ประธานที่พักสงฆ์ขันติธรรมหนักใจศิษย์ "สมีคำ" ดื้อ ไม่ปฏิบัติกิจของสงฆ์ เหตุเคยอยู่สบาย ยังหวังลูกพี่กลับไทย 31 ก.ค. ด้านเมียดีเดย์ยื่นฟ้อง "สุริ" 30 ก.ค. ที่ศาลร้อยเอ็ด ล่าสุดย้ายลูกชายมาเรียนใกล้บ้าน กันถูกอุ้ม พศ.เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม "ยักยอกทรัพย์" กรณีสร้างพระแก้วมรกตจำลอง ด้าน "สงกรานต์" ปูดมีคนส่งข้อความระบุ "สมีคำ" โผล่สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งองค์กรอิสระ เปิดธนาคารสงฆ์ สะพัดอินเตอร์เน็ตอดีตพระเณรคำสึกจากการเป็นสมณเพศแล้วเมื่อ 3 วันก่อน เตรียมขอเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา
วานนี้ (28 ก.ค.) พระครูธรรมธรคำไข โสภาจาโร ประธานสงฆ์ที่พักสงฆ์ขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นำพระภิกษุและสามเณรออกบิณฑบาตที่บ้านดู่ ต.ยาง และ บ้านยาง ต.ยาง มีชาวบ้านร่วมทำบุญตักบาตรอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่บรรยากาศภายในที่พักสงฆ์เป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีเพียงคณะกรรมการวัดและชาวบ้าน 5-6 คน ที่มาจัดเตรียมภัตตาหารถวายพระภิกษุและสามเณร
พระครูธรรมธรคำไข โสภาจาโร กล่าวว่า ขเบื้องต้นได้พยายามปรับปรุงการปฏิบัติตัวของพระภิกษุและสามเณร เพราะที่ผ่านมาอยู่กันอย่างสะดวกสบาย จนอาตมารับหน้าที่มาดูแล ก็ยังมีพระสงฆ์บางรูปไม่ยอมปฏิบัติกิจของสงฆ์ และยังให้ชาวบ้านนำภัตตาหารไปถวายถึงในกุฏิ โดยไม่มาร่วมฉันกับพระรูปอื่น แต่โดยภาพรวมขณะนี้ ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ล่าสุด ได้หารือร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อจัดฝึกอบรมเยาวชน ตลอดจนนักศึกษา โดยให้มาศึกษาธรรมะในที่พักสงฆ์ขันติธรรม ซึ่งอยู่ระหว่างประสานสถานศึกษาในจังหวัด ส่วนการจัดตั้งให้เป็นวัดถูกต้อง นั้น นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ศรีสะเกษ เริ่มจัดทำแผนผังของที่พักสงฆ์แล้ว คาดว่าเดือนสิงหาคมคงรู้ผลว่าจะเป็นอย่างไร
"อาตมายอมรับว่าการมาดูแลที่พักสงฆ์ขันติธรรม เป็นเรื่องที่หนักใจ เพราะกลุ่มลูกศิษย์ ตลอดจนพระยังมีความหวังว่าอดีตพระวิรพล ฉัตติโก จะเดินทางกลับไทยวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งคงต้องรอให้ผ่านวันนั้นไปก่อน จึงจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงที่พักสงฆ์ให้เป็นรูปธรรมต่อไป"
ที่บ้านหนองนาเวียง ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ของน.ส.หญิง (นามสมมุติ) และลูกชายอายุ 11 ปี ที่ออกมาเปิดเผยตัวว่าเป็นภรรยาและบุตชายของอดีตหลวงปู่เณรคำ พบว่ายังคงดำรงชีวิตไปตามปกติ แม้จะเข้าไปอยู่ในโครงการคุ้มครองพยาน ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยมีตำรวจสภ.น้ำเกลี้ยง มาเฝ้ารักษาความปลอดภัยให้
น.ส.หญิง กล่าวถึงกรณีที่นายสุริ สุขผล น้องชายของนายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ให้สัมภาษณ์ว่ามีความสัมพันธ์กับน.ส.หญิง จนมีลูกด้วยกัน ทั้งยังกล่าวหาว่าคบผู้ชายหลายคนว่า ได้หารือกับทนายความและญาติพี่น้องแล้ว จะยื่นฟ้องนายสุริวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ข้อหาหมิ่นประมาท เพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง ที่ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ทำให้เสื่อมเสียเป็นอย่างมาก เพราะตนไม่เคยรู้จักกับนายสุริ ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ไม่เคยคบกับผู้ชายคนใด ที่ผ่านมามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอดีตหลวงปู่เณรคำเพียงคนเดียวจนมีลูกชายด้วยกัน
