xs
xsm
sm
md
lg

CKจ่อเก็บหุ้นBMCLเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ช.การช่าง คาดไตรมาส 2/56 มีรายได้รวม 8 พันล้านบาท โดยรับรู้กำไรจากการขายหุ้นBMCL 1พันล้านบาท ส่วนไตรมาส 3 มีกำไรพิเศษจากCKPอีก 300-400 ล้านบาท ทำให้ทั้งปีมีรายได้รวม 3.6 หมื่นล้านบาท เผย 1-2ปีนี้ไม่มีแผนขายหุ้นบริษัทในเครืออีก มีแต่จะซื้อหุ้น BMCL เพิ่มขึ้น ทำให้ปีหน้ากำไรต่ำกว่าปี 56 มั่นใจรัฐเร่งผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อดันGDPเพิ่มขึ้น

นายประเสริฐ มริตตนะพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มงานบริหาร บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK) เปิดเผยผลดำเนินงานไตรมาส 2/2556 ว่า บริษัทฯมีรายได้รวม 8 พันล้านบาทแบ่งเป็นรายได้ก่อสร้าง 7 พันล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้น 8-10% รับรู้กำไรจากการขายหุ้น บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) ประมาณ 1 พันล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือหุ้น BMCLลดลงเหลือ 16.64% โดยผลดำเนินงานไตรมาส 2นี้จะต่ำกว่าไตรมาสก่อน ที่มีรายได้รวม 1.45 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการก่อสร้าง 8 พันล้านบาท และรายได้จากการลงทุน 6 พันล้านบาทในการขายหุ้นบมจ.น้ำประปาไทย 11% ด้วย
ส่วนไตรมาส 3 นี้ คาดว่าจะมีรายได้จากงานก่อสร้าง 7 พันล้านบาท และมีกำไรพิเศษจากการลดสัดส่วนในบมจ.ซีเค พาวเวอร์(CKP) ลงจาก 38% เหลือ 31.8% หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมาณ 300-400 ล้านบาท ดังนั้นเป้าหมายในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวม 3.6 หมื่นล้านบาท เป็นรายได้ก่อสร้าง 3 หมื่นล้านบาท โดยปีนี้มีอัตรากำไรขั้นต้น 8-10% ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯจะมีงานใหม่เข้ามาอีก 3
โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม เฟส 2 โครงการงานจัดซื้อระบบรถไฟฟ้าและบริหารโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ และโครงการขยายกำลังผลิตน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค ลำปาง รวมมูลค่าประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯงานในมือ(backlog)เพิ่มขึ้นเป็น 1.4-1.5 แสนล้านบาทในปลายปีนี้ ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้เติบโตเฉลี่ย 10%ต่อเนื่องไปอีก
5ปีข้างหน้าตามงานที่มีอยู่ในมือและงานใหม่ที่เข้ามาโดยเฉพาะงานภาครัฐตามโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ช.การช่างไม่มีแผนจะขายหุ้นบริษัทในเครือทั้ง BECL . TTW, CKP และ BMCL ออกไปอีก ขณะเดียวกันจะหาโอกาสที่จะซื้อหุ้น BMCL เพิ่มจากปัจจุบันถืออยู่ 16.64% เนื่องจากเห็นแนวโน้มการเติบโตสูงเมื่อโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมโยงกันหลายสาย ดังนั้นในปี 2557 บริษัทฯจะมีกำไรสุทธิลดลงจากปี 2556
เนื่องจากไม่มีกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนอีก
อย่างไรก็ตาม หากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาทชะลอออกไป ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากงานในมือที่มีอยู่ 1.5 แสนล้านบาท หากเฉลี่ย 5 ปีข้างหน้า แล้วจะรับรู้รายได้ปีละ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งตนเห็นว่าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทถือเป็นงานสำคัญที่ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนเข้ามาก็จำเป็นต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง โดยบริษัทฯพร้อมที่จะเข้าไปร่วมประมูลหรือร่วมลงทุน อีกทั้งเชื่อว่ารัฐบาลคงจะเร่งโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในปีนี้ทั้ง รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) รถไฟฟ้าสีแดง (รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์) รถไฟทางคู่ และ มอเตอร์เวย์ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของGDP

นอกจากนี้ บริษัทฯความสนใจที่จะจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังรีบร้อน เพราะไม่มีความจำเป็นต้องเร่งใช้เงินในช่วงนี้ ซึ่งบริษัทลูกทั้ง บมจ. ทางด่วนกรุงเทพฯ (BECL) และบมจ.น้ำประปาไทย ก็สามารถตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ ที่ผ่านมา บริษัทฯมีการเตรียมเงินลงทุนเพียงพอที่จะขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศอยู่แล้ว

*** จ่อออกหุ้นกู้ปีหน้า2-3พันลบ.

นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทฯ ไม่มีแผนออกหุ้นกู้เพิ่มเติมหลังจากออกหุ้นกู้ไปแล้ว 4 พันล้านบาทไปก่อนหน้านี้ แม้ว่าในเดือนตุลาคมนี้ จะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนวงเงิน 2 พันล้านบาท แต่บริษัทฯ ยังมีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะไถ่ถอนคืนเจ้าหนี้ได้ ส่วนปีหน้าบริษัทฯมีแผนจะออกหุ้นกู้เฉลี่ยปีละ 2-3 พันล้านบาท
โดยบริษัทฯจะขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติวงเงินออกหุ้นกู้ 2 หมื่นล้านบาทจากเดิมผู้ถือหุ้นได้เคยอนุมัติวงเงินไปแล้ว 1.7 หมื่นล้านบาท และบริษัทฯได้มีออกหุ้นกู้ไปแล้วรวม 1.6 หมื่นล้านบาท
จากการที่บริษัทได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งใน SET 50 ทำให้หุ้น CK เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปและสถาบันทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก และเพื่อสร้างความมั่นใจและให้ข้อมูลที่ครบถ้วนแก่ผู้ลงทุน บริษัทได้จัดโรดโชว์แก่นักลงทุนสถาบันในประเทศ ระหว่าง 25-31 ก.ค.นี้ และ ในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย. 56 จะไปโรดโชว์ให้แก่นักลงทุนสถาบันในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์
ฮ่องกง โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดี
////
กำลังโหลดความคิดเห็น