xs
xsm
sm
md
lg

"ปู"จัดที่ดินล้างหนี้รถไฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 8 ส.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางไปราชการ จ.นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ โดยนายกฯ เดินทางไปยังสถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นประธานมอบนโยบายการพัฒนากิจการรถไฟ และเยี่ยมชมนิทรรศการ "ไทยแลนด์ 2020" และ "รถไฟ...เส้นทางแห่งความสุขและความภูมิใจของคนไทยทั่วประเทศ" โดยมีนายกิติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมว.คมนาคม พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ?นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมงาน
นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยขาดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมมานาน ทำให้เราสูญเสียโอกาสในการแข่งขัน และการลงทุนจากต่างประเทศ รัฐบาลจึงได้ผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม ภายใต้ยุทธศาสตร์ลดการขนส่งทางถนน มาสู่การขนส่งทางระบบราง เพิ่มความคล่องตัว ลดเวลาการเดินทางและการขนส่ง เพิ่มความปลอดภัย ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพ โดยการพัฒนาระบบรางรถไฟให้เป็นทางคู่ พัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟความเร็วสูง และการก่อสร้างทางสายใหม่ ไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ให้ประชาชนได้เข้าถึงโครงข่ายระบบรถไฟได้มากขึ้น และเชื่อมการเดินทางทั่วประเทศ

**ขุดทรัพย์ที่ดินรฟท.ล้างหนี้

จากนั้น นายกฯได้ร่วมประชุมการพัฒนาอนาคตรถไฟไทย บนรถไฟเที่ยวพิเศษกรุงเทพฯ-หัวหิน ขบวนที่ 941 ไปยังสถานีรถไฟ จ.นครปฐม โดยภายหลังการประชุม นายธีรัตถ์? รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯเสนอให้การรถไฟฯปรับโครงสร้างการบริหารงานให้เป็นโครงข่ายคมนาคมหลักของประเทศแบบครบวงจร โดยจะใช้สถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นต้นแบบในการพัฒนา สร้างมูลค่า พัฒนาบริการ บริหารทรัพยากร พัฒนาบุคลากรรองรับการขยายตัวในอนาคต
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ รฟท.ร่วมกับกระทรวงการคลัง สร้างต้นแบบพัฒนาและการบริหารสินทรัพย์ของรถไฟ และที่ประชุมสรุปเลือกเส้นทางรถไฟสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต และแอร์พอร์ตลิงค์ มาพัฒนาเป็นต้นแบบของรถไฟทั้งระบบ นอกจากนี้ยังมีมติให้นำพื้นที่ของการรถไฟที่มีอยู่ เช่น พื้นที่มักกะสัน และที่ดินริมแม่น้ำ ล้างหนี้ และภาวะขาดทุนสะสมให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย และลงทุนสร้างรถไฟทางคู่ใหม่อีก 3 เส้นทาง คือ เส้นทาง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร และเส้นทางภาชี-นครหลวง

**สักการะองค์พระปฐมเจดีย์

ต่อมา เวลา 10.20 น. นายกฯ และคณะเดินทางถึงสถานีรถไฟ จ.นครปฐม โดยมีนายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผวจ.นครปฐม พร้อมข้าราชการ และประชาชนจำนวนมากให้การต้อนรับ จากนั้นนายกฯ ออกเดินทางจากสถานีรถไฟนครปฐมโดยรถสองแถว ทะเบียน 10-2248 นครปฐม ไปองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งระหว่างทางนายกฯโบกมือทักทายประชาชนที่มาให้การต้อนรับ เมื่อนายกฯ เดินทางถึงองค์พระปฐมเจดีย์ ได้ทำความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กราบสักการะพระร่วงโรจนฤทธิ์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำ จ.นครปฐม และพบปะทักทายกับประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ระหว่างนั้นได้มีเด็กนักเรียนหญิง อายุ 8 ปีได้ร้องให้เข้าสวมกอดนายกฯ ด้วยความดีใจ