ส่วนลูกชายซึ่งก่อนหน้านี้เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตอ.เมือง และขาดเรียนประมาณ 2 สัปดาห์นั้น เพื่อความปลอดภัยของลูกชาย จึงขอย้ายมาเรียนที่โรงเรียนประถมศึกษาใกล้บ้าน ในเขตต.น้ำเกลี้ยง ในวันที่ 31 กรกฎาคม เนื่องจากเกรงว่าอาจถูกอุ้ม เพราะกำลังมีเรื่องการฟ้องร้องกับอดีตหลวงปู่เณรคำ
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ต้นเดือนสิงหาคม จะประชุมร่วมกับดีเอสไอ ถึงการแจ้งขอหานายวิรพลเพิ่มเติมเรื่องยักยอกทรัพย์ โดยเฉพาะการโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนร่วมบริจาคสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่หยกที่นำมาสร้างเป็นไม่ใช่ของจริง รวมทั้งไม่ขออนุญาตการสร้าง หรือขออนุญาตการเรี่ยไร
ด้านนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวว่า มีคนส่งข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กมาหาตน ซึ่งตรวจสอบแล้วเป็นคนไทยในเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 1-2 มิถุนายน อดีตพระวิรพลมาพักในเมืองเจนีวา และได้มีโอกาสสนทนาธรรมเรื่องการนั่งสมาธิ โดยอดีตพระวิรพลพูดขึ้นว่า อยากได้เสื้อกันหนาว ซึ่งสวย และชอบมาก ราคา 3,200 ยูโร พอพูดจบก็หันไปถามพระอีกรูปว่า คิดเป็นเงินไทยเท่าไหร่ และเย็นวันที่ 1 มิถุนายน เวลาประมาณ 19.00 น. มีการประชุมมีญาติโยมประมาณ 20 คน โดยอดีตพระวิรพล บอกว่าจะจัดตั้งองค์กรอิสระ จะเปิดเป็นธนาคารสงฆ์ พูดถึงเงินมากมายมหาศาล ที่จะนำมาเปิดธนาคาร ซึ่งตนจะนำข้อมูลและหมายเลขโทรศัพท์ไปมอบให้ดีเอสไอ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดมีข่าวเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตว่านายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ สึกจากการเป็นสมณเพศแล้วเมื่อ 3 วันก่อน หรือเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม และเตรียมขอเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา ทำให้พระที่เป็นลูกศิษย์อดีตเณรคำ รวมตัวกันที่ชั้น 3 ของที่พักสงฆ์ ที่เคยใช้เป็นห้องพักส่วนตัวของอดีตพระเณรคำ
พระวิโรจน์ อรินทโม พระลูกวัดที่พักสงฆ์ขันติธรรม กล่าวว่า ไม่ได้เคยได้ยินข่าวว่าสึก และหากสึกจริงเมื่อ 3 วันก่อนทำไมเพิ่งมาทราบเรื่อง อีกทั้งกุฏิที่พักสงฆ์ถูกล็อคกุญแจ ขึ้นไปที่ชั้นสามไม่ได้ จึงไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน.
วานนี้ (28 ก.ค.) พระครูธรรมธรคำไข โสภาจาโร ประธานสงฆ์ที่พักสงฆ์ขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นำพระภิกษุและสามเณรออกบิณฑบาตที่บ้านดู่ ต.ยาง และ บ้านยาง ต.ยาง มีชาวบ้านร่วมทำบุญตักบาตรอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่บรรยากาศภายในที่พักสงฆ์เป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีเพียงคณะกรรมการวัดและชาวบ้าน 5-6 คน ที่มาจัดเตรียมภัตตาหารถวายพระภิกษุและสามเณร
พระครูธรรมธรคำไข โสภาจาโร กล่าวว่า ขเบื้องต้นได้พยายามปรับปรุงการปฏิบัติตัวของพระภิกษุและสามเณร เพราะที่ผ่านมาอยู่กันอย่างสะดวกสบาย จนอาตมารับหน้าที่มาดูแล ก็ยังมีพระสงฆ์บางรูปไม่ยอมปฏิบัติกิจของสงฆ์ และยังให้ชาวบ้านนำภัตตาหารไปถวายถึงในกุฏิ โดยไม่มาร่วมฉันกับพระรูปอื่น แต่โดยภาพรวมขณะนี้ ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ล่าสุด ได้หารือร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อจัดฝึกอบรมเยาวชน ตลอดจนนักศึกษา โดยให้มาศึกษาธรรมะในที่พักสงฆ์ขันติธรรม ซึ่งอยู่ระหว่างประสานสถานศึกษาในจังหวัด ส่วนการจัดตั้งให้เป็นวัดถูกต้อง นั้น นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ศรีสะเกษ เริ่มจัดทำแผนผังของที่พักสงฆ์แล้ว คาดว่าเดือนสิงหาคมคงรู้ผลว่าจะเป็นอย่างไร
"อาตมายอมรับว่าการมาดูแลที่พักสงฆ์ขันติธรรม เป็นเรื่องที่หนักใจ เพราะกลุ่มลูกศิษย์ ตลอดจนพระยังมีความหวังว่าอดีตพระวิรพล ฉัตติโก จะเดินทางกลับไทยวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งคงต้องรอให้ผ่านวันนั้นไปก่อน จึงจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงที่พักสงฆ์ให้เป็นรูปธรรมต่อไป"
