลุ่มชายฉกรรจ์ สวมหมวกไหมพรม ปิดคลุมใบหน้า อ้างว่า เป็นแถลงการณ์มติสภาชูรอ หรือที่ปรึกษาบีอาร์เอ็น โดยชายอีก 2 คน ยืนด้านหลัง พร้อมอาวุธสงคราม

โดยเนื้อหาระบุว่า ประกาศมติสภาชูรอ (ที่ปรึกษา)บีอาร์เอ็น ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน บีอาร์เอ็น คือ ขบวนการหนึ่งที่ต้องการปลดปล่อยชาวปาตานีจากการกดขี่ของนักล่าอาณานิคมสยาม ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสถาปนาความยุติธรรม สันติภาพ และความสงบสุขแก่ชาวปาตานี ในความหมาย “แผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์และมีพระเจ้าผู้ทรงอภัย” เมื่อพิจารณาข้อเสนอ 5 ข้อแรกและเงื่อนไข 7 ข้อหลัง เพื่อบรรลุข้อตกลง (ความเข้าใจร่วม) 30 วันเดือนรอมฎอน และ 10 วันเดือนเชาวาล พบว่า นักล่าอาณานิคมสยามมิได้ปฏิบัติตามเลยแม้แต่ข้อเดียว ในทางกลับกันนักล่าอาณานิคมสยามทำการบ่อนทำลาย โกหก และยังคงเผยแผ่การใส่ร้ายกับชาวปาตานี

ดังนั้นเมื่อพิจารณาตามมติสภาชูรอ (ที่ปรึกษา) บีอาร์เอ็น ตราบใดที่นักล่าอาณานิคมสยามยังมีจุดยืนดังกล่าว ดังนั้นนักล่าอาณานิคมสยามไม่มีสิทธิที่สานต่อการสานเสวนาสันติภาพ และไม่มีสิทธิอยู่ในพื้นแผ่นดินปาตานี และจะไม่มีตัวแทน บีอาร์เอ็น ในการสานเสวนาสันติภาพกับตัวแทนนักล่าอาณานิคมสยามตลอดไป สุขสันต์วันตรุษอีดิ้ลฟิฏรฺ ขอความสันติสุข"

นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรมช.มหาดไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องยอมรับตั้งแต่ต้นว่ากลุ่มบีอาร์เอ็น ไม่เต็มใจและไม่ตั้งใจที่จะพูดคุยกับทางการไทย แต่ทางการมาเลเซียบีบบังคับให้กลุ่มนี้ไปอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ และลงนามพูดคุยสันติภาพ ซึ่งทางการมาเลเซียเปิดหน้าชัดเจนว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากให้กลุ่มนี้พิงหลัง การที่บีอาร์เอ็น ยุติพูดคุยตนก็ได้เตือนรัฐบาลตั้งแต่ต้นว่าผู้ที่มาพูดคุยไม่ใช่ตัวจริง ไม่มีอำนาจสั่งการให้กลุ่มเคลื่อนไหวในไทยยุติความรุนแรงได้ โดยเฉพาะช่วงเดือนรอมฏอนที่โทษกันไปมาว่าใครก่อเหตุการความไม่สงบจึงได้เบาะแสว่าจะล้มโต๊ะพูดคุยแล้ว

"ผมขอเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เพราะพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ คนปัจจุบันเป็นบุคคลภายนอก ไม่ได้รับความร่วมมือภายในสมช.มากเท่าไหร่ รวมทั้งขอให้ทบทวนคณะพูดคุยของทางการไทย คือ พล.ท.ภราดร พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากนี้ในช่วงวันฮารีรายอก็จะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น และทราบว่ารัฐบาลก็พูดคุยอยู่กับกลุ่มเบอร์ซาตูและพูโลอยู่ในขณะนี้ จึงอยากให้รัฐบาลหาผู้รับผิดชอบให้ชัดเจนและไม่ควรเปิดเผยเรื่องการพูดคุย เนื่องจากจะเกิดการแย่งกันได้หน้า "

ส่วนการเสียชีวิตของนายยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางจ.ปัตตานี ทราบว่ากลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่เป็นผู้ก่อเหตุ รัฐบาลต้องเข้มงวดกับกลุ่มนี้ให้มาก เพราะการเมืองท้องถิ่นก็จะเรียกใช้กลุ่มนี้บ่อยครั้ง รวมทั้งรัฐบาลควรให้ความสนใจประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการแสดงออกต่อเรื่องความไม่สงบ

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย ผ่านการรายงานของสันติบาลไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า กลุ่มบีอาร์เอ็นขอชะลอการพูดคุยสันติภาพออกไปก่อนจนกว่าฝ่ายไทยจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับข้อเสนอ 5 ข้อที่เคยยื่นต่อไทยไปก่อนหน้านี้

