ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นไทยปิดลดง 11.95จุด อยู่ที่ระดับ 1,501.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,364.42 ล้านบาท จากข่าวการปรับลด GDP ของจีนลง และนักลงทุนรอฟังผลประกอบการไตรมาส 2 โบรกฯคาดดัชนีแกว่งตัวตลอดจนถึงสิ้นเดือน ด้าน"ภัทธีรา" เผยครึ่งปีหลังตลาดทุนไทยปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก เตือนนักลงทุน ยังนอนใจไม่ได้
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้(24 ก.ค.) ปิดที่ระดับ 1,501.36 จุด ปรับตัวลดลง 11.95 จุด หรือ -0.79% มูลค่าการซื้อขาย 53,364.42 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,519.21จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,496.88 จุด ภาพรวมดัชนีหลักทรัพย์ ปรับตัวลดลงสวนตลาดยุโรป หลังจากวันก่อนปรับตัวขึ้นมาแรง จากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง
นายกษมพนธ์ เหมนิลรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสและผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสืบเนื่องจากวันอังคารที่ 23 ที่ผ่านมา ดีดตัวขึ้นมาแรงจากแรงขายทำกำไร จากนักลงทุนที่ชะลอความกังวลในมาตรการ QE ของสหรัฐ จึงเทขายทำกำไรออกมา
อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดหุ้นไทยสามารถในช่วงระยะเวลานี้ การกลับมายืนสวนตลาดได้ในระดับ 1,501 จุด ซึ่งคาดว่าหลังจากประกาศกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ดัชนีจะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นลงตามไปด้วย ทั้งนี้หุ้นในกลุ่มสื่อสาร ยังคงสามารถทำกำไรได้ดีจากการพัฒนาระบบ 3G และเตรียมที่จะประมูลทีวีดิจิตอลในอีก 2 เดือนข้างหน้า หุ้นกลุ่มธนาคาร และรับเหมาก่อสร้างก็ยังเป็นหุ้นที่มีมูลค่าจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีอยู่ และในครึ่งปีหลังนโยบายตราสารหนี้ภาครัฐที่จะประกาศออกมาใช้ มีโอกาสที่จะผลักดันหุ้นไทยให้ไปต่อได้ที่ระดับ 1,500-1,550 จุด
ทำให้คาดว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้(25ก.ค.) คาดว่าแนวรับจะอยู่ที่ 1,495จุด ส่วนแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,520 และแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยจะยังคงขึ้นลงผันผวนไปอีกอยางน้อยจนถึงสิ้นเดือนนี้
**นายกสมาคม บล.คาดตลาดหุ้นครึ่งปีหลังแผ่ว
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีรภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า สถานการณ์การลงทุนในครึ่งปีหลังนี้ มีแน้วโน้มปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก จากนโยบายผ่อนคลาย ทางการเงินของสหรัฐหรือ QE ที่ได้ประกาศออกมาก่อนนี้ว่าจะลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจลง และอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทยังอยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
โดยนักลงทุนควรพิจารณาจากผลกำไรประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของบริษัทจดทะเบียน ที่กำลังจะประกาศออกมาในเร็วๆนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อสภาพคล่องตลาดหุ้นโดยรวมทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะมีผลประกอบการกำไรที่ออกมาในเกณฑ์ที่ดี เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลัง วอลุ่มการซื้อขายจากประมาณการเฉลี่ยคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาทเทียบกับปีที่แล้วที่อยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ภาพรวมกำลังอยู่ในช่วงปรับฐาน คาดว่าดัชนี SET INDEX ทั้งปีน่าจะอยู่ในระดับ 1,500 จุด ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้(24 ก.ค.) ปิดที่ระดับ 1,501.36 จุด ปรับตัวลดลง 11.95 จุด หรือ -0.79% มูลค่าการซื้อขาย 53,364.42 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,519.21จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,496.88 จุด ภาพรวมดัชนีหลักทรัพย์ ปรับตัวลดลงสวนตลาดยุโรป หลังจากวันก่อนปรับตัวขึ้นมาแรง จากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง
นายกษมพนธ์ เหมนิลรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสและผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสืบเนื่องจากวันอังคารที่ 23 ที่ผ่านมา ดีดตัวขึ้นมาแรงจากแรงขายทำกำไร จากนักลงทุนที่ชะลอความกังวลในมาตรการ QE ของสหรัฐ จึงเทขายทำกำไรออกมา
อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดหุ้นไทยสามารถในช่วงระยะเวลานี้ การกลับมายืนสวนตลาดได้ในระดับ 1,501 จุด ซึ่งคาดว่าหลังจากประกาศกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ดัชนีจะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นลงตามไปด้วย ทั้งนี้หุ้นในกลุ่มสื่อสาร ยังคงสามารถทำกำไรได้ดีจากการพัฒนาระบบ 3G และเตรียมที่จะประมูลทีวีดิจิตอลในอีก 2 เดือนข้างหน้า หุ้นกลุ่มธนาคาร และรับเหมาก่อสร้างก็ยังเป็นหุ้นที่มีมูลค่าจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีอยู่ และในครึ่งปีหลังนโยบายตราสารหนี้ภาครัฐที่จะประกาศออกมาใช้ มีโอกาสที่จะผลักดันหุ้นไทยให้ไปต่อได้ที่ระดับ 1,500-1,550 จุด
ทำให้คาดว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้(25ก.ค.) คาดว่าแนวรับจะอยู่ที่ 1,495จุด ส่วนแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,520 และแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยจะยังคงขึ้นลงผันผวนไปอีกอยางน้อยจนถึงสิ้นเดือนนี้
**นายกสมาคม บล.คาดตลาดหุ้นครึ่งปีหลังแผ่ว
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีรภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า สถานการณ์การลงทุนในครึ่งปีหลังนี้ มีแน้วโน้มปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก จากนโยบายผ่อนคลาย ทางการเงินของสหรัฐหรือ QE ที่ได้ประกาศออกมาก่อนนี้ว่าจะลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจลง และอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทยังอยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
โดยนักลงทุนควรพิจารณาจากผลกำไรประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของบริษัทจดทะเบียน ที่กำลังจะประกาศออกมาในเร็วๆนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อสภาพคล่องตลาดหุ้นโดยรวมทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะมีผลประกอบการกำไรที่ออกมาในเกณฑ์ที่ดี เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลัง วอลุ่มการซื้อขายจากประมาณการเฉลี่ยคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาทเทียบกับปีที่แล้วที่อยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ภาพรวมกำลังอยู่ในช่วงปรับฐาน คาดว่าดัชนี SET INDEX ทั้งปีน่าจะอยู่ในระดับ 1,500 จุด ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