ที่บ้านหนองนาเวียง ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ของน.ส.หญิง (นามสมมุติ) และลูกชายอายุ 11 ปี ที่ออกมาเปิดเผยตัวว่าเป็นภรรยาและบุตชายของอดีตหลวงปู่เณรคำ พบว่ายังคงดำรงชีวิตไปตามปกติ แม้จะเข้าไปอยู่ในโครงการคุ้มครองพยาน ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยมีตำรวจสภ.น้ำเกลี้ยง มาเฝ้ารักษาความปลอดภัยให้
น.ส.หญิง กล่าวถึงกรณีที่นายสุริ สุขผล น้องชายของนายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ให้สัมภาษณ์ว่ามีความสัมพันธ์กับน.ส.หญิง จนมีลูกด้วยกัน ทั้งยังกล่าวหาว่าคบผู้ชายหลายคนว่า ได้หารือกับทนายความและญาติพี่น้องแล้ว จะยื่นฟ้องนายสุริวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ข้อหาหมิ่นประมาท เพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง ที่ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ทำให้เสื่อมเสียเป็นอย่างมาก เพราะตนไม่เคยรู้จักกับนายสุริ ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ไม่เคยคบกับผู้ชายคนใด ที่ผ่านมามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอดีตหลวงปู่เณรคำเพียงคนเดียวจนมีลูกชายด้วยกัน
ส่วนลูกชายซึ่งก่อนหน้านี้เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตอ.เมือง และขาดเรียนประมาณ 2 สัปดาห์นั้น เพื่อความปลอดภัยของลูกชาย จึงขอย้ายมาเรียนที่โรงเรียนประถมศึกษาใกล้บ้าน ในเขตต.น้ำเกลี้ยง ในวันที่ 31 กรกฎาคม เนื่องจากเกรงว่าอาจถูกอุ้ม เพราะกำลังมีเรื่องการฟ้องร้องกับอดีตหลวงปู่เณรคำ
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ต้นเดือนสิงหาคม จะประชุมร่วมกับดีเอสไอ ถึงการแจ้งขอหานายวิรพลเพิ่มเติมเรื่องยักยอกทรัพย์ โดยเฉพาะการโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนร่วมบริจาคสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่หยกที่นำมาสร้างเป็นไม่ใช่ของจริง รวมทั้งไม่ขออนุญาตการสร้าง หรือขออนุญาตการเรี่ยไร
ด้านนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวว่า มีคนส่งข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กมาหาตน ซึ่งตรวจสอบแล้วเป็นคนไทยในเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 1-2 มิถุนายน อดีตพระวิรพลมาพักในเมืองเจนีวา และได้มีโอกาสสนทนาธรรมเรื่องการนั่งสมาธิ โดยอดีตพระวิรพลพูดขึ้นว่า อยากได้เสื้อกันหนาว ซึ่งสวย และชอบมาก ราคา 3,200 ยูโร พอพูดจบก็หันไปถามพระอีกรูปว่า คิดเป็นเงินไทยเท่าไหร่ และเย็นวันที่ 1 มิถุนายน เวลาประมาณ 19.00 น. มีการประชุมมีญาติโยมประมาณ 20 คน โดยอดีตพระวิรพล บอกว่าจะจัดตั้งองค์กรอิสระ จะเปิดเป็นธนาคารสงฆ์ พูดถึงเงินมากมายมหาศาล ที่จะนำมาเปิดธนาคาร ซึ่งตนจะนำข้อมูลและหมายเลขโทรศัพท์ไปมอบให้ดีเอสไอ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดมีข่าวเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตว่านายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ สึกจากการเป็นสมณเพศแล้วเมื่อ 3 วันก่อน หรือเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม และเตรียมขอเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา ทำให้พระที่เป็นลูกศิษย์อดีตเณรคำ รวมตัวกันที่ชั้น 3 ของที่พักสงฆ์ ที่เคยใช้เป็นห้องพักส่วนตัวของอดีตพระเณรคำ
พระวิโรจน์ อรินทโม พระลูกวัดที่พักสงฆ์ขันติธรรม กล่าวว่า ไม่ได้เคยได้ยินข่าวว่าสึก และหากสึกจริงเมื่อ 3 วันก่อนทำไมเพิ่งมาทราบเรื่อง อีกทั้งกุฏิที่พักสงฆ์ถูกล็อคกุญแจ ขึ้นไปที่ชั้นสามไม่ได้ จึงไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน.
