xs
xsm
sm
md
lg

คาดสนามบินตรังเปิดได้พรุ่งนี้ (8 ส.ค.) บพ.ชี้สภาพอากาศแปรปรวนอยู่ที่นักบินตัดสินใจด้วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
“ชัชชาติ” สั่งเร่งหาสาเหตุเครื่องนกแอร์ไถลหลุดรันเวย์สนามบินตรัง พร้อมกำชับปรับแผนประสานความช่วยเหลือหลังเครื่องมือจากสุราษฎร์ฯ ยก B737 ไม่ได้ บพ.คาดเปิดใช้ได้เช้าวันที่ 8 ส.ค. เผยเที่ยวบินของนกแอร์ และไทยแอร์เอเชียรวม 4 เที่ยวบินต้องไปใช้นครศรีธรรมราช และกระบี่แทน ยันตรวจสอบเครื่องบินตามมาตรฐานปลอดภัย 100% ชี้สภาพอากาศรุนแรง ขึ้น-ลงได้หรือไม่อยู่ที่นักบินตัดสินใจเป็นสำคัญ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่สายการบินนกแอร์เที่ยวบิน DD 7411 (ตรัง-ดอนเมือง) เกิดอุบัติเหตุไถลออกนอกรันเวย์ ท่าอากาศยานตรัง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ล่าสุดวันนี้ (7 ส.ค.) ท่าอากาศยานตรังยังคงต้องปิดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากเครื่องมือหนักจากสุราษฏร์ธานียังไม่สามารถกู้เครื่องบิน ให้พ้นจากรันเวย์ได้เนื่องจากเครื่องบิน B737 มีน้ำหนักมาก เครื่องบินจึงยังค้างอยู่จุดเดิม โดยอยู่ระหว่างประสานเพื่อนำเครื่องมือหนักของการบินไทยจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไปช่วย คาดว่าจะใช้เวลาถึงเที่ยงคืนวัน 7 สิงหาคมจึงจะเคลื่อนย้ายเครื่องบินพ้นรันเวย์และเปิดใช้ท่าอากาศยานตรังได้ในเช้าวันที่ 8 สิงหาคม 56

ทั้งนี้ ได้กำชับให้กรมการบินพลเรือน (บพ.) เร่งตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ และกำหนดแผนเผชิญเหตุที่ชัดเจนเช่น หลังเกิดเหตุจะขอความช่วยเหลือเครื่องมือหนักจากที่ไหน ใช้เวลาเท่าไร และควรต้องฝึกซ้อมเป็นประจำ ส่วนสภาพอากาศนั้นมีหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบอยู่แล้วว่าจะปลอดภัยหรือไม่ในการนำเครื่องขึ้น-ลง เพราะถ้าไม่ปลอดภัยจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเครื่องขึ้น-ลงแน่นอน ซึ่งยอมรับท่าอากาศยานภูมิภาคที่อยู่ในความรับผิอชอบของ บพ.ต้องรองรับการเติบโตในส่วนภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาขยายขีดความสามารถ รวมถึงตรังซึ่งคนในพื้นที่เรียกร้องให้ขยายรันเวย์จาก 2,100 เมตร เพื่อรองรับเครื่องบินลำใหญ่ขึ้น

นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีสายการบินนกแอร์ และไทยแอร์เอเชียที่ทำการบินที่ท่าอากาศยานตรังรวมวันละ 4 เที่ยวบิน โดยระหว่างปิดชั่วคราว นกแอร์จะไปใช้ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชแทน ส่วนไทยแอร์เอเชียใช้ท่าอากาศยานกระบี่ โดยนกแอร์จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในเดินทางของผู้โดยสารมายังตรัง ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารต้องใช้เวลาในการเดินทางมากขึ้น

ส่วนการตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้น บพ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะรู้ภายในบ่ายวันนี้ (7 ส.ค.) ทั้งนี้ บพ.ในฐานะผู้กำกับดูแลยืนยันว่าเครื่องบินทุกลำไม่ว่าเก่าหรือใหม่ จะต้องมีความปลอดภัย 100% เนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบและซ่อมบำรุงตามมาตรฐาน และมีตัวชี้วัดอุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์ การนำเครื่องขึ้นแต่ละครั้งจะมีตรวจเช็คอีกก่อนด้วย

สำหรับเหตุเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเครื่องบินโบอิ้ง 737 เที่ยวบินที่ ox833 เที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) ของสายการบินโอเรียนท์ไทยจากเมืองกุ้ยหยาง ประเทศจีน ไปยังท่าอากาศยานภูเก็ต แต่เจอสภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฝนตกหนัก นักบินเห็นว่าหากนำเครื่องลงอาจไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจนำเครื่องไปลงจอดที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานีแทน โดยระหว่างที่เครื่องกำลังลงจอดปรากฏว่ายางแตกนั้น เป็นอุบัติเหตุเกิดขึ้น 2 ครั้งในรอบ 1 สัปดาห์

นายวรเดชกล่าวว่า ในขณะนี้สภาพอากาศมีพายุฝนตกหนักลมแรง การเกิดเหตุถี่หรือไม่นั้นปัจจัยหลักต้องขึ้นกับการตัดสินใจของคนด้วย โดยเฉพาะการนำเครื่องขึ้น-ลง อยู่ที่การตัดสินใจของนักบิน กรณีฝนตกหนักนักบินก็ไม่ควรนำเครื่องขึ้น ส่วนการนำเครื่องลง หากคิดว่าลงไม่ได้ก็ไม่ควรพยายามลง ให้ไปใช้ท่าอากาศยานใกล้เคียงแทน แต่เท่าที่ผ่านมา เจะพยายามลงครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันท่าอากาศยานภูมิภาคของ บพ.ทุกแห่งมี 1 รันเวย์ การแก้ปัญหากรณีมีเครื่องบินหรือสิ่งแปลกปลอมขวางบนรันเวย์ คือต้องมีรันเวย์ที่ 2 เพื่อไม่ต้องปิดบริการ แต่การก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 ต้องดูปริมาณจราจรด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สูงมากเพียงพอและการบริหารท่าอากาศยานของบพ.เป็นไปตามหลักสากลที่ใช้ท่าอากาศยานใกล้เคียงเป็นท่าอากาศยานสำรองแทนกรณีเกิดเหตุรันเวย์ใช้งานไม่ได้

กำลังโหลดความคิดเห็น