ประกอบด้วย 1.ไทยต้องยอมรับบทบาทของรัฐบาลมาเลเซียในฐานะตัวกลางในการพูดคุย 2.การพูดคุยต้องเฉพาะตัวกลุ่มบีอาร์เอ็นร่วมกับคณะของไทย 3.จะต้องอนุญาตให้กลุ่มผู้สังเกตการณ์จากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน องค์การความร่วมมือแห่งศาสนาอิสลาม(OCI) และองค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ (NGOs) เข้าร่วมในการสนทนาด้วย 4.ผู้ปกครองชาวสยามจะต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาอย่างไม่มีเงื่อนไข และจะต้องระงับการออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 5.จะต้องยอมรับสถานะของกลุ่มบีอาร์เอ็นในฐานะองค์กรเพื่อการปลดปล่อยปัตตานี มิใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน

ทั้งนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เตรียมจะประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์และแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อพิจารณา โดยนายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้ดำเนินการ คาดว่าน่าจะได้ผลสรุปที่ชัดเจน

พล.ต.อ.ประชา ระบุว่า หากการเจรจายุติ ผลกระทบที่สำคัญตามมาคือประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้อาจเสียขวัญได้

สำหรับคลิปที่ออกมาเผยแพร่ผ่านยูทูปล่าสุดและอ้างว่าเป็นกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ล้มการเจรจากับไทยนั้น รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้รับรายงานจากสันติบาลฝ่ายไทยแล้วเช่นกันว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นที่ไทยพูดคุยไม่ได้มีการประกาศชัดเจนแบบนั้น เนื่องจากบีอาร์เอ็นยังคงยืนยันว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือการเจรจา

พล.ต.อ ประชา ยังเห็นว่าหากไม่เจรจาก็จะเป็นการปฏิบัติการทางทหารฝ่ายเดียวซึ่งไม่เป็นผลดี ดังนั้นจึงควรเดินหน้าเจรจาต่อไปเพื่อยุติข้อขัดแย้งตามหลักสากล

ขณะเดียวกันยังได้รับการยืนยันจากผู้ประสานงานมาเลเซียว่าการเสียชีวิตของนายยะโก๊ป หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลาง จ.ปัตตานี ไม่ใช่การกระทำของกลุ่มบีอาร์เอ็นแต่เป็นฝีมือของกลุ่มที่ไม่ต้องการให้การเจรจาสำเร็จ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่าการสืบสวนสอบสวนของคดีมีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 90 คาดว่าจะสามารถออกหมายจับคนร้าย 2-3 คนได้เร็วๆ นี้ ส่วนเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากต้องการให้ตรวจสอบให้ละเอียด เพราะจากอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุมีความพัวพันกับหลายคดี

เวลา 07.50 น. ร.ต.ท.ศิโรดม ศรีปัญญา รอง สวป.สภ.รามัน จ.ยะลา พร้อมกำลังออกตรวจพื้นที่ตามแผนพิทักษ์เมือง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบผืนผ้าเขียนเป็นภาษารูมี (ภาษามาเลย์เขียนเป็นอักษรโรมัน) ขึงไว้ที่ประตู โรงงานไม้ยางเก่าบ้านลีนา หมู่ 1 ต.กายูบอเกาะ และ ปากทางเข้า ต.กอตอตือระ บริเวณบ้านบือยอง หมู่ที่ 3 ตำบลเดียวกัน พบผืนผ้ากว้างยาวขนาด 1x5 หลา ขึงขวางถนนอยู่ระหว่างต้นไม้ทั้งสองฝั่ง ข้อความภาษารูมีมีทั้งสีแดงและน้ำเงิน สีแดง ความว่า "เราจะเรียกคืนชาติพันธุ์มลายูจนกระทั่งเลือดหยดสุดท้าย"ส่วนสี น้ำเงินว่า "สวัสดีวันฮารีรายอ อีดิ้งฟิตริ ฮิจเราะห์ศักราช 1434 ขออโหสิกรรมทั้งกายและใจ"

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นฝีมือพวกแนวร่วมอาร์เคเค.วางแผนกันนำผืนผ้ามาวางไว้ปลุกระดมชาวมลายูชนส่วนใหญ่ในพื้นที่เพื่อสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในโอกาสวันตรุษอีดิ้ลฟิตริ วันฮารีรายอ หรือวันขึ้นปีใหม่

ส่วนที่สนามศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา มีพี่น้องประชาชนชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามใน จ.ยะลากว่า 1,000 คน ได้เดินทางร่วมพิธีละหมาดในวันฮารีรายอ

ที่ จ.นราธิวาส ชาวไทยมุสลิมร่วมประกอบพิธีละหมาดที่มัสยิดในหมู่บ้าน โดยมุสลิมทุกคนที่ไปเรียน หรือไปทำงานยังต่างพื้นที่ จะเดินทางกลับมายังภูมิลำเนาของตน เพื่อมาร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

ส่วนที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เป็นผู้นำสวดและบรรยายธรรม แทนนายยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีที่ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนในพื้นที่ จ.สงขลา มีการแขวนป้ายผ้าและวางวัตถุต้องสงสัยป่วนในพื้นที่ อ.เทพา และ อ.สะบ้าย้อย รวมทั้งหมด 7 จุด ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยนั้นมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง กระจายกำลังกันคุมเข้มตามพื้นที่ต่างๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น