นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าชี้แจงนโยบายการปรับราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีครัวเรือน ที่จะเริ่มวันที่ 1 กันยายนนี้ ต่อคณะกรรมาธิการการการพลังงาน และกรรมาธิการการเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร โดยระบุถึงความจำเป็นในการปรับราคา เพราะประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี จะมีผลในปี 2558 หากไม่ปรับราคาอาจทำให้คนไทยต้องอุดหนุนให้สมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ แต่การทยอยปรับราคา จะไม่ได้ปรับขึ้นตามราคาตลาดโลกทั้งหมด เป็นการปรับขึ้นตามต้นทุนในประเทศคือ อ้างอิงราคาหน้าโรงแยกก๊าซของ ปตท.ที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม และจะทยอยปรับเดือนละ 50 สตางค์ โดยไม่ให้กระทบต่อผู้ที่มีรายได้น้อย ซึ่งจะทดสอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือในเดือนสิงหาคม ก่อนเริ่มปรับราคา 1 กันยายน
ทั้งนี้ กรรมาธิการทั้ง 2 คณะ ได้สอบถามเรื่องต้นทุน หน้าโรงแยกก๊าซของ ปตท. ซึ่งที่ผ่านมาได้เรียก นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.มาชี้แจงหลายครั้ง แต่มีการหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด จึงอาจให้ใช้อำนาจตามกฎหมายออกคำสั่งให้มาชี้แจง
อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการมีมติก่อนหน้านี้ เห็นด้วยในการปรับราคาแอลพีจีครัวเรือน แต่ขอให้พิจารณาช่วยเหลือกลุ่มหาบเร่แผงลอยให้ครอบคลุมทั้งหมด
ทั้งนี้ กรรมาธิการทั้ง 2 คณะ ได้สอบถามเรื่องต้นทุน หน้าโรงแยกก๊าซของ ปตท. ซึ่งที่ผ่านมาได้เรียก นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.มาชี้แจงหลายครั้ง แต่มีการหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด จึงอาจให้ใช้อำนาจตามกฎหมายออกคำสั่งให้มาชี้แจง
อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการมีมติก่อนหน้านี้ เห็นด้วยในการปรับราคาแอลพีจีครัวเรือน แต่ขอให้พิจารณาช่วยเหลือกลุ่มหาบเร่แผงลอยให้ครอบคลุมทั้งหมด