นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นห่วงกรณีที่รัฐบาลจะขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม ในวันที่ 1 ก.ย.56 โดยมีเป้าหมายที่จะปรับราคาเดือนละ 50 สตางค์ จนครบ 6 บาท ซึ่งจะทำให้แก๊สถัง 15 กิโลกรัมที่ปัจจุบันราคา 300 บาท จะขยับขึ้นเป็น 370 บาทต่อถัง สวนทางกับสิ่งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยระบุว่า จะกระชากค่าครองชีพลงมา แต่ทำไมจึงขึ้นค่าแก๊สหุงต้ม ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน โดยกระทรวงพลังงานอ้างว่า ต้นทุนแก๊สสูงและรัฐบาลต้องไปชดเชยให้ จึงขอตั้งคำถามถึง นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รมว.พลังงาน ว่า 1 กระทรวงพลังงานไม่เคยเปิดเผยการคำนวณต้นทุนแก๊สหุงต้มให้ประชาชนรับทราบ มีแต่ตัวเลขที่สมมติขึ้นมาเองทั้งสิ้น จึงขอเรียกร้องว่าก่อนมีการปรับราคาแก๊สหุงต้ม ต้องเปิดเผยต้นทุนตั้งแต่ปากหลุม ค่าขนส่ง การบรรจุ ไปจนถึงปลายทาง และต้องอธิบายว่า ทำไมรัฐบาลต้องมาขูดรีดกับคนจน เพราะนอกจากขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม 6 บาทแล้วยังมีแผนที่จะขึ้นราคาแก๊สเป็น 30 บาทต่อกิโลกรัม ให้เท่ากับภาคอุตสาหกรรมด้วย
นายชวนนท์ กล่าวว่า ตนมีความข้องใจเกี่ยวกับแนวทางที่รัฐบาลจะชดเชยให้กับคนจน โดยมีแผนงานที่จะช่วยประชาชน 3 กลุ่ม คือช่วยคนจนกลุ่มที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ 1.8 แสนครัวเรือน ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 90 หน่วยต่อเดือนจำนวน 7.43 ล้านครัวเรือน และหาบเร่แผงลอยอีก 1.6 แสนราย รวมรัฐจะต้องจ่ายชดเชยให้สามกลุ่มนี้ใช้แก๊สในราคาเดิมคิดเป็นเงินนับพันล้านบาทต่อเดือน แต่รัฐบาลกลับสร้างระบบการชดเชยที่ยุ่งยากซับซ้อน จนคนจนไม่น่าจะเข้าถึงการชดเชยของภาครัฐได้ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาการสวมสิทธิตามมา หากมีการสวมสิทธิเพียงแค่ครึ่งเดียวจะมีคนได้กำไรจากการชดเชยราคาแก๊สหุงต้มเดือนละหลายร้อยล้านบาท ซึ่งพรรคจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ว่าจะเกิดปัญหาซ้ำรอยกับกรณีคูปองพลังงานที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นหรือไม่
“ผมไม่เข้าใจวิธีการของกระทรวงพลังงาน ที่จะทำในวันที่ 1 กันยายน ซึ่งจะเริ่มขยับราคาแก๊สหุงต้ม เพราะมีการใช้วิธีประหลาด โดยให้คนที่อยู่ในกลุ่มได้รับการชดเชยจากรัฐต้องลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์มือถือ ต้องระบุรหัสผู้ใข้สิทธิ์ รหัสแก๊ส ขนาดถัง รหัสร้านค้า และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง จากนั้นจะได้รับเอสเอ็มเอสตอบกลับมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก จึงอยากถามว่า คนจนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ จะมีโทรศัพท์มือถือที่จะใช้สิทธิ เพื่อขอรับการชดเชยราคาแก๊สหุงต้มจากรัฐบาลหรือไม่ และคนจนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ จะเอาโทรศัพท์มือถือไปชาร์ตแบตเตอรี่ที่ไหน หรือว่าต้องไปชาร์ตจากไฟของเพื่อนบ้าน นี่ คือความผิดปกติของระบบที่กระทรวงพลังงานสร้างขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าจะเกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน”นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ กล่าวว่า ตนมีความข้องใจเกี่ยวกับแนวทางที่รัฐบาลจะชดเชยให้กับคนจน โดยมีแผนงานที่จะช่วยประชาชน 3 กลุ่ม คือช่วยคนจนกลุ่มที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ 1.8 แสนครัวเรือน ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 90 หน่วยต่อเดือนจำนวน 7.43 ล้านครัวเรือน และหาบเร่แผงลอยอีก 1.6 แสนราย รวมรัฐจะต้องจ่ายชดเชยให้สามกลุ่มนี้ใช้แก๊สในราคาเดิมคิดเป็นเงินนับพันล้านบาทต่อเดือน แต่รัฐบาลกลับสร้างระบบการชดเชยที่ยุ่งยากซับซ้อน จนคนจนไม่น่าจะเข้าถึงการชดเชยของภาครัฐได้ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาการสวมสิทธิตามมา หากมีการสวมสิทธิเพียงแค่ครึ่งเดียวจะมีคนได้กำไรจากการชดเชยราคาแก๊สหุงต้มเดือนละหลายร้อยล้านบาท ซึ่งพรรคจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ว่าจะเกิดปัญหาซ้ำรอยกับกรณีคูปองพลังงานที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นหรือไม่
“ผมไม่เข้าใจวิธีการของกระทรวงพลังงาน ที่จะทำในวันที่ 1 กันยายน ซึ่งจะเริ่มขยับราคาแก๊สหุงต้ม เพราะมีการใช้วิธีประหลาด โดยให้คนที่อยู่ในกลุ่มได้รับการชดเชยจากรัฐต้องลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์มือถือ ต้องระบุรหัสผู้ใข้สิทธิ์ รหัสแก๊ส ขนาดถัง รหัสร้านค้า และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง จากนั้นจะได้รับเอสเอ็มเอสตอบกลับมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก จึงอยากถามว่า คนจนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ จะมีโทรศัพท์มือถือที่จะใช้สิทธิ เพื่อขอรับการชดเชยราคาแก๊สหุงต้มจากรัฐบาลหรือไม่ และคนจนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ จะเอาโทรศัพท์มือถือไปชาร์ตแบตเตอรี่ที่ไหน หรือว่าต้องไปชาร์ตจากไฟของเพื่อนบ้าน นี่ คือความผิดปกติของระบบที่กระทรวงพลังงานสร้างขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าจะเกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน”นายชวนนท์ กล่าว