** "คาวเกิร์ลปู"บูรณาการโคนม
จากนั้น นายกฯ เดินทางด้วยขบวนรถยนต์ เยี่ยมชมโรงงานสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชอุปถัมภ์ ) ต.หนองโด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เข้ารับฟังบรรยายสรุปจากอธิบดีกรมปศุสัตว์ เรื่องการเลี้ยงโคนม และสถานการณ์การผลิตน้ำนมดิบ และดูขัั้นตอนการผลิต
โอกาสนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวมอบนโยบายแก่คณะผู้บริหารสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรีฯ และผู้บริหารส่วนราชการจังหวัดราชบุรี ว่า วัตถุประสงค์ของการมาดูงาน เป็นความต่อเนื่องจากการที่ได้นำตัวแทนเกษตรกรไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับการเลี้ยงโคนมที่ประเทศนิวซีแลนด์ โดยเห็นควรนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาการเลี้ยงโคนมของไทย และมีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกำหนดเขตโซนนิ่งพื้นที่การเกษตรให้มีความเหมาะสมเพียงพอต่อความต้องการของตลาด ซึ่งจ.ราชบุรีมีพื้นที่การเกษตรในการปลูกข้าวที่ได้ผลผลิตไม่มาก จึงเห็นควรให้นำพื้นที่ดังกล่าวมาปลูกพืชชนิดอื่น เช่น อ้อย หญ้าสำหรับเลี้ยงโคนม ข้าวโพดสำหรับผลิตเป็นอาหารสัตว์ หรือปรับพื้นที่ให้เป็นฟาร์มเลี้ยงโคนม ทั้งนี้ ขอให้จังหวัดราชบุรีพิจารณาความเหมาะสมกับความต้องการของประชาชนเป็นหลัก โดยรัฐบาลพร้อมทำงานสนับสนุนเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน สำหรับการเลี้ยงโคนมจะต้องร่วมกันวางแผนอย่างเป็นระบบ เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน นำเทคโนโลยีมาพัฒนาต่อยอดเพื่อให้เกิดประโยชน์มากขึ้นในภาพรวม และส่งผลให้รายได้ของประชาชนในจังหวัดราชบุรีเพิ่มขึ้น
"ขอมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามการทำงานและบูรณาการการทำงานอย่างเป็นระบบในเรื่องการเลี้ยงโคนม การตลาด อย่างครบวงจร พร้อมทั้งจัดหาแม่พันธุ์โคนมที่มีคุณภาพ พร้อมกับฝังชิพในแม่พันธุ์โคนมเพื่อจัดเก็บสถิติจำนวนผลผลิตน้ำนมดิบในแต่ละวัน รวมถึงจัดหาพื้นที่เพาะปลูกหญ้าและพันธุ์หญ้าที่ดีเพื่อเป็นอาหารให้กับโคนม และให้มีการส่งเสริมให้ความรู้กับบุคลากร เพิ่มทักษะในการเลี้ยงดูโคนม ทักษะการแปรรูปผลิตภัณฑ์นมด้วย นอกจากนี้ และขอมหมายให้จังหวัดราชบุรีสำรวจกำลังการผลิตและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ในจังหวัดให้สอดคล้องกับโรงงานผลิต สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมต่อไป" นายกรัฐมนตรีกล่าว

**แวะโครงการชั่งหัวมัน ดูช้างกุยบุรี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางต่อมายัง ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เยี่ยมชมโครงการชั่งหัวมัน ตามโครงการพระราชดำริ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้น เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์รวบรวมพืชเศรษฐกิจนานาชนิด และเพื่อเป็นแนวทางการทำการเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียงให้กับเกษตรกร โดยมีนายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง นำชมโครงการ
ต่อมาเวลา 17.40 น.นายกฯ เดินมายังอุทยานแห่งชาติกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมกิจกรรมอนุรักษ์ เนื่องในโอกาสมหามงคล 12 สิงหาคม มหาราชินี เรียนรู้และยืนยัน "กุยบุรีโมเดล" ที่ประสบความสำเร็จในการอนุรักษ์ช้างป่า และสัตว์ป่าดีเยี่ยมในระดับประเทศและระดับสากล พร้อมกันนี้ ยังได้ร่วมกิจกรรมส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์ ปลูกต้นไม้สร้างบ้านสัตว์ป่า ปลูกหญ้า ทำโป่งเทียม และทำการปล่อย กวาง เนื้อทราย ไก่ป่า จำนวน 81 ตัว จากนั้นเดินทางเข้าพักโรงแรมรีเจนซี่ หัวหิน
กำลังโหลดความคิดเห็น