xs
xsm
sm
md
lg

ติงTORเมล์NGVเปิดช่องค่ารถจีย-ญี่ปุ่น-คัสซีรถบรรทุกดัดแปลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-แฉซ้ำ TOR เมล์ NGV เลือกกำหนเฉพาะคุณสมบัติเครื่องยนต์ เปิดช่องค่ายรถใช้คัสซีรถบรรทุกมาดัดแปลงเป็นรถโดยสารชัดเจน ยันไม่ปลอดภัย แนะปรับกำหนดคุณสมบัติคัสซีรถโดยสารเพื่อครอบคลุมทั้งเครื่องยนต์และระบบเบรค เผยค่ายรถยุโรปไม่เหตุเสปครถสูงกว่า

นายนเรศ บุญเปี่ยม รองผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โครงการจัดซื้อรถโดย สารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (NGV) 3,183 คัน วงเงิน 13,162 ล้านบาท เปิดเผยว่า TOR จัดซื้อรถ NGV ไม่มีการล็อกเสปคหรือเอื้อประโยชน์ให้เฉพาะค่ายรถญี่ปุ่นและจีนโดยเฉพาะมีเงื่อนไขให้ผู้ประสงค์จะเสนอราคา ต้องมีผลงานการจำหน่ายรถโดยสาร ขนาด 12 เมตร (ความยาวไม่น้อยกว่า 11.50 และไม่เกิน 12.00 เมตร) ให้กับหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจหรือภาคเอกชนภายในประเทศไทย ต้องมีผลงานการให้บริการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) ที่นำมาประกอบเป็นรถโดยสารโดยมีระยะทางการวิ่งใช้งานต่อคันมาแล้วขอเครื่องยนต์ไม่น้อยกว่า 200,000 กิโลเมตร

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า กรณีเงื่อนไข TOR กำหนดคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานเฉพาะเครื่องยนต์ แต่ไม่ได้กำหนดคุณลักษณะคัสซีที่ผลิตมาเพื่อใช้ทำเป็นรถโดยสาร เป็นการเปิดช่องให้ใช้คัสซีรถบรรทุกมาดัดแปลงเป็นรถโดยสารได้ ซึ่งจะกระทบต่อความปลอดภัยแน่นอนโดย TOR ควรกำหนดคุณลักษณะของคัสซีทั้งคันมากกว่า ซึ่งจะครอบคลุมถึงเครื่องยนต์ ระบะเบรค
ส่วนการอ้างมาตรฐานUNECE นั้นเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจว่าจะมีผลกระทบต่อความปลอดภัยเช่นกัน เนื่องจาก

มาตรฐานUNECE R-85 ทีกำหนดนั้น กำกับเครื่องยนต์ที่เข้าประมูล แต่ไม่อ้างข้อกำหนดมาตรฐาน UNECE R -13 ว่าด้วยระบบห้ามล้อ ไว้ด้วย

"ต้องยอมรับ รถค่ายญี่ปุ่นและจีนได้เปรียบค่ายยุโรปอยู่แล้ว ไม่ต้องกำหนดเสปคเอื้อก็ชนะ เนื่องจาก การประมูลครั้งนี้ รถค่ายเบนซ์ หรือ กลุ่มสแกนดิเนเวีย ไม่สามารถยื่นประมูลได้เพราะมีมาตรฐานรถยูโร6 ราคาประมาณ 4 ล้านบาท/คัน สูงกว่าที่TOR รถNGV ขสมก.กำหนดแค่มาตรฐานยูโร 3 เท่านั้น"

แหล่งข่าวกล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่อนุมัตืซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คันนั้นได้เห็นชอบการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลของรถปัจจุบันเป็นเครื่องยนต์ใช้ก๊าซ NGV จำนวน323 คัน วงเงิน 535 ล้านบาทด้วย ซึ่งเป็นปรับอากาศยี่ห้อ ฮีโน่ทั้งหมด อายุ11- 15 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยมีการตั้งข้อสังเกตุว่า ขสมก.ไม่เปิดประมูล เจาะจงให้ฮีโน่เป็นผู้ปรับเปลี่ยนและมีการกำหนดใช้ถังแก้สใบเล็ก ทำให้ต้องเสียเวลาเติมแก้สวันละ 2 ครั้งในขณะที่พื้นที่ตัวถังสามารถติด

ตั้งถังแก้สใบใหญ่ได้ ซึ่งจะเติมเพียงวันละครั้ง เป็นการดำเนินการที่ทำให้ขสมก.เสียประโยชน์หรือไม่เพราะรถวิ่งได้ไม่เต็มที่ และมีข้อสังเกตุเพิ่มเติมอีกว่า กรณีดังกล่าวเพื่อประหยัดค่าเปลี่ยนเครื่องยนตเหลือประมาณคันละไม่เกิน 1ล้านบาท ขณะที่ตามกรอบได้อนุมัติไว้ถึงคันละ 1.65 ล้านบาท หรือเท่ากับมีเงินส่วนต่างเหลือกว่า200ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น