ASTVผู้จัดการรายวัน-ผู้โดยสารนกแอร์แห่คืนตั๋วกลับกรุงเทพฯ ไม่เว้นกระทั่ง "บ่าววี อาร์สยาม" แม้จะมีรถรับส่งไปขึ้นเครื่องที่สนามบินอื่นก็ตาม คาดกู้เครื่องบินได้วันนี้ เหตุต้องรออุปกรณ์จากการบินไทยไปช่วย "ชัชชาติ"สั่งหาเหตุเครื่องไถลหลุดรันเวย์ บพ.ยันเครื่องบินปลอดภัย 100% รับสภาพอากาศมีผลต่อการขึ้นลง
จากกรณีที่เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินนกแอร์ รุ่นเที่ยวบิน DD7411 เกิดอุบัติเหตุไถลออกนอกรันเวย์ ที่ท่าอากาศยานตรัง เนื่องจากฝนตกหนัก ขณะกัปตันกำลังบังคับเครื่องวิ่งไปยังรันเวย์ฝั่งทิศตะวันออก เพื่อเลี้ยวล้อหน้าก่อนจะนำเครื่องทะยานขึ้น ส่งผลให้ล้อทั้งหมดจมลงไปในพื้นดิน ลึกประมาณครึ่งเมตร แต่ผู้โดยสารทั้ง 142 ชีวิตปลอดภัย เหตุเมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา
วานนี้ (7 ส.ค.) นายถาวร แสงอำไพ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานตรัง เปิดเผยว่า สายการบินนกแอร์ได้ประสานขอรถเครนขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ มายกตัวเครื่องบินขึ้นบนรันเวย์ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากล้อของเครื่องบินจมลงไปในพื้นทราย ทำให้รถเครนไม่สามารถลากขึ้นมาได้ จึงได้ประสานไปยังทีมช่าง พร้อมอุปกรณ์จากการบินไทย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้มาดำเนินการแทน
"ยังตอบไม่ได้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาแค่ไหนกว่าที่จะกู้เครื่องบินให้ขึ้นกลับมาบนรันเวย์ได้ เนื่องจากต้องรอการประชุมหารือกับทีมช่างจากกรุงเทพฯ แต่จะเร่งมือให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด หรืออย่างช้าภายในวันนี้"
สำหรับตัวเครื่องบิน จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบว่ามีจุดใดเสียหาย เพราะเป็นเพียงการไถลลื่นตกลงไปในพื้นดินเท่านั้น ส่วนสาเหตุให้รอผลจากคณะกรรมการของกรมการบินพาณิชย์ ซึ่งได้ลงมาตรวจสอบอย่างละเอียด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD7401 ตรัง-ดอนเมือง ซึ่งมีผู้โดยสารจองตั๋วเดินทางวันที่ 7 ส.ค. จำนวน 182 ราย เจ้าหน้าที่ได้จัดรถรับ-ส่งไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ส่วนสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD3242 ตรัง-ดอนเมือง ซึ่งมีผู้โดยสารจองตั๋ว 128 ราย เจ้าหน้าที่ได้จัดรถรับ-ส่งไปยังท่าอากาศยานกระบี่
อย่างไรก็ตาม จากกรณีดังกล่าว ทำให้มีผู้โดยสารคืนตั๋วกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง "บ่าววี อาร์สยาม" นักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ก็ยกเลิกเที่ยวบินกลับกรุงเทพฯ ด้วย
นายอำนวย จันทรัฐ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 8 เที่ยวบิน ในเส้นทางตรัง-กรุงเทพฯ และกรุงเทพฯ-ตรัง ของ 2 สายการบินนกแอร์ และสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งทางท่าอากาศยานตรัง ได้ประสานให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ ไปใช้บริการท่าอากาศยานอื่นแทนชั่วคราว โดยสายการบินนกแอร์ ให้ไปที่อากาศยานนครศรีธรรมราช ส่วนสายการบินแอร์เอเชีย ให้ไปที่ท่าอากาศยานกระบี่ จนกว่าจะกู้เครื่องบินนกแอร์ขึ้นมาได้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้กำชับให้กรมการบินพลเรือน (บพ.) เร่งตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ และกำหนดแผนเผชิญเหตุที่ชัดเจน เช่น หลังเกิดเหตุจะขอความช่วยเหลือเครื่องมือหนักจากที่ไหน ใช้เวลาเท่าไร และควรต้องฝึกซ้อมเป็นประจำ ส่วนสภาพอากาศนั้น มีหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบอยู่แล้วว่าจะปลอดภัยหรือไม่ในการนำเครื่องขึ้น-ลง เพราะถ้าไม่ปลอดภัยจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเครื่องขึ้น-ลงแน่นอน ซึ่งยอมรับท่าอากาศยานภูมิภาคที่อยู่ในความรับผิดชอบของ บพ.ต้องรองรับการเติบโตในส่วนภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาขยายขีดความสามารถ รวมถึงตรังซึ่งคนในพื้นที่เรียกร้องให้ขยายรันเวย์จาก 2,100 เมตร เพื่อรองรับเครื่องบินลำใหญ่ขึ้น
นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) กล่าวว่า บพ.ในฐานะผู้กำกับดูแล ยืนยันว่าเครื่องบินทุกลำไม่ว่าเก่าหรือใหม่ จะต้องมีความปลอดภัย 100% เนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบและซ่อมบำรุงตามมาตรฐาน และมีตัวชี้วัดอุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์ การนำเครื่องขึ้นแต่ละครั้งจะมีตรวจเช็คอีกก่อนด้วย
"ขณะนี้สภาพอากาศมีพายุฝนตกหนักลมแรงจึงทำให้เกิดเหตุถี่ ซึ่งปัจจัยหลักต้องขึ้นกับการตัดสินใจของนักบินด้วยว่าจะนำเครื่องขึ้น-ลงหรือไม่ กรณีฝนตกหนักนักบินไม่ควรนำเครื่องขึ้น ส่วนการลงจอดหากคิดว่าช่วงเวลานั้นลงไม่ได้ก็ไม่ควรพยายามลง ให้ไปใช้ท่าอากาศยานใกล้เคียงแทน แต่เท่าที่ผ่านมาจะพยายามลงครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ก่อนที่จะตัดสินใจไปใช้ท่าอากาศยานอื่น"นายวรเดชกล่าว
จากกรณีที่เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินนกแอร์ รุ่นเที่ยวบิน DD7411 เกิดอุบัติเหตุไถลออกนอกรันเวย์ ที่ท่าอากาศยานตรัง เนื่องจากฝนตกหนัก ขณะกัปตันกำลังบังคับเครื่องวิ่งไปยังรันเวย์ฝั่งทิศตะวันออก เพื่อเลี้ยวล้อหน้าก่อนจะนำเครื่องทะยานขึ้น ส่งผลให้ล้อทั้งหมดจมลงไปในพื้นดิน ลึกประมาณครึ่งเมตร แต่ผู้โดยสารทั้ง 142 ชีวิตปลอดภัย เหตุเมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา
วานนี้ (7 ส.ค.) นายถาวร แสงอำไพ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานตรัง เปิดเผยว่า สายการบินนกแอร์ได้ประสานขอรถเครนขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ มายกตัวเครื่องบินขึ้นบนรันเวย์ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากล้อของเครื่องบินจมลงไปในพื้นทราย ทำให้รถเครนไม่สามารถลากขึ้นมาได้ จึงได้ประสานไปยังทีมช่าง พร้อมอุปกรณ์จากการบินไทย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้มาดำเนินการแทน
"ยังตอบไม่ได้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาแค่ไหนกว่าที่จะกู้เครื่องบินให้ขึ้นกลับมาบนรันเวย์ได้ เนื่องจากต้องรอการประชุมหารือกับทีมช่างจากกรุงเทพฯ แต่จะเร่งมือให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด หรืออย่างช้าภายในวันนี้"
