ศรีสะเกษ - วัดป่าขันติธรรมเริ่มคึกรับเทศกาลเข้าพรรษา มี ปชช.ทยอยมากราบไหว้พระแก้วมรกตจำลอง และพิสูจน์ข่าวฉาว “สมีคำ” เผยปลดรูปภาพ “ไอ้คำ” ลงหมดเกลี้ยง ขณะประธานสงฆ์รูปใหม่ยันไม่จัดงานเข้าพรรษา แต่เตรียมจัดงานใหญ่ฉลองสมเด็จพระสังฆราชครบ 100 ปี3-4 ต.ค. นี้ เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของวัด
วันนี้ (21 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าขันติธรรม หรือพักสงฆ์ขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังคณะสงฆ์ศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต สั่งให้พระลูกศิษย์ของอดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ กลับไปจำพรรษาที่วัดต้นสังกัดแล้วนั้น ล่าสุด ขณะนี้บรรยากาศภายในวัดเริ่มคึกคักมากขึ้น เนื่องจากมีประชาชนจากหลายจังหวัดพากันเดินทางมากราบไหว้พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก และมาดูข้อเท็จจริงภายในวัดตามที่เป็นข่าวฉาวโด่งดังกันต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
ส่วนภายในกุฏิสงฆ์สีเขียวหลังใหญ่ที่เคยเป็นที่พักของอดีตหลวงปู่เณรคำ ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของวัดพากันเก็บรูปภาพต่างๆ ของอดีตหลวงปู่เณรคำที่ติดอยู่ภายในห้องรับรองญาติโยมเป็นจำนวนมากนำไปเก็บไว้ที่อื่น โดยแจ้งว่าจะนำเอาไปเก็บไว้ที่สำนักสงฆ์ขันติบารมี สาขา 8 อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ
สำหรับพระสงฆ์ภายในที่พักสงฆ์ขันติธรรม ขณะนี้มีอยู่ จำนวน 4 รูป ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะสงฆ์ศรีสะเกษให้อยู่จำพรรษา ขณะที่ร้านค้า และร้านจำหน่ายวัตถุมงคลได้ถูกปิดเงียบ ข้าวของต่างๆ ได้ถูกขนย้ายออกไปหมดแล้ว ส่วนตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีอยู่จำนวน 1 ตู้ ได้ถูกปิดล็อกไว้ไม่เปิดให้บริการแต่อย่างใด
นายสมพงษ์ ศรีแก้ว อายุ 47 ปี นักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่เข้ามากราบไหว้พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า ตนและครอบครัวทราบข่าวเกี่ยวกับอดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก และวัดป่าขันติธรรม ทางสื่อมวลชน ประกอบกับเป็นช่วงเข้าสู่เทศกาลเข้าพรรษา จึงได้พาครอบครัวและญาติพี่น้องมากราบไหว้พระ พร้อมจะได้ดูข้อเท็จจริงว่าวัดป่าขันติธรรมเป็นอย่างไร
ตนเห็นว่าคณะสงฆ์ศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ควรร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้าน พัฒนาวัดป่าขันติธรรมแห่งนี้ให้เป็นพุทธสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเขตอีสานใต้ เนื่องจากพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่นี้นับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่จะเป็นจุดสนใจให้ชาวไทยจากทั่วประเทศเข้ามากราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลได้เป็นอย่างดี
ทางด้าน พระครูธรรมธรคำไข ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์ศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ให้ทำหน้าที่ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม กล่าวว่า ในวันนี้อาตมาภาพพร้อมด้วยพระอีก 2 รูป จะเดินทางเข้าไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าขันติธรรม เพื่อจะได้ร่วมกับคณะสงฆ์ และชาวบ้านจัดระบบระเบียบการบริหารงานของวัดป่าขันติธรรมให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติของคณะสงฆ์
สำหรับการจัดงานในวันเข้าพรรษานั้น ในปีนี้จะยังไม่มีพิธีการอะไรมาก โดยจะมีเพียงการจัดพิธีถวายผ้าอาบน้ำฝนให้แก่พระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ในวัดป่าขันติธรรมเท่านั้น ส่วนรูปภาพต่างๆ ของอดีตหลวงปู่เณรคำ ที่ปลดลงนั้น จะนำภาพของสมเด็จพระสังฆราชมาติดตั้งแทน เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา
ทั้งนี้ ยอมรับว่าวัดป่าขันติธรรมยังมีปัญหามากมายที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาค่าใช้จ่ายภายในวัดที่สูงมาก โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าเดือนละประมาณ 20,000-30,000 บาท ซึ่งจะแก้ปัญหาโดยการประหยัดไฟฟ้า ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ
พระครูธรรมธรคำไข กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะได้หารือร่วมกับคณะสงฆ์ศรีสะเกษ และชาวบ้าน เพื่อเตรียมที่จะจัดงานใหญ่ของวัดป่าขันติธรรมขึ้นเป็นงานแรก คือ งานแสดงมุทิตาจิตฉลองสิริอายุครบ 100 ปี ของสมเด็จพระสังฆราช ในวันที่ 3-4 ต.ค. นี้ เพื่อเป็นการกอบกู้ชื่อเสียงของวัดป่าขันติธรรม ที่ได้รับความบอบช้ำมานาน ซึ่งการดำเนินการนั้นจะระดมความคิดความร่วมมือจากทุกฝ่ายมาเพื่อช่วยกันพัฒนาวัดป่าขันติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ขณะเดียวกัน ยังมีพระลูกศิษย์ของอดีตพระวิรพล ฉัตติโก จำนวน 3 รูป ได้พยายามติดต่อกับพระครูธรรมธรคำไข เพื่อขออนุญาตอยู่จำพรรษาที่วัดป่าขันติธรรมต่อไปเช่นเดิม แต่พระครูธรรมธรคำไข แจ้งว่า ให้เป็นอำนาจของเจ้าอาวาสวัดต้นสังกัดที่จะอนุญาตให้มาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าขันติธรรมได้หรือไม่ และได้แจ้งให้พระสงฆ์รีบไปรายงานตัวที่วัดต้นสังกัดโดยด่วน ก่อนจะถึงวันปวารณาเข้าพรรษาต่อไป