สำหรับตัวเครื่องบิน จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบว่ามีจุดใดเสียหาย เพราะเป็นเพียงการไถลลื่นตกลงไปในพื้นดินเท่านั้น ส่วนสาเหตุให้รอผลจากคณะกรรมการของกรมการบินพาณิชย์ ซึ่งได้ลงมาตรวจสอบอย่างละเอียด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD7401 ตรัง-ดอนเมือง ซึ่งมีผู้โดยสารจองตั๋วเดินทางวันที่ 7 ส.ค. จำนวน 182 ราย เจ้าหน้าที่ได้จัดรถรับ-ส่งไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ส่วนสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD3242 ตรัง-ดอนเมือง ซึ่งมีผู้โดยสารจองตั๋ว 128 ราย เจ้าหน้าที่ได้จัดรถรับ-ส่งไปยังท่าอากาศยานกระบี่
อย่างไรก็ตาม จากกรณีดังกล่าว ทำให้มีผู้โดยสารคืนตั๋วกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง "บ่าววี อาร์สยาม" นักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ก็ยกเลิกเที่ยวบินกลับกรุงเทพฯ ด้วย
นายอำนวย จันทรัฐ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 8 เที่ยวบิน ในเส้นทางตรัง-กรุงเทพฯ และกรุงเทพฯ-ตรัง ของ 2 สายการบินนกแอร์ และสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งทางท่าอากาศยานตรัง ได้ประสานให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ ไปใช้บริการท่าอากาศยานอื่นแทนชั่วคราว โดยสายการบินนกแอร์ ให้ไปที่อากาศยานนครศรีธรรมราช ส่วนสายการบินแอร์เอเชีย ให้ไปที่ท่าอากาศยานกระบี่ จนกว่าจะกู้เครื่องบินนกแอร์ขึ้นมาได้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้กำชับให้กรมการบินพลเรือน (บพ.) เร่งตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ และกำหนดแผนเผชิญเหตุที่ชัดเจน เช่น หลังเกิดเหตุจะขอความช่วยเหลือเครื่องมือหนักจากที่ไหน ใช้เวลาเท่าไร และควรต้องฝึกซ้อมเป็นประจำ ส่วนสภาพอากาศนั้น มีหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบอยู่แล้วว่าจะปลอดภัยหรือไม่ในการนำเครื่องขึ้น-ลง เพราะถ้าไม่ปลอดภัยจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเครื่องขึ้น-ลงแน่นอน ซึ่งยอมรับท่าอากาศยานภูมิภาคที่อยู่ในความรับผิดชอบของ บพ.ต้องรองรับการเติบโตในส่วนภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาขยายขีดความสามารถ รวมถึงตรังซึ่งคนในพื้นที่เรียกร้องให้ขยายรันเวย์จาก 2,100 เมตร เพื่อรองรับเครื่องบินลำใหญ่ขึ้น
นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) กล่าวว่า บพ.ในฐานะผู้กำกับดูแล ยืนยันว่าเครื่องบินทุกลำไม่ว่าเก่าหรือใหม่ จะต้องมีความปลอดภัย 100% เนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบและซ่อมบำรุงตามมาตรฐาน และมีตัวชี้วัดอุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์ การนำเครื่องขึ้นแต่ละครั้งจะมีตรวจเช็คอีกก่อนด้วย
"ขณะนี้สภาพอากาศมีพายุฝนตกหนักลมแรงจึงทำให้เกิดเหตุถี่ ซึ่งปัจจัยหลักต้องขึ้นกับการตัดสินใจของนักบินด้วยว่าจะนำเครื่องขึ้น-ลงหรือไม่ กรณีฝนตกหนักนักบินไม่ควรนำเครื่องขึ้น ส่วนการลงจอดหากคิดว่าช่วงเวลานั้นลงไม่ได้ก็ไม่ควรพยายามลง ให้ไปใช้ท่าอากาศยานใกล้เคียงแทน แต่เท่าที่ผ่านมาจะพยายามลงครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ก่อนที่จะตัดสินใจไปใช้ท่าอากาศยานอื่น"นายวรเดชกล่าว
